Share

บทที่ 5

ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"

ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทาน

เย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"

หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"

เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"

หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย

“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”

ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ

เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอาย

เธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาว

ผมถูกถักเป็นเปียสองข้าง ทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเยาว์วัย

หญิงวัยกลางคนเยาะเย้ยและดูถูก "แหม ยัยเด็กคนนี้นี่เอง ขนาดขอทานก็ยังไม่เว้น ถ้าพ่อเธอที่อยู่โรงพยาบาลรู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าจะโกรธจนตายไปเลยรึเปล่า?”

ร้านทั้งสองตั้งอยู่ติดกัน แต่ธุรกิจของพวกเธอนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ร้านที่เปิดโดยหญิงสาว มักจะมีคนมาซื้อหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนอยู่เสมอ

แต่ฝั่งเธอกลับเงียบเหงา

เมื่อวันเวลาผ่านไป หญิงวัยกลางคนย่อมเกิดความริษยาและไม่พอใจ

หญิงสาวหน้าแดงก่ำ “คุณป้า ...อย่าพูดอะไร… หยาบคายแบบนี้ได้ไหมคะ?”

ทันใดนั้นเสียงของหญิงวัยกลางคนก็แหลมปรี๊ด "ตาแกบอดหรือไงหา? แกสิป้า ดูไม่ออกเหรอว่าฉันอายุแค่สามสิบปีเท่านั้น!"

“ผมคิดว่าคุณอย่างน้อยน่าจะอายุสักห้าสิบแล้วเสียอีกนะ ป้า” เย่ซิวแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแล้วเดินไปที่ร้านของหญิงสาว

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก เธอพูดอย่างอาฆาตมาดร้าย "หญิงร้ายชายเลว!"

หลังจากถ่มน้ำลายลงบนพื้น เธอก็หันหลังกลับเข้าไปในร้านไป

ประกายแสงเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาของเย่ซิว เขาลอบดีดนิ้วออกไป

พลังงานสายหนึ่งจึงถูกยิงออกไปและแทรกซึมเข้าไปในจุดชีพจรจุดหนึ่งของหญิงวัยกลางคน

แต่เธอไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย

เขาเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน

ร้านนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ประเภทเสื้อผ้ากลับมีครบครัน

“พี่ชาย คุณอยากได้แบบไหนเหรอคะ?”

หญิงสาวอ่อนโยนมาก ดวงตาของเธอกระจ่างใสมากเช่นกัน

เธอไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือรังเกียจที่เย่ซิวสวมเสื้อผ้าซอมซ่อเลย

เย่ซิวมองไปรอบ ๆ

สำหรับเรื่องเสื้อผ้า เขาไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ตราบใดที่สวมใส่สบายและเหมาะกับตัว แค่นั้นก็พอแล้ว

เขาชี้ไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าราวหนึ่ง "ชุดกีฬาสีขาวตัวนั้น และก็ชุดสีดำนั่น"

หญิงสาวพยักหน้า "พี่ชายสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรสินะ ถ้าอย่างนี้ก็ต้องใส่ไซซ์เอ็กซ์เอ็กซ์แอล รอสักครู่นะคะ..."

เย่ซิวถูกใจเสื้อผ้าสองชุดที่แขวนอยู่ด้านบน

เธอหยิบไม้สอยผ้ามา แต่ยังขาดความยาวไปอีกนิดเดียว จึงยกเก้าอี้มาปีน

แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยืนไม่มั่นคง พริบตา ร่างเล็กก็เอนไปข้างหลัง

“กรี๊ด!!!”

หญิงสาวกรีดร้องออกมา โลกหมุนวน ความหวาดกลัวอย่างหนักหน่วงเข้าครอบงำหัวใจของเธอ

จบสิ้นแล้ว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย

แต่เพียงชั่วครู่ต่อมา เธอก็ตกมาอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่น

เย่ซิวอุ้มหญิงสาวไว้ "เธอโอเคใช่ไหม?"

“อ๋า?!” หญิงสาวคิดว่าคราวนี้เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือจากเย่ซิว

บนตัวของเย่ซิวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยส่งมา บวกกับพลังความเป็นชายที่แข็งแกร่ง

ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว เธอเขินอายมาก ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ได้ยินเพียงเสียงหวานพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย "ขอบคุณค่ะพี่ชาย คุณปล่อยฉันลงได้ไหมคะ"

เย่ซิววางเธอลงเบา ๆ "ในอนาคตก็ระวังให้มากหน่อยนะครับ"

“อื้ม…” หญิงสาวก้มหน้างุด หน้าเธอแดงขึ้นกว่าเก่าอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้

“ฉันหยิบเองแล้วกัน”

เย่ซิวหยิบไม้สอยผ้า ไปปลดเสื้อผ้าทั้งสองชุดลงมาด้วยตัวเอง

เด็กสาวชี้ไปทางซ้าย “ห้องลองเสื้ออยู่ตรงนั้นค่ะ”

เย่ซิวหยิบเสื้อผ้าและเดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

รูปร่างของเย่ซิวนั้นสูงโปร่ง ภายนอกอาจจะดูผ่ายผอม แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่มีไขมันส่วนเกินสักนิด

ทุกตารางนิ้ว ทั้งเลือดและเนื้อของเขาล้วนเต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะระเบิดออกมา นับว่าสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

รูปร่างแบบนี้ของเขา หากผู้หญิงสวย ๆ เหล่านั้นได้เห็น พวกเธอจะต้องกรีดร้องออกมาทันที

เปลี่ยนไปสวมชุดกีฬาสีขาวแล้วยัดเสื้อผ้าเก่า ๆ ใส่ถุงผ้า

ลองขยับตัวเล็กน้อย ขนาดกำลังพอดีเลย

ต้องบอกว่าไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชุดกีฬาธรรมดา ๆ แต่เมื่อมันถูกสวมอยู่บนร่างกายของเย่ซิว ก็ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย

ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลา ไว้ผมสั้น ดูทรงพลังไม่น้อย

หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ภาพลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

เย่ซิวพึงพอใจมาก เดินออกจากห้องลองเสื้อผ้า

ทันใดนั้นดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย "พี่ชาย คุณหล่อมากเลย!"

การบ่มเพาะพลังหลายปีทำให้เขามีหุ่นที่สมบูรณ์แบบมาก บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกดีกับเขาได้อย่างง่ายดาย

ไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ พวงแก้มที่เพิ่งหายขึ้นสีของเธอ จึงกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง

“มีรองเท้าไหม? ขอรองเท้าผ้าใบสีขาวให้ฉันคู่หนึ่งด้วย” เย่ซิวกล่าว

“โอ้ มีค่ะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ รีบไปหารองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่งให้เย่ซิว

เย่ซิวลองสวมมันดู และพบว่าขนาดมันพอดีและสวมสบายมาก ดีกว่ารองเท้าผ้าขาด ๆ ของเขาหลายขุม

“ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไหร่?”

เด็กสาวคิดคำนวณ "เสื้อผ้าราคาชุดละสองร้อยหยวนค่ะ ส่วนรองเท้าหนึ่งร้อยห้าสิบหยวน...แต่ฉันขอรับจากพี่ชายแค่ห้าร้อยหยวนก็พอแล้ว"

“ไม่ได้หรอก ฉันจะให้เธอเสียเปรียบไม่ได้” เย่ซิวส่ายหน้า

ทันทีที่เขาเข้ามาในร้าย ก็พบว่าเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ มีอายุนานหลายปีแล้ว

นอกจากนี้มือเธอยังมีริ้วรอยมากมาย ไม่เนียนละเอียดเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่ว ๆ ไป เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตที่ยากลำบากเคี่ยวกรำ

ดูเหมือนสถานการณ์ของหญิงสาวจะไม่ได้ดีนัก

ตอนที่เธออยู่ที่หน้าประตู เหมือนกับจะได้ยินว่าพ่อของเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลรึเปล่านะ?

แบบนี้ เย่ซิวยิ่งไม่อาจเอาเปรียบหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ

แต่หญิงสาวกลับยืนกรานว่า "เมื่อครู่ พี่ชายช่วยฉันไว้ ดังนั้นฉันเลยขอให้ส่วนลดคุณก็แล้วกัน"

นี่เป็นเด็กสาวที่มีหลักการของตัวเองคนหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมรับเงินจากเย่ซิวมากไปกว่านี้

“อืม…เอาแบบนี้แล้วกัน” เย่ซิวคิดวิธีที่จะประนีประนอม

“ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ฉันให้เธอห้าร้อยห้าสิบหยวน ให้เธอเลี้ยงข้าวฉันดีไหม?”

หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า "เอาสิคะ ก็แค่อาหารง่าย ๆ มื้อเดียวเอง"

หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เย่ซิวอย่างประหม่า กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ

หลายปีที่ผ่านมา มีชายหนุ่มหลายคนตามจีบเธอ

ในหมู่พวกเขา มีแม้กระทั่งเศรษฐีฐานะสูงส่งด้วย

แต่หญิงสาวก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเธอมองไปที่เย่ซิว มันกลับทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไป

เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ฉันเพิ่งลงมาจากภูเขา กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี ดวงตาของเธอโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์รุ่นเก่าก็ดังขึ้น

หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาและกดรับ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอก็ถอดสี โทรศัพท์ร่วงลงพื้นพร้อม ๆ กับที่เธอหมดเรี่ยวแรงและทรุดตัวตามลงไป

เย่ซิวมือไวตาไว คว้าหญิงสาวเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status