Share

บทที่ 13

องค์ชายหกวางแผนมานานหลายปี ในการก่อกบฏ คล้ายทุกอย่างแยบยล

ทว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น!

กุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ คือทหารพันนายของตระกูลซู!

หลี่เซวียนอยากจะเป็นเขยของตระกูลซู อยากใช้ทหารตระกูลซูในการก่อกบฏ

ทว่าหลี่หลงหลินชิงลงมือก่อน ใช้ทหารตระกูลซูรักษาความสงบ!

ความสำเร็จของจักรพรรดิ คือการขยายอณาเขต

ความสำเร็จของข้าราชบริพาร คือการรักษาความสงบและฟังคำสั่งของจักรพรรดิ!

หากตระกูลซูพลิกวิกฤตได้ สยบความโกลาหล สร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็พลิกชะตาของตระกูลได้!

เมื่อฮ่องเต้หวู่โสมนัส ต้องตกรางวัลอย่างงามแน่นอน!

เวลานี้ตระกูลซูไร้บุรุษ เหลือเพียงหญิงหม้าย ภายใต้การสนับสนุนของจักรพรรดิ ใช่ว่าจะไม่อาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!

เพียงแต่

องค์ชายหกก็ไม่ได้โง่เขลา ในเมื่อเขารู้แล้วว่าจดหมายหายไป ต้องเตรียมความพร้อมอย่างแน่นอน วางกำลังทหารซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวง!

สีหน้าของหลี่หลงหลินเคร่งขรึม ถอนหายใจ “ทางออกเดียวของตระกูลซู คือใช้ตราพยัคฆ์มาช่วย นำทหารที่เหลืออยู่มาสยบความโกลาหลในเมืองหลวง! แต่ว่า องค์ชายหกต้องขัดขวางอย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้เปี่ยมไปด้วยอันตราย เสี่ยงตายอย่างมาก!”

“ข้าต้องประชุมราชสำนัก เปิดโปงองค์ชายหกต่อหน้าเสด็จพ่อ! ไม่อาจไปจริงๆ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ น่าเสียดายข้าชราภาพมากแล้ว หากข้าสาวกว่านี้ห้าสิบปี สยบความวุ่นวายเพียงเล็กน้อยนี้ เป็นเรื่องง่ายดี! กาลเวลาไม่คอยใคร...”

ซูเฟิ่งหลิงร้อนใจ เสนอตัว “พวกท่านกำลังพูดอะไร? ยังมีข้าไม่ใช่หรือ? ข้านำตราพยัคฆ์ ออกนอกเมืองไปบอกพวกทหารได้!”

หลี่หลิงหลินชำเลืองมองซูเฟิ่งหลิง เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “เจ้า? ไว้ใจได้หรือ?”

ซูเฟิ่งหลิงกระทืบเท้าด้วยความโมโห “แม้ข้าจะไว้ใจไม่ได้เพียงใด ก็ดีกว่าคนไม่เอาถ่านเช่นท่าน!”

หลี่หลงหลินโบกจดหมายในมือ หัวเราะแล้วพูด “อย่าลืมสิ คนไม่เอาถ่านคนนี้ เป็นคนได้จดหมายมา แต่เจ้ากลับทำพลาด ทั้งยังแหวกหญ้าให้งูตื่น ทำให้เจ้าหกกลายเป็นสุนัขจนตรอก!”

พวกแก้มของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ ก้มหน้าเงียบ

นางทระนงมาโดยตลอด คิดว่าพวกบุรุษล้วนไม่เอาถ่าน!

โดยเฉพาะองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน คือคนไม่เอาถ่านท่ามกลางคนไม่เอาถ่าน!

แต่สุดท้ายองค์ชายเก้าที่ไร้ความสามารถคนนี้ ไม่เพียงกลายเป็นสามีของตน ทั้งยังข่มตนด้วยการขโมยจดหมายมาได้ ทำให้ตนรู้สึกด้อยค่า

สิ่งนี้ทำให้เปลวไฟในใจซูเฟิ่งหลิงลุกโชน อยากจะพิสูจน์ตนเอง

ตึ้ง!

ซูเฟิ่งหลิงทุบโต๊ะน้ำชา กัดฟันแน่น “ข้าสั่งพวกทหารได้! หากล้มเหลว พร้อมที่จะเดินหิ้วหัวกลับมา!”

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “หากเจ้าทำพลาด พวกเราก็ต้องตายกันหมด! ยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะเอาหัวของเจ้าไปทำอะไร?”

ซูเฟิ่งหลิงร้อนใจดั่งไฟสุม พูดด้วยความโมโห “เช่นนั้นท่านพูดมาสิว่าควรทำอย่างไร?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูอยู่ข้างๆ คอยเกลี้ยกล่อม “สถานการณ์คับขัน พวกเจ้าสองคนหยุดเถียงกันได้แล้ว ต้องเห็นแก่ส่วนรวม! หลี่หลง แม้หลานสาวของข้าจะไม่เอาไหน แต่ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว ให้นางไปเถอะ!”

ซูเฟิ่งหลิงช้ำใจยิ่งนัก

แม้ท่านย่าจะพูดเข้าข้างตน แต่คำว่าไม่เอาไหนหมายความว่าอย่างไร?

หลี่หลงหลินพยักหน้า “ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปากขอร้องแล้ว เช่นนั้นก็ให้เจ้าไปแล้วกัน!”

ซูเฟิ่งหลิงร้องตะโกนด้วยความดีใจ รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ฮูหยินผู้เฒ่าซูรีบคว้านางเอาไว้ หยิบตราพยัคฆ์ออกมาแล้วยื่นให้นาง “หลานคนนี้ พึ่งอะไรไม่ได้จริงๆ! ยังไม่ได้เอาตราพยัคฆ์เลย!”

ซูเฟิ่งหลิงรีบรับตราพยัคฆ์เอาไว้ เชิดหน้าให้หลี่หลงหลิน แล้วเข้าไปในเรือน เปลี่ยนเป็นชุดเกราะสีเงิน ผูกเสื้อคลุมสีแดง กระโดดควบม้าแดง คว้าหอกสีเงิน แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะควบม้าออกไป

หลี่หลงหลินมองความใจร้อนของซูเฟิ่งหลิง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ฮูหยินผู้เฒ่า หลานสาวของท่าน ไม่มีความเป็นกุลสตรีแม้แต่น้อย!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจ “เฮ้อ เฟิ่งหลิงหลานสาวคนนี้ เสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ฝึกฝนวรยุทธ์กับพ่อและปู่ของนางตั้งแต่เล็ก เป็นคนบุ่มบ่ามไปหน่อยก็จริง”

“แต่ความจริงแล้ว นางจิตใจดีมาก...”

หลี่หลงหลินอ่อนไหว ปวดใจเล็กน้อย “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง! นางก็เป็นคนน่าสงสารคนหนึ่ง!”

หลี่หลงหลินเปลี่ยนบทสนทนา พูด “วรยุทธ์ของนางเป็นอย่างไร? การเดินทางครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก คงจะไม่เป็นอะไรกระมัง?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ้มบางๆ “วรยุทธ์ของนาง แค่ทั่วไป ไม่อาจเทียบกับข้าสมัยสาวๆ ได้ แต่ว่า ก็มากพอที่จะพิชิตอันดับหนึ่งในสามกองทัพ ท่ามกลางทหารหมื่นนาย เอาหัวศัตรูมาได้!”

“...”

สีหน้าของหลี่หลงหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

พิชิตอันดับหนึ่งในสามกองทัพ?

เสือโง่เขลาตัวนี้ เก่งกาจเพียงนี้เชียวหรือ?

เช่นนั้นวันหน้าตนต้องพูดรักษาน้ำใจ อย่าทำให้นางโมโหแล้วกระมัง!

มิเช่นนั้น หากเสือสาวตัวนี้บ้าคลั่งขึ้นมา เกรงว่าไม่มีใครห้ามนางได้

เวลานี้ ซูเฟิ่งหลิงพร้อมกับม้าหนึ่งตัว เดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว มุ่งหน้าไปยังค่ายทหาร!

“เจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลิน!”

“ท่านกล้าดูแคลนข้าหรือ!”

“ข้าจะทำให้ท่านมองข้าใหม่!”

ความโมโหสุมอยู่เต็มอกของซูเฟิ่งหลิง กวาดสายตามองไปรอบๆ

ทหารซุ่มโจมตีเล่า?

ทหารซุ่มโจมตีอยู่ที่ใด?

หลี่หลงหลิน คงไม่ได้หลอกข้ากระมัง!

ถนนด้านหน้า มีทหารชุดเกราะสีดำปรากฏตัวตามที่คาดไว้ ขวางทางซูเฟิ่งหลิง

คนพวกนี้เหี้ยมโหด อาวุธครบมือ แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี!

ทว่าซูเฟิ่งหลิงกลับดีใจ ดวงหน้างดงามเปื้อนยิ้ม

มีทหารซุ่มโจมตีจริงๆ ด้วย!

หลี่หลงหลินถือว่าเจ้าเก่งมาก ที่เดาถูก!

ความเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ ข้าไม่อาจสู้ท่านได้!

เวลานี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาแสดงความสามารถของข้าแล้ว!

“ฆ่ามัน!”

ซูเฟิ่งหลิงไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ผ้าคลุมด้านหลังโบกสะบัด!

เงาแดง พุ่งตัวไป!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status