Share

บทที่ 12

เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย

การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีก

แต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น

เขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาว

โดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไร

เพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้น

มีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้ว

ในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์

รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุด

เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง

“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้า

เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”

เธอแปลกใจเล็กน้อย เมื่อก่อนเวลามาที่ห้องซ้อมเต้นจะไม่มีผู้ชายคนอื่นนอกจากหวังเฟยเข้ามาได้เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงมีผู้ชายเข้ามาเยอะกว่าเดิมได้แบบนี้?

ก่อนที่เย่ซิวจะได้พูดอะไร เพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะอะไรเสียอีกล่ะ เขาก็คงจะมาขอวีแชทเธอ ไม่ก็สารภาพรักแน่ ๆ”

เนื่องจากเป็นจุดสนใจของฝูงชน สถานที่แห่งนี้จึงดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างรวดเร็ว

เย่ซิวดูสงบ “คุยที่นี่ไม่เหมาะ เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันได้ไหม?”

เรื่องของไข่มุกราชาแห่งยาสำคัญเกินกว่าที่เขาจะพูดในที่สาธารณะ

“ขอโทษที อีกสักพักฉันต้องไปเรียน ฉันเลยไปกับนายไม่ได้ ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดตรงนี้ได้เลยแล้วกัน”

เธอไม่รู้ว่ามีคนจีบเธอกี่คนตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และตอนนี้เธอก็คิดไปเองแล้วว่าเย่ซิวเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อยากจะจีบเธอ

และเธอก็เห็นอะไรแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

เพื่อนสนิทที่อยู่ถัดจากลู่เสวี่ยเอ๋อร์แซวว่า “เสวี่ยเอ๋อร์น่ะจีบยาก แล้วเธอก็มีมาตรฐานที่สูงมาก มาจีบฉันสิ ฉันจีบง่ายกว่านะ”

เย่ซิวตกตะลึงเล็กน้อย “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจีบเธอ ผมมีเรื่องด่วนจริง ๆ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยังคงยิ้มต่อไป

บ้านของเธอสอนมาดี จึงมีนิสัยที่อ่อนโยนและไม่ค่อยโกรธใคร

เธอมักจะปฏิเสธอย่างสุภาพต่อคนที่มาจีบเหล่านั้นและไม่เคยพูดจารุนแรงกับใครเลย

เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ได้รับความนิยมอย่างมากในมหาลัย และเด็กสาวทุกคนก็ชอบเธอ น้อยคนนักที่จะคิดอิจฉาเธอ

หวังเฟยเข้ามาพูดกับเย่ซิว “เพื่อนนักศึกษา เสวี่ยเอ๋อร์ปฏิเสธนายอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นก็อย่าทำให้เธอลำบากใจเลย ออกไปเถอะ”

เย่ซิวมองไปยังเพื่อนนักศึกษาหลายคนที่อยู่รอบตัวเขา พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ “ถ้างั้นก็เจอกันคราวหน้า”

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะพูดคุยด้วยจริง ๆ แต่ถึงยังไงเขาก็รู้แล้วว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์หน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีเวลาเหลืออีกมาก

เขาหันหลังเดินออกจากห้องซ้อมเต้นไป

หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อด้วยสีหน้าเสน่หา “เสวี่ยเอ๋อร์ ฉันจองร้านอาหารตะวันตกไว้ สเต็กที่นั่นอร่อยมาก ไปกินด้วยกันหลังเลิกเรียนเถอะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ส่ายหัวปฏิเสธ “ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีธุระ อีกอย่าง เพื่อนนักศึกษาหวัง อย่าเสียเวลาเสียเงินกับฉันเลย เราไม่เหมาะกันหรอก”

ท่าทางของหวังเฟยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เสวี่ยเอ๋อร์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ ในชีวิตนี้ฉันก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่แต่งงานกับใครอีกนอกจากเธอ ฉันจะพยายามต่อไป ไม่ว่าจะหนึ่งเดือนหนึ่งปี สิบปีหรือยี่สิบปี ฉันก็จะรอแต่เธอเสมอ”

เด็กสาวหลายคนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกประทับใจอย่างมากหลังจากได้ยินประโยคนี้

“ว้าว เพื่อนนักศึกษาหวังเฟยช่างน่ารักจริง ๆ”

“เขาหล่อขนาดนั้น แถมว่ากันว่าตระกูลของเขาก็รวยมากด้วย ถ้าเป็นฉันคงตอบตกลงไปนานแล้ว”

“ฉันยอมเอาเวลาโสดสิบปีของเพื่อนร่วมชั้นมาแลกกับแฟนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้เลย”

……

“เพื่อนนักศึกษาหวัง ฉันต้องไปเรียนแล้ว ลาก่อนนะ”

หลังจากพูดจบ ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ลากเพื่อนสนิทของเธอเดินจากไป

หวังเฟยส่งเธอด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อยไร้ที่ติ

หลังจากที่เห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์หายไปจากสายตา หวังเฟยก็มีสีหน้าขรึมขึ้น

ขณะนี้จางเทาและคนอื่น ๆ พากันเดินกะเผลกเข้ามา

เย่ซิวเพิ่งสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาไป และหลังจากช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

เพียะ!

หวังเฟยตบหน้าจางเทา พลางส่งเสียงเย็นชา “ไอ้คนไร้ประโยชน์ กับอีแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แกก็ยังจัดการให้ดีไม่ได้ แกไปมีเรื่องอะไรกับคนเมื่อกี้?”

จางเทากุมใบหน้าและรู้สึกผิด “นายน้อย ผู้ชายคนนั้นค่อนข้างแปลกและแข็งแกร่งมาก พวกเราพี่น้องถูกเขาล้มกันหมดอย่างง่ายดาย ผมสงสัยว่าเขาอาจเป็นจอมยุทธ์ และเขาอาจจะเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งด้วย!”

“จอมยุทธ์ระดับหนึ่ง? ไม่แปลกใจที่จะกล้าทำตัวหยิ่งผยองขนาดนี้!” ท่าทางของหวังเฟยดูบึ้งตึง “เจอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นไหม?”

“เจอแล้วครับ เขาชื่อเย่ซิว เพิ่งเข้ามาเรียนวันนี้ เขาคงไม่มีภูมหลังอะไร ผมส่งเหล่าพี่น้องไปติดตามเขาแล้ว”

หวังเฟยไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

รอสายเพียงครู่เดียว เสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากปลายสาย

“หวังเฟยเหรอ? มีอะไรรึเปล่า?”

“ลุงหลี่ ผมต้องการความช่วยเหลือ มีไอ้เด็กสารเลวคนหนึ่งทำให้ผมไม่พอใจ ลุงช่วยหักแขนขาของมันแล้วส่งมันไปลงหลุมให้ทีครับ”

“ได้ แกส่งที่อยู่มันมาให้ลุงหน่อย”

“ขอบคุณมากนะครับลุงหลี่ ไว้ผมกลับไปจะเชิญลุงไปทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกันนะครับ”

“ฮ่า ฮ่า จะกินหรือไม่กินก็ไม่เป็นไรหรอก ถึงตอนนั้นแค่เรียกเพื่อนนักศึกษาหญิงสักสองสามคนในมหาลัยของแกมาอยู่กับฉันหน่อยก็พอแล้ว”

“ไม่มีปัญหาครับ”

หลังจากวางสาย จางเทาก็เดินเข้ามาและถามอย่างระมัดระวัง “คุณชาย คนที่รับโทรศัพท์เมื่อกี้นี้คงจะเป็นหมาป่าตาเดียวผู้โด่งดังใช่หรือเปล่าครับ?”

“ใช่ ฉายาของลุงหลี่คือหมาป่าตาเดียว”

จางเทารู้สึกตื่นเต้น “หมาป่าตาเดียวเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่ดีที่สุดในเมืองเจียงเฉิงของเรา ตำนานเล่าว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสอง หากเขาเป็นคนลงมือ ไอ้เด็กนั่นจะต้องถูกจัดการอย่างเหี้ยมโหดแน่นอนครับ!”

หวังเฟยเตะจางเทา “หยุดพูดไร้สาระ รีบตามไอ้เด็กนั่นไปเดี๋ยวนี้ อย่าลืมไปดูด้วยตาตัวเองว่ามันถูกหักแขนหักขาโยนลงหลุม แล้วถ่ายรูปมาให้ฉันดูด้วย”

“ได้ครับ ผมจะไปทันที”

จางเทาจากไปพร้อมกับพรรคพวกของตน

ติ๊ง!

ได้รับข้อความทางโทรศัพท์

เมื่อเขาเปิดดู หวังเฟยก็ดูปลาบปลื้มใจ

ข้อความนี้ส่งมาจากเพื่อนสนิทของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

เขาอยากจะติดสินบนเพื่อนสนิทคนนี้มาโดยตลอด ให้เธอแฝงตัวและทำบางสิ่งให้เขา

แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยตอบตกลง ทว่าตอนนี้กลับส่งข้อความมาและตกลงตามคำขอของเขา

เนื้อหาในข้อความนั้นเรียบง่าย

: ให้ฉันสองล้าน ฉันจะขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไปกินข้าวเย็นกับฉันคืนนี้ แล้วฉันจะแอบใส่ยานอนหลับในอาหารของเธอ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status