ถานอวี้เสวี่ยรู้สึกหนาวตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เธอยังคงเกร็งคออยู่ “อาเหยียน คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่? ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องลอบกัดกันแบบนี้ก็ได้มั้ง”“ฉันได้ให้โอกาสเธอไปแล้ว” เฮ่อเหยียนสือลดเสียงลง “ถ้าไม่ใช่เพราะลุงถานกับคุณป้า ตอนนี้ฉันคงไม่มาคุยกับเธออยู่ที่นี่แบบนี้หรอก”“ฉันเข้าใจแล้ว” ถานอวี้เสวี่ยยิ้มอย่างขมขื่น “ที่คุณพูดออกมามากมายขนาดนั้น คุณแค่อยากจะกล่าวหาว่าฉันเป็นคนยุยงให้พวกเขาสองคนทำแบบนั้นงั้นเหรอ? ”เฮ่อเหยียนสือมองตรงไปที่ถานอวี้เสวี่ย “แล้วไม่ใช่รึไง? ”รอยยิ้มบนใบหน้าของถานอวี้เสวี่ยกว้างขึ้น แต่เสียงของเธอก็ขมขื่นมากขึ้นเช่นกัน “อาเหยียน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น ใช่ ฉันรักคุณ แต่ทำไมฉันจะต้องทำร้ายเสี่ยวซูด้วย ต่อให้ฉันจะเป็นคนทำร้ายเธอ แบบนั้นจะทำให้คุณเปลี่ยนใจได้งั้นเหรอ? แล้วอีกอย่าง ก็ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ บางคนก็เกิดมาเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยฉันกับพวกเขาเป็นแค่เพื่อนธรรมดากันเท่านั้น ฉันคงจะไม่ถูกโยงเข้าไปเอี่ยวด้วยหรอกใช่ไหม? หากคุณยืนกรานจะกล่าวหาให้ฉันเป็นคนผิดให้ได้ ความผิดเดียวของฉันก็คือฉันไม่ควรพาอวิ๋นซูมาที
Read more