Share

บทที่ 4

จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"

ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ

“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”

จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว

เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว

น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆ

เขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"

แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"

ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วย

จ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"

เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"

“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉันกัน?"

“อาจารย์ของผมคือหลี่เนี่ยน”

ตู้ม!

หนึ่งประโยคสั้น ๆ ก็สามารถทำให้จิตใจของจ้าวเฉียนตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว นัยน์ตาของเขาหดเล็กลงทันที

“พ่อ พ่อเป็นอะไรไป?” จ้าวเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของจ้าวเฉียน

“ในปีนั้นอาจารย์ของผมได้ช่วยคุณไว้ คุณมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ให้กับเขา ผมมาในวันนี้ก็เพราะต้องการขายหุ้นให้กับคุณตามราคาตลาด แค่เอาเงินสดมาให้ผมก็พอ”

การแสดงออกของจ้าวเฉียนเปลี่ยนไปไม่หยุด และในที่สุดเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ที่แท้ก็เป็นลูกศิษย์ของผู้มีพระคุณ แน่นอนย่อมไม่มีปัญหา ตามฉันไปที่ห้องทำงานแล้วหารือรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ"

พูดจบ เขาก็ผายมือทำท่าเชิญ

จ้าวเฟิงตะลึงงัน "พ่อ พ่อกำลังทำอะไร? ไอ้คนเถื่อนนี่น่ะหรือที่ถือครองหุ้นของบริษัทเราถึงห้าเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?"

ต้องรู้ก่อนว่า แม้แต่จ้าวเฉียนก็มีหุ้นอยู่ในครอบครองของเขาเพียงสิบห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่เขาก็ถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท

ตอนนี้เย่ซิวคือผู้ถือหุ้นลำดับที่สาม สถานะของเขาไม่ใช่ว่าอยู่เหนือกว่าเขาไปแล้วหรือ?

จ้าวเฉียนตวาด "หุบปาก!"

จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่ซิวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า "เชิญ"

เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป

หลังจากที่เห็นเขาเข้าไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเฉียนก็หายวับ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร"ปิดประตู แล้วฆ่าเขาซะ!"

“ครับ!”

ชายฉกรรจ์หลายคนกรูขึ้นไป จ้าวเฟิงปิดประตูเหล็กด้วยสีหน้าตื่นเต้น "พ่อ หลังจากที่เราทุบตีเขาจนตาย หุ้นของเขาก็จะกลายเป็นของเราใช่ไหม?”

จ้าวเฉียนพยักหน้า "ใช่ ตามข้อตกลงเดิม แค่ใช้ลายเซ็นของไอ้คนเถื่อนนี่ก็ได้แล้ว ตราบใดที่เราฆ่าเขา หุ้นเหล่านี้ก็จะเป็นของเราตลอดไป!"

หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ถ้าประเมินมูลค่าตามตลาดในปัจจุบัน จะมีค่ามากกว่าสองร้อยล้านหยวน ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลมาก

ปัง ปัง ปัง…

เสียงการต่อสู้ดังมาจากด้านในไม่หยุด สองพ่อลูกหันไปสบตากันและหัวเราะอย่างโหดร้าย

ไม่นานเสียงข้างในก็หายไป

จ้าวเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและเปิดประตูเหล็กอย่างกระตือรือร้น "คราวนี้ เรายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เพียงแต่ฉันจะได้รับหุ้นฟรี ๆ เท่านั้น ยังได้ตัวเซี่ยชิงชิงด้วย"

แกร๊ก

ประตูถูกเปิดออก แต่ทันใดนั้นสีหน้าของจ้าวเฟิงกลับแข็งทื่อทันที

ภาพที่เขาเห็น ไม่ใช่ฉากการเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจของเย่ซิว เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างครบสามสิบสอง

แต่คนของเขาทุกคน ตอนนี้ล้มลงไปนอนกับพื้น น้ำลายฟูมปากและชักกระตุกไม่หยุด

“อะไร? แปลกใจเหรอ?” เย่ซิวพูดอย่างเย็นชา

‘อาจารย์พูดถูก โลกใบนี้มันอันตราย!’

คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าแค่จะมารับของที่เป็นของตัวเอง กลับถูกลอบเล่นงานแบบนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองมีวรยุทธติดตัวอยู่บ้าง เขาอาจจะตายไปแล้ว

จ้าวเฟิงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขาเซถอยหลังไป

จ้าวเฉียนเองก็ก้าวถอยหลังอย่างเงียบ ๆ เห็นได้ชัดว่าตกใจไม่น้อยเลย

เย่ซิวเพียงคนเดียว ก็สามารถล้มชายที่แข็งแกร่งหลายสิบคนของเขาได้ แถมเสื้อผ้าบนตัวเขายังไม่มีรอยยับเลยแม้แต่น้อย

นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าความแข็งแกร่งของเย่ซิวนั้นเหนือกว่ากลุ่มอันธพาลของเขามาก

“นายเป็นผู้ฝึกยุทธเหรอ? อยู่ระดับหนึ่งหรือระดับสองล่ะ?” จ้าวเฉียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ด้วยอายุของเย่ซิว ต่อให้จะเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง แต่ความสำเร็จในอนาคตของเขาก็ยากที่จะจินตนาการแล้ว

เย่ซิว "ลงไปเซ็นสัญญากันเถอะ ผมยังมีเรื่องอื่นต้องทำ"

เขาดูสงบมาก

ไม่ใช่ว่าเขาใจกว้าง แต่เขาเห็นกลุ่มหมอกสีดำบนหน้าผากของจ้าวเฉียนและจุดบนหลังมือของเขาแล้ว

นั่นคือสัญญาณสิ้นอายุขัย!

หมายความว่าเวลาของเขาเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว

ในปีนั้น ตอนที่อาจารย์ช่วยชีวิตเขาไว้ อาจารย์ได้ทิ้งบางอย่างไว้ด้วย ไม่ได้ช่วยเขาให้หายดีโดยสมบูรณ์ในครั้งเดียว

ป้องกันไม่ให้ชายคนนี้กลับคำในอนาคต

จ้าวเฉียนตกตะลึงเล็กน้อย เขาคิดว่าเย่ซิวจะโกรธมากจนฉีกกระชากพวกเขาสองพ่อลูกออกเป็นชิ้น ๆ เสียอีก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสงบได้ขนาดนี้

ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว จ้าวเฉียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก "ได้ ตามฉันมา"

ตอนนี้ชีวิตของพวกเขาสองพ่อลูกอยู่ในกำมือของคนอื่น พวกเขาย่อมไม่กล้าเล่นตุกติก

เมื่อมาถึงห้องทำงานของจ้าวเฉียน เขาก็หยิบเอกสารออกมาจากลิ้นชักโดยไม่รอช้า "โปรดลงลายมือชื่อ"

เย่ซิวพลิกอ่านมัน

แม้ว่าเขาจะไม่เคยไปโรงเรียน แต่ความรู้ของเขาก็นับว่าไม่น้อย

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของอาจารย์เขา

เมื่อเห็นว่าเอกสารในมือไม่มีปัญหา เขาก็ลงลายมือชื่อ

“เอาล่ะ ตามราคาหุ้นในปัจจุบัน หุ้นในมือของคุณมีมูลค่าสองร้อยล้านหยวน ให้ผมโอนเงินให้คุณตอนนี้เลยไหม?”

จ้าวเฉียนวางตัวถ่อมตนมาก ไม่เหลือเค้าความดุร้ายตามปกติของเขาเลย

ต้องระลึกอยู่เสมอว่าในโลกธุรกิจของเมืองเจียงเฉิง เขาเป็นที่รู้จักในนามหมาป่าสงคราม

ลงมือโหดเหี้ยม ฆ่าคนชนิดตัดรากถอนโคน

แต่ตอนนี้เขากลับทำเหมือนหลานชายคนหนึ่ง

ถ้าโลกภายนอกรู้เรื่องนี้เข้า จะต้องพากันอ้าปากค้างอย่างแน่นอน

เย่ซิวหยิบบัตรธนาคารของเขาออกมา "โอนเงินไปที่นี่เถอะ"

จ้าวเฉียนพยักหน้าและทำการโอนเงินด้วยตัวเอง

จากนั้นเขาก็แสดงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เย่ซิวดู “นี่ครับ เงินถูกโอนไปเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากจำนวนเงินค่อนข้างมาก จึงมักจะใช้เวลาราวสิบสองชั่วโมงกว่าจะเงินจะเข้าบัญชีของคุณ"

เย่ซิวเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

หลังจากจบเรื่องทั้งหมด เขาก็ยืนขึ้นและจากไป ไม่รั้งอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

จ้าวเฉียนขยิบตาส่งสัญญาณให้จ้าวเฟิง “ไปส่งผู้มีพระคุณเร็วเข้า"

จ้าวเฟิงระงับความไม่พอใจของเขาและนำทางให้เย่ซิว

รอจนกระทั่งพวกเขาจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเฉียนก็หายวับ แทนที่สีหน้าโหดเหี้ยมราวกับหมาป่าผู้หิวกระหาย

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วกดหมายเลขหนึ่ง “ฮัลโหล ที่นั่นธนาคารใช่ไหม? ฉันเพิ่งโอนเงินไปก้อนหนึ่ง มีบางอย่างผิดปกตินิดหน่อย ช่วยระงับให้ฉันด้วย”

การโอนเงินจำนวนมาก สามารถทำเช่นนี้ได้

หลังจากได้รับการยืนยันจากธนาคารแล้ว จ้าวเฉียนก็วางสาย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา "เงินของฉัน ไม่ให้ใครเอาไปได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก!"

จากนั้นเขาก็ส่งข้อความถึงแก๊งอันธพาลที่เขาเลี้ยงไว้

ให้พวกเขาทั้งหมดสวมชุดสูทและเข้ามาในบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปพร้อมอาวุธ

ในความคิดของจ้าวเฉียน ต่อให้เย่ซิวจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะคนหลายร้อยคนที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา

“ถ้าแกกล้ากลับมาอีกครั้ง ฉันจะให้แกได้เห็นเลือดแน่ ๆ!”

ในอีกด้านหนึ่ง เย่ซิวออกจากบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป ก็ก้มมองดูเสื้อผ้าของตัวเอง

ควรจะไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนสินะ จากนั้นค่อยซื้อกระเป๋าเป้

สภาพของเขาในตอนนี้ดูโทรมเกินไป เขาจึงดึงดูดสายตาประหลาด ๆ มาจากทุกที่

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะก้าวเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า เขาก็ถูกไล่ออกมา

“ไป ๆ ๆ ขอทานนี่มาจากที่ไหนกัน?!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status