All Chapters of บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ: Chapter 131 - Chapter 140
210 Chapters
บทที่ 131
นางเอาเม็ดยาเม็ดเล็กๆ ออกมาจากปิ่นปักผม และยื่นให้หรงซีเม็ดหนึ่ง“ท่านอ๋อง นี่คือยาคืนชีพ เพียงกินเข้าไปเม็ดหนึ่ง ภายในสามวันอาการบาดเจ็บก็จะดีขึ้นเจ็ดส่วน”เดิมทีนางจะเอายาคืนชีพนี้ให้ท่านหญิงหลิวโหรวทั้งหมด แต่นางกลัวว่าระหว่างทางจะประสบพบเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น นางจึงแอบซ่อนยาเอาไว้ในปิ่นปักผมบนปิ่นปักผมยังปิดผนึกเอาไว้ด้วย เดิมทีนางจะเอาไว้ใช้เป็นทางออกให้กับตัวเอง นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องใช้เร็วเพียงนี้หรงซีรับเม็ดยาที่เจียงหวานหว่านให้มา และเอาเข้าปากกลืนทันทีโดยไม่คิดเลย“ท่านอ๋อง ท่านไม่กลัวข้าวางยาพิษท่านหรือ?”เจียงหวานหว่านกล่าวหยอกล้อหรงซีจ้องมองเจียงหวานหว่านพลางกล่าว “ข้าเป็นที่พึ่งของเจ้า”เจียงหวานหว่านนึกไม่ถึงเลยว่าหรงซีจะตอบเช่นนี้“ท่านอ๋องปราดเปรื่องยิ่งนัก”เจียงหวานหว่านยิ้มพลางกล่าวหรงซีถูกเจียงหวานหว่านหยอกล้อเข้าแล้ว“ดื่มยาเถอะ”หรงซียกถ้วยยาในมือยื่นให้เจียงหวานหว่านมุมปากเจียงหวานหว่านกระตุกเล็กน้อย นางรับถ้วยยามาดมและซดกลืนลงไปภายในอึกเดียว“เจ้ากลัวการดื่มยาอย่างนั้นหรือ?”หรงซีกล่าวถามลองเชิงเจียงหวานหว่านส่ายหน้าพลางกล่า
Read more
บทที่ 132
เจียงหวานหว่านได้ยินคำพูดนี้ของหรงซีก็ตะใจเล็กน้อย ก่อนจะตั้งสติได้“คนเขาช่วยชีวิตเราไว้ การที่เราขอบคุณเขาเป็นเรื่องที่สมควรทำ ท่านอ๋องกับข้านับว่าเป็นคนกันเอง ท่านอ๋องดีกับข้ามาก ข้าจดจำเอาไว้ในใจอยู่แล้ว ท่านอ๋องดีกับข้ายิ่งกว่าที่ท่านพ่อของข้าดีกับข้าเสียอีก”หรงซีได้ยินคำพูดของเจียงหวานหว่านก็รู้สึกดีขึ้น อีกทั้งยังยิ้มออกมาอีกด้วย“นี่เจ้าว่าข้าแก่อย่างนั้นหรือ?”เจียงหวานหว่านได้ยินเช่นนี้ก็รีบกล่าวอธิบายว่า “ท่านอ๋องแข็งแกร่งดั่งต้นไม้ใหญ่ อ่อนโยน หากข้าว่าท่านอ๋องแก่ บนโลกใบนี้ก็ไม่มีบุรุษใจงามอีกแล้วล่ะ”มุมปากของหรงซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อยพลางกล่าว “เจียงหวานหว่าน คำพูดของเจ้าไม่เหมือนนิสัยภายนอกของเจ้าเลย”ในสายตาของเขา เจียงหวานหว่านเป็นคนที่เย็นชาคนหนึ่งความรักความลึกซึ้งของนางนอกจากจะมีให้ท่านแม่หลิ่วซู่ของนางแล้ว กำไรก็เป็นเรื่องอันดับแรกในใจนางแต่นางทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูต่อหน้าเขาเช่นนี้ มันทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าบนโลกใบนี้มีเจียงหวานหว่านสองคนเจียงหวานหว่านกระพริบตาปริบๆ ให้หรงซี ราวกับไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงสิ่งใดตอนนี้ด้านนอกมีเสียงเอะอะ
Read more
บทที่ 133
“พี่ใหญ่ระวังตัวด้วย”หรงซีพยักหน้าก่อนจะพุ่งตัวลงไปจากภูเขา“แม่หนูน้อย พี่ใหญ่ของเจ้าต่อสู้เป็นหรือ?”ป้าหวังกล่าวถามด้วยความประหลาดใจเจียงหวานหว่านกล่าวปิดบังว่า “ท่านพ่อให้คนมาสอนพี่ใหญ่ต่อสู้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเจ้าค่ะ”ป้าหวังพยักหน้า สตรีและเด็กอย่างพวกเขาเหล่านี้ไม่กล้าย่างกรายลงไปจากภูเขา ทำได้เพียงแค่รอหรงซีกลับมาแจ้งข่าวเท่านั้นหลังจากที่หรงซีลงไปจากภูเขา เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของโจรบ้านเรือนของชาวประมงเหล่านี้ล้วนแต่ถูกไฟเผาไหม้หมดแล้ว แผดเผาไปจนสิ้นบนพื้นดินสีเหลืองตอนนี้กลับกลายเป็นสีแดงเลือด ศพนอนตายกลาดเกลื่อนบุรุษในหมู่บ้านล้วนแต่ถูกฆ่าตายไปจนสิ้น ไม่มีใครมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียวเขาตรวจสอบพลิกดูบาดแผลของศพ ทั้งหมดล้วนแต่ตายไปเพราะคมมีดทั้งสิ้นนึกไม่ถึงเลยว่าโจรเหล่านี้จะต่อสู้ได้เก่งกาจถึงเพียงนี้ หรงซีรู้สึกแปลกใจมากเขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว และพบกับศพของหมอติงหมอติงตายตาไปศพไม่หลับตา หรงซีเห็นเช่นนี้จึงกำหมัดแน่นด้วยความแค้นหรงซีนั่งยองลง ยื่นมือไปปิดตาศพของหมอติงอย่างช้าๆเขามองไปที่มือของหมอติง ศพหมอติงกำหมัดแน่น หรงซีคลายหมัดมือเขาออก
Read more
บทที่ 134
หรงซีพาเจียงหวานหว่านเดินขึ้นภูเขาไป เพื่อหลบคนที่ตามไล่ฆ่าพวกเขาเหล่านั้นตั้งแต่ฟ้ามืดจนรุ่งสาง เจียงหวานหวานที่ถูกหรงซีแบกไว้จึงหลับไปกลิ่มหอมอบอวลโชยฟุ้งเข้าจมูกเจียงหวานหว่านเมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็เห็นกองไฟกองหนึ่งกำลังย่างไก่ป่าตัวหนึ่งอยู่หรงซีรับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมา และพบว่าเจียงหวานหว่านตื่นขึ้นมาแล้วเขาหยิบไม้เสียบไก่ขึ้นมา ฉีกเนื้อไก่ป่าและยื่นให้เจียงหวานหว่าน“ท่านอ๋อง ข้าจะดูแผลให้ท่าน”หรงซีได้รับบาดเจ็บ เขาแบกนางมานานมากเช่นนั้น นางเป็นห่วงกลัวว่าแผลของเขาจะฉีก“ข้าไม่เป็นอันใด เจ้ารีบกินเถอะ กินเสร็จเราจะเดินทางกันต่อ”เจียงหวานหว่านหยิบขาน่องไก่ขึ้นมาน่องหนึ่งยื่นให้หรงซีพลางกล่าวว่า “ท่านอ๋อง เรากินด้วยกัน”หรงซีจะปฏิเสธ“ท่านอ๋อง หากท่านหิวจนเป็นลมเป็นแล้งไป แล้วข้าจะทำเช่นไร”เมื่อได้ยินคำพูดว่าเจียงหวานหว่านจะไม่มีคนคอยช่วยเช่นนี้ หรงซีก็รับน่องไก่มาทันทีหลังจากที่ทั้งสองกินอิ่มกันแล้ว หรงซีจะแบกเจียงหวานหว่านเดินทางต่อ แต่เจียงหวานหว่านกลับปฏิเสธ“ท่านอ๋อง บาดแผลข้านิดเดียวเอง แถมยังหายเร็วกว่าคนปกติทั่วไปอีกด้วย เพียงไม่ให้กระทบกระ
Read more
บทที่ 135
หรงซีประคองเจียงหวานหว่านและเดินต่อไป“ท่าน…เอ่อ พี่ใหญ่ ท่านเจ้าเมืองเมืองเว่ยสุ่ยจางเสี้ยวเทียนเป็นคนของหรงมู่หาน สามปีก่อนบุตรสาวคนเล็กของจางเสี้ยวเทียนชื่อจางเยี่ยนเยี่ยนได้มาเป็นอนุของหรงมู่หาน”เจียงหวานหว่านนึกถึงอนุของหรงมู่หาน ในนั้นมีหญิงสาวอีกหลายคนที่สกุลต่างๆ ได้ส่งตัวหญิงสาวไปเป็นของขวัญให้กับหรงมู่หานเพื่อให้สกุลของตนเองได้ประโยชน์ ยอมเสียหญิงสาวคนหนึ่งไปเพื่อเป็นการซื้อขาย“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้เรื่องของหรงมู่หานได้ดีกว่าใครๆ”หรงซีรู้สึกสงสัยขึ้น สำหรับเรื่องนี้ เขาจะต้องรู้ให้ได้ก่อนออกเดินทางเจียงหวานหว่านเป็นเพียงแค่หญิงสาวคนหนึ่ง นางจะรู้ดีเช่นนี้ได้อย่างไร ช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว“ท่านอ๋อง ได้โปรดให้อภัยด้วยที่ข้าไม่อาจบอกที่มาของเรื่องนี้ได้ แต่ท่านอ๋องได้โปรดเชื่อว่าข้ายอมตาย แต่ไม่ยอมทำเรื่องที่ผิดต่อท่านอ๋องเด็ดขาด”หรงซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้นเล็กน้อย เหตุใดเจียงหวานหว่านถึงจริงจังกับเขามากถึงเพียงนี้ทุกคนล้วนแต่มีความลับของตัวเองทั้งสิ้น ในเมื่อเจียงหวานหว่านไม่อยากบอก หรงซีเองก็ไม่บับบังคับนางอย่างน้อยจนถึงตอนนี้ เจียงหวานหว่านก็มีค่า
Read more
บทที่ 136
นางอยู่ห้องเดียวกับหรงซีทันใดนั้นในหัวของเจียงหวานหว่านก็ปรากฏภาพหรงซีกำลังนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำนางส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา ไม่ให้ตัวเองคิดมากเถ้าแก่โรงเตี๊ยมสั่งให้เสี่ยวเอ้อมาต้อนรับ พาหรงซีกับเจียงหวานหว่านขึ้นไปเจียงหวานหว่านเดินตามหลังหรงซีไปอย่างช้าๆแม้ว่านางจะชอบเขา แต่หญิงชายอยู่ด้วยกันลำพังสองต่อสองในห้องเดียวกันเช่นนี้ นางก็ลำบากใจเช่นกันเสี่ยวเอ้อพาทั้งสองไปส่งเข้าห้อง จากนั้นก็ปิดประตูห้องลง“เอ่อ….”เจียงหวานหว่านไม่รู้ว่าต้องเอ่ยปากกล่าวสิ่งใดออกมาดีดวงตาอันลึกล้ำแคบยาวนั้นของหรงซีจ้องมองเจียงหวานหว่าน และค่อยๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนดวงตาคู่นั้นจะพลันเปลี่ยนเป็นหยอกล้อขึ้น “เจียงหวานหว่าน เจ้ามีใจทะเยอทะยานต่อข้ามาก หากคืนนี้ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริงล่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหวานหว่านก็เกิดความคิดมากมายขึ้น แต่นางยังรักษาระยะห่างเอาไว้ได้ดี“ท่านอ๋อง ได้โปรดเคารพตัวเองด้วย”หลังกล่าวคำนี้จบ ใจของเจียงหวานหว่านก็เต้นเร็วขึ้น อารมณ์และความรู้สึกแปลกประหลาดทำให้ใจนางสั่นขึ้น “เจียงหวานหว่าน ข้าเจ้ายอมข้า ข้าจะปกป้องเจ้าไปตลอด
Read more
บทที่ 137
เมื่อเนื้อเข้าไปในปาก จู่ๆ หรงซีก็เกิดความรู้สึกพึงพอใจขึ้นเห็นหรงซีกินอย่างหยุดไม่ได้เช่นนี้ เจียงหวานหว่านก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ“เอาถ้วยกับตะเกียบมาเพิ่มกินด้วยกันสิ คืนนี้เราต้องเดินทางกันต่อ”เจียงหวานหว่านคิดว่าจะพักที่นี่หนึ่งคืน นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องรีบเดินทางต่ออีก“ข้าไม่หิว ข้าแค่รู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อย ท่านอ๋องกินเถอะ ข้าจะขอตัวไปพักผ่อนสักหน่อย”เจียงหวานหว่านอ้าปากหาว และเดินขึ้นเตียงไปพักผ่อนไม่นานนักลมหายใจอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นและเมื่อนางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว นางพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องที่โรงเตี๊ยมแล้ว แต่อยู่บนรถม้าคันหนึ่งและสิ่งที่ทำให้นางตื่นตระหนกตกใจนั่นก็คือ หรงซีกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนแม้ระหว่างทั้งสองจะมีเสื้อคลุมกั้นอยู่ แต่มันก็ไม่สมควรนางจะลุกอย่างเงียบๆ แต่เพียงขยับเล็กน้อย หรงซีก็กอดนางเอาไว้แน่นเจียงหวานหว่านไม่กล้าขยับตัวผลีผลาม นางจึงลืมตาขึ้นแล้วจ้องมองหรงซีใบหน้าของหรงซีอยู่ใกล้มากอย่างเห็นได้ชัด เจียงหวานหว่านกัดริมฝีปากเหมือนอยากจูบเขา และเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ เจียงหวานหว่านก็รู้สึกดูถูกตัวเองมาก นี
Read more
บทที่ 138
รถม้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ เข้าไปในเมืองชิงเหอ ทุ่วตรงไปยังจวนท่านเจ้าเมืองเมื่อท่านเจ้าเมืองเว๋ยซื่อเจี๋ยท่านเจ้าเมืองชิงเหอรู้ว่าหรงซีมา ก็นำเหล่าขุนนางภายใต้สังกัดออกไปต้อนรับทันที“กระหม่อมเว๋ยซื่อเจี๋ย คารวะท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เว๋ยซื่อเจี๋ยมองหรงซีด้วยสายตาที่เปล่งประกายเมื่อก่อนเขาเคยเป็นลูกน้องของหรงซี เนื่องจากอาการป่วยของเขา เขาจึงถอนตัวออกจากทัพรบหลังจากได้รับการเลื่อนขึ้นมาจากท่านอ๋อง เขาก็เข้ามารับตำแหน่งท่านเจ้าเมืองเมืองชิงเหอท่านอ๋องเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา ดังนั้นเมื่อเมืองชิงเหอเกิดเรื่องขึ้น เขาก็รีบขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋องเป็นคนแรก“แม่นางคนนี้ชื่อว่าเจียงหวานหว่านนางเป็นหมอ นางเป็นศิษย์ของปรมาจารย์หมอเซียน”หรงซีแนะนำเจียงหวานหว่านให้เว๋ยซื่อเจี๋ยรู้จักเมื่อได้ยินเชื่ปรมาจารย์หมอเซียน เว๋ยซื่อเจี๋ยก็รู้สึกตกใจมากเดิมทีคิดว่าแม่นางที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องจะเป็นหญิงงามของท่านอ๋องเสียอีกนึกไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าจะมีหมอที่ฝีมือวิเศษเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นหมอหญิงที่อายุน้อยเช่นนี้อีกด้วยเขาผิดเองที่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ศิษย์ของปรมาจารย์หมอเซียน
Read more
บทที่ 139
หากเจียงหวานหว่านเป็นอันใดไป เขาจะทำเช่นไรเขารู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกดึงไปดึงมาและเมื่อเขาคิดจะเรียกเจียงหวานหว่านกลับมา เจียงหวานหว่านได้ย่างเท้าก้าวเข้าไปในประตูอารามชิงเหอแล้วทหารที่เฝ้าประตูปิดประตูอารามลง“หวังว่าท่านหมอเจียงจะรักษาได้”เว๋ยซื่อเจี๋ยกล่าวอย่างทอดถอนใจภายในอารามชิงเหอมีหมออยู่หลายท่าน พวกเขารักษาไม่ได้ และพวกเขาก็ออกไปไม่ได้เช่นกันและเมื่อหมอเหล่านั้นเห็นหม่นางน้อยผู้หนึ่งเดินเข้ามา ต่างก็พากันถอนหายใจออกมา“แม่นางน้อย มาให้ข้าตรวจดูหน่อยว่าเจ้าไม่สบายตรงไหน”หมอชราผมหงอกท่านหนึ่งกล่าวถามเจียงหวานหว่านด้วยความเป็นห่วง“ท่านหมอเหมียว แม่นางผู้นี้ดูไม่เหมือนคนป่วยไข้เลย”หมอวัยหลางคนท่านหนึ่งสังเกตสีหน้าของเจียงหวานหว่าน และพบว่านางไม่ได้ป่วยอันใด“ท่นาหมอเหมียว ท่านหมอข่ง แม่นางน้อยผู้นี้หน้าตาไม่คุ้นเลย เหมือนไม่ใช่คนเมืองชิงเหอ”ท่านหมอเคอเป็นหนึ่งในสามของหมอที่อายุน้อยที่สุดกล่าวออกมาท่านหมอข่งก็เห็นด้วยกับคำพูดของท่านหมอเคอ เขาเองก็รู้สึกไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเจียงหวานหว่านเลยสายตาของหมอเคอจ้องมองเจียงหวานหว่านอย่างพิจารณานางเห็
Read more
บทที่ 140
เจียงหวานหว่านจับชีพจรของคนป่วยหลายคน และพบว่าอาการป่วยของแต่ละคนนั้นมีความรุนแรงต่างกัน แต่เป็นพิษชนิดเดียวกันเป็นเพราะในร่างกายของทุกคนมีพิษ แต่เนื่อจากร่างกายของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันคนที่โดนพิษมีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็ก พวกเขาไม่มีกำลังวังชาเลย ราวกับกำลังจะตายไปในไม่ช้าก็มิปานนางเข้าใจอาการทั่วไปของโรคนี้แล้ว นางส่งสัญญาณบอกให้หมอเหมียวและหมอคนอื่นๆ ออกไป“หมอเจียง ข้ามีชีวิตอยู่มาหลายสิบปีก็ไม่เคยพบเคยเห็นโรคนี้มาก่อนเลย”หมอเหมียวกล่าวอย่างทอดถอนใจสายตาของเจียงหวานหว่านกวาดมองไปที่หมอเหมียว และกล่าวถามว่า “ท่านหมอเหมียว ขอข้าจับชีพจรท่านดูหน่อย”หมอเหมียวได้ยินคำพูดนี้ของเจียงหววานหว่านก็ตกตะลึงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือให้เจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านจับชีพจรเขาและะขมวดคิ้วขึ้น และพบว่าเป็นเหมือนที่นางคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดนางหยิบกระดาษกับพู่กันที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา และเขียนบางอย่างไปก่อนจะยื่นให้ทหารเฝ้าเวรยาม“เอาจดหมายนี้ไปส่งให้ท่านอ๋องหน่อย ข้าจะรอคำตอบจากท่านอ๋อง”ทหารไม่กล้ารีรอจึงรีบไปรายงานทันทีเจียงหวานหว่านเดินไปที่ม้านั่ง และนั่งลง“ท่านหม
Read more
PREV
1
...
1213141516
...
21
DMCA.com Protection Status