ในช่วงเริ่มการของการแถลงข่าว ทุกคนในงานถูกขอให้ปิดโทรศัพท์มือถือ และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปอวิ๋นซูปิดโทรศัพท์ ถึงเห็นถานอี้กลับมา สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก แต่ดูไปแล้ววิตกกังวลมาก“ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?” อวิ๋นซูหยิบยาแก้ปวดออกมาจากในกระเป๋า “คุณกินยาอันนี้ก่อนไหม?”ถานอี้โบกไม้โบกมือแล้วยิ้มอย่างขมขื่น: “ผมไม่เป็นไร”โชคดีที่ในเวลานี้ผู้จัดการที่รับผิดชอบดราก้อนขึ้นมาบนเวที และดึงดูดความสนใจของอวิ๋นซู ถานอี้จึงมีโอกาสได้หายใจหายคอบ้างไม่รู้ว่าพี่สาวได้บอกพี่อาเยียนหรือเปล่าเขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก แม้แต่ฟังแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดก็ฟังไม่เข้าหูด้านหลังเวทีหลี่ชวนเดินเข้ามา: “ใกล้จะถึงคิวท่านประธานแล้วครับ พวกคุณต้องเก็บความลับไว้ให้ดี ได้ยินไหม?”ทุกคนที่อยู่ด้านหลังเวทีหยุดเคลื่อนไหว และพยักหน้าพร้อมกันคนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องใต้อาณัติเก่าของหลี่ชวน เรื่องความสามารถในการทำงานของพวกเขา หลี่ชวนไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยเขาหันกลับมา เพิ่งจะเดินไปเพียงสองก้าว: “โอ้ ใช่แล้ว เอาแบบฟอร์มลงทะเบียนมาให้ฉันดูหน่อย”พนักงานที่รับผิดชอบการลงทะเบียนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ส่งแบบฟอร์มลงทะเบีย
อวิ๋นซูเคาะประตู และสายตาของทุกคนที่ยุ่งอยู่หลังเวทีก็ได้มองไปที่เธออวิ๋นซูรวบรวมความกล้าและถามว่า "ขอโทษนะคะ ประธานของ SY อยู่ที่ไหน?"ทุกคนมองหน้ากันและกันหลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้ามา "คุณคืออวิ๋นซู คุณอวิ๋นใช่ไหมคะ?"อวิ๋นซู "คุณรู้จักฉันด้วยหรอ?"แต่เธอกลับไม่คุ้นเคยกับคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย"นี่คือสิ่งที่ประธานขอให้ฉันมอบให้คุณค่ะ" พนักงานหยิบกล่องโทรศัพท์มือถือสามกล่องที่บรรจุอย่างสวยงามและส่งไปที่อวิ๋นซู" ประธานยังกล่าวอีกว่า "ฉันขอให้คุณมีความสุขในงานแต่งงาน""เขารู้ว่าฉันมีรูปร่างหน้าเป็นแบบไหน?" อวิ๋นซูรู้สึกถูกเอ็นดูแบบไม่คาดคิดพนักงานไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้นอวิ๋นซูถือถุงของขวัญ หัวใจของเธอเต้นแรงขณะที่เฮ่อเยียนสือดูวิดีโอวงจรปิดอยู่ภายในรถ จู่ๆ ดวงตาก็ถูกย้อมด้วยความพร่ามัวแม้แต่หลี่ชวนที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าอุณหภูมิภายในรถลดลงอย่างรวดเร็ว"ไปตรวจสอบทันทีว่าทำไมถึงไม่มีชื่ออวิ๋นซูอยู่ในแบบฟอร์มลงทะเบียน"เฮ่อเยียนสือปิดวิดีโอวงจรปิดและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ครับ"......เมื
"ฮือๆ เพื่อนรัก ฉันรักเธอมากนะ เมื่อไหร่เธอจะกลับมาซักที ฉันจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เธอเลย""เร็วๆ นี้แหละ ฉันจะกลับไปในอีกไม่กี่วัน""นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะได้โทรศัพท์มือถือเร็วๆ นี้นะ ว้าว และฉันยังเป็นคนที่สามในประเทศจีนที่ได้รับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดราก้อนอีกด้วย นึกนึกดูแล้วก็น่าตื่นเต้นดีนะ ถ้าฉันกลับไปทำงานที่บริษัทได้ ฉันจะวางโชว์โทรศัพท์มือถือของฉันทุกวันให้พวกเขาดูและให้พวกเขาอิจฉากันไปเลย"อวิ๋นซูยิ้มและเก็บโทรศัพท์ของหลินเหมียวเหมียวไว้"เพื่อนรัก เธอเตรียมของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่แล้วหรือยัง?"ทันทีที่อวิ๋นซูกำลังจะตอบ ก็เห็นเฮ่อเยียนสือเปิดประตูและเข้ามาอวิ๋นซูทักทายเฮ่อเยียนสือแล้วพูดคุยกับหลินเหมียวเหมียว ต่อไป "ฉันยังไม่คิดออกเลย เมื่อวานนี้ฉันถามแผนกออกแบบที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่แล้ว เพราะฉนั้นแล้ว ฉันคิดว่าซื้อเครื่องสำอางค์ให้จะดีกว่าไหมนะ?"เมื่อเฮ่อเยียนสือมองดูอวิ๋นซูที่พูดคุยกับหลินเหมียวเหมียวหัวใจก็มีชีวิตชีวามากขึ้นเขาเดินไปที่โต๊ะกาแฟและจงใจทำการเคลื่อนไหวอวิ๋นซูไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย "ถ้าเป็นผู้ชายจะให้เครื่องเล่นเกมส์"หลินเหมียวเหมียว "
อวิ๋นซูรออยู่ในห้องนอนเป็นเวลานาน และไม่รอคำอธิบายจากเฮ่อเยียนสือ เธอกัดริมฝีปากอย่างไม่พอใจและอดไม่ได้ที่จะตีไปที่เฮ่อเยียนสืออย่างรุนแรงจากนั้นเธอก็ได้รับข้อความหนึ่งเข้า[สวัสดี คุณอวิ๋นซู นี่คือแผนกโทรศัพท์มือถือของบริษัท SY เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณสนับสนุนโทรศัพท์ดราก้อน เราจะมอบโทรศัพท์ดราก้อนเป็นจำนวน 50 เครื่องให้กับคุณ ของขวัญนี้จำกัดเฉพาะผู้ชมโชคดีที่เข้าร่วมในการประชุมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น "อวิ๋นซู "......"แผนกออกแบบมีคนทั้งหมดสี่สิบสองคนSY มอบโทรศัพท์ห้าสิบเครื่องในคราวเดียว และเธอสามารถมอบโทรศัพท์นี้ให้กับลูกน้องเธอได้อวิ๋นซูแทบรอไม่ไหวที่จะขอบคุณเฮ่อหย่วนเจ๋ออารองแต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เฮ่อเยียนสือพูดเมื่อกี้ หัวใจเล็กๆ ที่กระโดดโลดเต้นของอวิ๋นซูก็เย็นลงช่างมันรอโอกาสเลี้ยงทานอาหารเย็นดีกว่าเป็นการดีที่สุดที่จะพาเฮ่อเยียนสือมา และทำให้เขารู้ว่าเธอไม่มีความคิดที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเฮ่อหย่วนเจ๋ออารอง!แต่!เธอเคยบอกว่าจะไม่ไปยุ่งกับใครในตระกูลเฮ่อนี่!ในเวลานี้เสียงกริ่งก็ดังขึ้นข้างนอกประตูอวิ๋นซูนั่งข้างเตียงแง้มหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นโทรศั
หลังจากพูดจบ เฮ่อเยียนสือก็ก้าวขึ้นไปที่ชั้นสองเมื่อเห็นเขาเข้าไปในห้องของถานอวี้เสวี่ย แม่ถานก็ยิ้มอย่างไม่อาจต้านทานได้ เธอพูดกับพ่อถานว่า "ดูสิ ฉันพูดถูก อาเยียนสนใจในตัวเสี่ยวเสวี่ย แค่ตัวเขาไม่ทันสังเกตเอง"พ่อถานพับหนังสือพิมพ์ที่กระจายออก "น่าเสียดายที่อาเยียน แต่งงานแล้วไม่งั้นใครจะไม่อยากมีลูกเขยที่ดีขนาดนี้"แม่ถานเบ้ริมฝีปาก "แต่งงานเเล้วยังไง ตอนนี้อัตราการหย่าร้างสูงมาก มีคนหย่าร้างมากมาย นอกจากนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่คู่ควรกับอาเยียนเลย ไม่มีภูมิหลังครอบครัวและไม่มีการศึกษา เธอมีเพียงใบหน้าเท่านั้น แต่ใบหน้าจะมีประโยชน์อะไร เมื่อกาลเวลาผ่านไปต้องเบื่ออย่างแน่นอน"ในฐานะผู้ชาย พ่อถานค่อนข้างเห็นด้วยกับประเด็นนี้ "เห็นท่าแล้วเสี่ยวเสวี่ยของครอบครัวเรายังคงมีโอกาส"อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บรรยากาศบนชั้นสองระหว่างเฮ่อเยียนสือและถานอวี้เสวี่ยกลับไม่สามารถพูดได้ว่ากลมเกลียว ยิ่งไปกว่านั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นความตึงเครียดมากกว่า"คุณกำลังตรวจสอบฉันงั้นเหรอ?" ถานอวี้เสวี่ยมีอารมณ์โกรธเล็กน้อยเฮ่อเยียนสือนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้คอมพิวเตอร์ และมองไปที่ถานอวี้เสวี่ยอย่างเรียบๆ "คุณยอมร
การเดินทางกลับมีกำหนดในอีกสองวันต่อมาพ่อเฮ่อและครอบครัวถานต่างมาส่งอวิ๋นซูและเฮ่อเยียนสือถานอี้และพ่อเฮ่อทำใจไม่ได้จริงๆ ที่อวิ๋นซูและเฮ่อเยียนสือกำลังจะจากไปแต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวพ่อถานและแม่ถานจึงจำเป็นต้องมา"คุณเสี่ยวซู" ถานอี้ดึงอวิ๋นซูไปอีกด้านหนึ่ง "พี่สาวของผมบอกว่าเธอมีของขวัญให้คุณ และบอกว่าให้ผมให้เป็นการส่วนตัวกับคุณ ห้ามให้อาเยียนรู้"อวิ๋นซูสังเกตเห็นมานานแล้วว่าถานอวี้เสวี่ยไม่ได้มาปรากฏตัวแต่ก็ไม่ได้ถาม ตอนนี้ถานอี้ริเริ่มที่จะพูดถึงเธอ อวิ๋นซูจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า "ทำไมพี่สาวของคุณไม่มาส่งด้วยตัวเอง? "ถานอี้เกาหัว "ผมถามแล้ว พี่สาวของผมบอกว่าเธอไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าคุณได้ ผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม——"เขาส่งกล่องของขวัญที่บรรจุอย่างสวยงามให้กับอวิ๋นซู "คุณเสี่ยวซู ภารกิจผมเสร็จแล้ว"อวิ๋นซูได้รับมันไว้ มันหนักมากและไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในแต่เธอก็คิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน"คุณเสี่ยวซู......" ถานอี้หูแดง "คุณจะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่? "อวิ๋นซู "ฉันไม่เเน่ใจ ว่างก็จะกลับมา ถ้าคุณว่างก็มาหาฉันที่หัวกั๋วได้นะ""จริงเหรอ? โอเค ถ้าผมไป
ในตอนที่เฮ่อเยียนสือเดินขึ้นบันไดมา ที่ห้องนอนหลักไม่มีใครอยู่สักคนเขานวดไปที่ขมับดูท่าแล้วครั้งนี้คงจะง้อไม่ได้ง่ายๆแล้ววันต่อมาหลินเหมียวเหมียวถือโอกาสช่วงพักกลางวันรีบกลับมาที่คฤหาสน์“ตอนที่เธอบอกทางให้ฉัน ฉันนึกว่าเธอจะกลับไปที่ตระกูลอวิ๋นซะอีก” หลินเหมียวเหมียวมองไปที่คฤหาสน์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา “คฤหาสน์หลังนี้เฮ่อเยียนสือซื้อเองจริงๆเหรอ?”“ฉันจะหลอกเธอไปทำไมเล่า” อวิ๋นซูเดินนำหลินเหมียวเหมียวเข้าไปในตัวบ้าน“ฉันกลัวว่าเธอจะถูกรูปร่างและใบหน้าหล่อๆของเฮ่อเยียนสือหลอกเอาเงินไปเลี้ยงเขาน่ะสิ แต่ว่านะ” หลินเหมียวเหมียวเม้มริมฝีปาก “ดูจากระดับของเฮ่อเยียนสือแล้ว ถ้าเกิดเขากล้าที่จะลงทุนไม่แน่ภายในหนึ่งเดือนชีวิตพวกเธออาจจะได้เปลี่ยนจากชนชั้นกลางเป็นชนชั้นนายทุนเลยก็ได้นะ”ในหัวสมองของอวิ๋นซูปรากฏภาพเรือนร่างของเฮ่อเยียนสือ หน้าเธอก็อดจะแดงขึ้นมาไม่ได้“ฉันรู้สึกว่าตอนนี้เธอดูแปลกๆไปนะ” อวิ๋นซูดันเธอไปที่ห้องรับแขก “เดี๋ยวฉันหยิบโทรศัพท์ให้”หลินเหมียวเหมียวเห็นว่าบนเตียงมีหมอนเพียงหนึ่งใบและดูเหมือนว่าจะเพิ่งแกะออกมาใหม่ เธอจึงถามออกไปด้วยความสงสัย “นี่เธอกับเฮ่อเยีย
แสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องลงมาที่พื้น ก่อนจะลอดผ่านช่องว่างระหว่างหน้าต่างแล้วกระทบลงบนตัวของทั้งสองคนกลายเป็นภาพน้ำมันที่สวยงามผ่านไปพักใหญ่ เฮ่อเยียนสือที่หยุดฝีเท้าลงก็ยิ้มออกมา ก่อนจะอุ้มอวิ๋นซูเข้าไปในห้องนอนหลังจากสมองว่างเปล่าไปสักพักเธอก็ดึงสติกลับมา ก่อนจะขยับเท้าทั้งสองข้างเธอ “เฮ่อเยียนสือนายหยุดเดี๋ยวนี้นะ วันนี้ฉันต้องไปทำงานนะ!”เฮ่อเยียนสืออุ้มอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ “ฉันรู้แล้ว วันนี้เธอคงไม่อยากไปทำงานแบบนี้หรอกใช่ไหมล่ะ”ในตอนที่พูดทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ที่หน้ากระจกอวิ๋นซูเห็นตัวเองในกระจกก็หน้าแดงขึ้น ในตอนที่สายตาเบลอเธอก็นึกอยากจะหาหลุมสักที่แล้วมุดเข้าไปเฮ่อเยียนสือยกยิ้มเบาๆ ก่อนจะวางอีกฝ่ายลงในอ่างอาบน้ำ “อาบน้ำก่อนแล้วกัน”ถึงแม้ว่าอวิ๋นซูจะไม่อยากฟังคำของเฮ่อเยียนสือนัก แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะยอมล้างเอาคราบแห่งความรักบนตัวล้างออกจนสะอาดในตอนที่ออกมาเธอก็กลับมาอยู่ในชุดทำงานสีดำเฮ่อเยียนสือกะพริบตาอวิ๋นซูอยู่ห่างจากตัวเขาออกไป “ฉันจะไปทำงานแล้ว”พูดจบเธอก็รีบลงจากบันไดไปที่ชั้นล่าง มีรถคันหนึ่งจอดรออยู่ เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซูเดินออกมา คนขั