Share

บทที่ 12

พรึ่บ!

ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!

หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!

หรือตนคิดผิดแล้ว?

เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!

หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?

หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น

“แย่แล้ว!”

“ตกหลุมพรางแล้ว!”

หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลง

หลังจากผ่านไปนาน

ในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตน

ซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”

ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”

หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”

ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน “องค์ชาย! เคลื่อนกำลังพลรุ่งสางวันพรุ่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ? เร่งด่วนเกินไปหรือไม่? เวลานั้น อย่างมากทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ไกลออกไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น! หากพวกเขานำทัพกลับมา แผนการที่เราวางมาหลายปี จะสูญเปล่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยังมีทหารพันกว่านายของตระกูลซูอีก เรายังไม่อาจทำให้พวกเขาแปรพักตร์...”

หลี่เซวียนสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าย่อมรู้ดีว่า เร่งด่วนเกินไป! หากเตรียมการอีกสามสี่วัน ทำให้ทหารตระกูลซูแปรพักตร์มาได้ จะไม่มีข้อผิดพลาด! แต่ว่า...”

“ไม่ทันการแล้ว!”

“มีคนลักลอบเข้ามาในห้องหนังสือของข้า ขโมยจดหมายระหว่างข้ากับเผ่าหมาน!”

“พรุ่งนี้ในราชสำนัก คนๆ นี้ต้องรายงานเรื่องของข้าอย่างแน่นอน!”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเคลื่อนกำลังพลของข้า!”

“ชนะเป็นราชัน แพ้เป็นโจร ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้!”

ซุนกวางเสี้ยวตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น พูด “เช่นนั้นจะรายงานใต้เท้าคนนั้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ...”

หลี่เซวียนกำหมัดแน่น ส่ายหน้า “ไม่ต้อง! ถึงอย่างไรเขาก็ดูแคลนข้ามาโดยตลอด คิดว่าข้าไม่อาจทำการใหญ่ได้! ครั้งนี้ หากข้าทำเสร็จ เขาต้องยอมศิโรราบใต้ฝ่าเท้า ก้มหัวให้ข้าแน่นอน!”

“จริงด้วย! เจ้าส่งคนไปซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวงด้วย! เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด!”

ซุนกวางเสี้ยวโค้งคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ!”

อีกด้านหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงกลับถึงตระกูลซู ด้วยสภาพน่าเวทนา

หลี่หลงหลินถึงก่อนแล้ว สีหน้าฉายความผ่อนคลาย จิบน้ำชากับฮูหยินผู้เฒ่าซู

ซูเฟิ่งหลิงโมโห พุ่งตัวไปใกล้ ชี้หน้าด่าหลี่หลงหลิน “คนสารเลว! ท่านรู้หรือไม่ ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! หากไม่ใช่เพราะข้าหนีออกมาได้ทันเวลา ข้าคงถูกองค์ชายหกจับตัวไปแล้ว!”

หลี่หลงหลินวางถ้วยน้ำชาลง พูดด้วยรอยยิ้ม “หากไม่ใช่เพราะข้าปรากฏตัวทันเวลา เจ้าอยู่ในกำมือขององค์ชายหกไปแล้ว! เจ้าควรขอบคุณข้าต่างหาก ตำหนิข้าได้อย่างไร?”

ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาล “ขอบคุณกับผีหน่ะสิ! ท่านยังบอกอีกว่าจะหย่ากับข้า ท่านๆๆ...น่าโมโหจริงๆ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูพูดไกล่เกลี่ย “หลานรัก อย่าเพิ่งทะเลาะกัน! จดหมายการติดต่อระหว่างองค์ชายหกกับเผ่าหมานล่ะ? หลานเอามาได้หรือไม่?”

พวงแก้มของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ ก้มหน้าลง “ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือ องค์ชายหกก็ปรากฏตัวแล้ว ทั้งยังเกือบจับข้าได้ ตอนหลังข้ารีบเผ่นหนี จึงลืมเรื่องจดหมายไปเสียสนิท”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูทอดถอนหายใจ “เฮ้อ! เจ้าหนอ ฝึกวรยุทธ์จนโง่เขลา! ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องฆ่าแกง เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ...”

พู่...

หลี่หลงหลินได้ยินซูเฟิ่งหลิงถูกด่อทอ อดไม่ได้ที่จะพ่นน้ำชาในปากออกมา

ซูเฟิ่งหลิงน้อยอกน้อยใจ เห็นหลี่หลงหลินหัวเราะเยาะตนเอง ยิ่งโมโห “หัวเราะ! ท่านยังมีหน้ามาหัวเราะอีก! ทั้งหมดเป็นเพราะท่านเป็นตัวถ่วง มิเช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกท่านย่าดุด่า...”

หลี่หลงหลินหยิบจดหมายออกมาหนึ่งฉบับจากแขนเสื้อ วางไว้บนโต๊ะ “เจ้าอย่าโยนความผิดให้ผู้อื่น! เจ้าทำพลาด เป็นเพราะตัวเจ้าโง่เขลา! แต่ข้าทำสำเร็จ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูและซูเฟิ่งหลิงมองไปทางเดียวกัน เห็นจดหมายมีลายมือของ ‘องค์ชายหก’ มีการลงนามของแม่ทัพจาเอ๋อร์ปาแห่งเผ่าหมาน

ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง พูดด้วยความตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเอามาเมื่อใด?”

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “เจ้าอย่ายุ่ง! ถึงอย่างไร ก็มีหลักฐานแน่นหนาแล้ว โค่นองค์ชายหกได้แน่นอน!”

เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าซูสั่นเทา “เปิดจดหมาย ข้าอยากดูสิว่า องค์ชายหกทำร้ายตระกูลซูอย่างไร!”

หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่จำเป็น! เนื้อความในใจจดหมาย ข้าอ่านแล้ว เป็นหลักฐานการขายชาติขององค์ชายหกจริงๆ!”

“สำหรับต้าเซี่ย เป็นเรื่องอื้อฉาว ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าใดก็ยิ่งดี”

“หากตระกูลซูรู้เนื้อความในจดหมาย เกรงว่าเสด็จพ่อจะเกลียดแค้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูได้ยินเช่นนั้น เหงื่อท่วมตัวทันที “องค์ชายเก้าพูดถูก! เนื้อความในจดหมายฉบับนี้ พวกข้าไม่อ่านจะเป็นการดีที่สุด!”

หลี่หลงหลินกดเสียงลงต่ำ พูด “แต่ว่า! พี่หกเป็นคนร้ายกาจ! เขาต้องเห็นความผิดปกติแล้ว เกรงว่าจะเป็นสุนัขจนตรอก เช้าวันพรุ่งนี้ เคลื่อนกำลังทหารก่อกบฏก็เป็นได้!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกตะลึง “ก่อกบฏ? องค์ชายหกใจกล้ายิ่งนัก แต่ว่า ทหารรักษาพระองค์เดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองหลวงไร้กำลังทหาร ในวังหลวงเหลือทหารรักษาการณ์ไม่กี่ร้อยนายเท่านั้น!”

“หากองค์ชายหกอาศัยโอกาสนี้ก่อกบฏ แล้วจะทำอย่างไร?”

ดวงตาของหลี่หลงหลินทอประกาย “เหล่าไท่จวิน ตราพยัคฆ์ทหารตระกูลซูอยู่กับท่านหรือไม่?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกใจ “ตราพยัคฆ์อยู่กับข้า! แต่ท่านจะเอาตราพยัคฆ์ไปทำอะไร? หรือว่า...”

หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ถูกต้อง! ตราพยัคฆ์นี้ เป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status