Share

บทที่ 14

ผู้หญิงคนนี้เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแห่งหนึ่ง “ฉันได้ยินมาว่าคุณมีแฟน แต่ทำไมไม่เคยเห็นเขาเลยล่ะคะ ฉันอยากเห็นเขาจริง ๆ”

ลู่ม่านเซิงจับผมแล้วพูดอย่างมีชั้นเชิง “ฉันไม่ชอบให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนน่ะค่ะ ก็เลยไม่เคยให้เขาออกงานด้วย ไว้เมื่อเราแต่งงานกัน ฉันจะเชิญคุณอย่างแน่นอนค่ะ”

“ลึกลับจังเลยนะคะ งั้นฉันจะรอติดตามต่อไปค่ะ”

บรรณาธิการหันหน้าไปและเห็นเวินหนี่อยู่ข้าง ๆ จึงพยักหน้าให้เธออย่างสุภาพ “คุณเวิน พบกันอีกแล้วนะคะ”

เวินหนี่เองก็รู้จักเธอ ครั้งก่อนเธอต้องการสัมภาษณ์พิเศษกับเย่หนานโจว และพวกเธอก็ได้พบกัน

และเธอก็ประสบความสำเร็จได้เพราะผ่านการช่วยประสานงานโดยเวินหนี่

เธอตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “สวัสดีค่ะบรรณาธิการเฉิน”

“พวกคุณรู้จักกันด้วยเหรอคะ?” บรรณาธิการเฉินมองพวกเธอสองคนสลับกันไปมา

ลู่ม่านเซิงพูดขึ้นว่า “รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทกันมากค่ะ”

เธอจงใจตีตัวออกห่างจากเวินหนี่

เวินหนี่ก็พูดต่อเธอว่า “พอกลับมาคุณลู่ก็พาดหัวข่าวเกี่ยวกับคู่หมั้นซะใหญ่โต ไม่แปลกใจที่บรรณาธิการเฉินจะอยากรู้ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ คิดว่าจะพากลับมาจากต่างประเทศเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่”

บรรณาธิการเฉินตกตะลึงและถามขึ้นอีกว่า “ไม่ใช่หรอกเหรอคะ?”

“อ่า สื่อรายงานมั่วน่ะสิคะ” ลู่ม่านเซิงกล่าวอย่างใจเย็น

เธอจงใจปล่อยข่าวนั้นเองเพื่อทดสอบว่าเย่หนานโจวจะสนใจว่าเธอมีคู่หมั้นหรือไม่

แต่เธอได้ยินมาว่าเย่หนานโจวดื่มหนักในคืนนั้น ซึ่งหมายความว่าเขายังคงสนใจเธออยู่

“แฟนของฉันอยู่ในจีนและรอฉันมาหลายปี ความสัมพันธ์ของเรามั่นคงมาก เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะตกหลุมรักชาวต่างชาติค่ะ”

ลู่ม่านเซิงมองไปที่เวินหนี่ เห็นได้ชัดว่าจงใจพูดให้เวินหนี่ฟัง

นอกจากนี้ยังเป็นการบอกเธอด้วยว่า ไม่ว่าพวกเธอจะแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง ลู่ม่านเซิงและเย่หนานโจวก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เวินหนี่รู้สึกแย่ในใจ เธอเป็นภรรยาตามกฎหมายของเย่หนานโจว แล้วทำไมถึงไม่ใช่เธอที่จะเป็นฝ่ายยั่วยุล่ะ?

“คบกันมาตั้งนานหลายปีแล้วทำไมยังไม่ได้แต่งงานกันสักทีล่ะคะ มัวรออะไรอยู่?” เวินหนี่มองลู่ม่านเซิงอย่างตรงไปตรงมา “สื่อข่าวก็มีพลังมาก แถมคุณลู่ก็ยังโด่งดังมากขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีเบาะแสอะไรบ้าง เป็นเพราะคุณลู่ปกปิดข่าวได้ดีงั้นเหรอคะ? ฉันมักจะอ่านข่าวซุบซิบอยู่บ่อย ๆ คราวก่อนดาราหญิงที่อยู่ในสถานการณ์นี้ก็ดูเหมือนว่าจะตกหลุมรักชายที่แต่งงานแล้วด้วยนะคะ”

ขณะที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ก็มีคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ซึ่งพวกเขาต่างก็รู้จักลู่ม่านเซิง

คำพูดของเวินหนี่ ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองลู่ม่านเซิง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรับรู้ถึงสายตาแปลก ๆ

บรรณาธิการก็รอคำอธิบายเช่นกัน เมื่อเห็นว่าลู่ม่านเซิงเงียบไม่ตอบ เธอจึงพูดขึ้นอย่างลังเล “ม่านเซิง คงไม่เป็นแบบนั้นหรอกใช่ไหม?”

ลู่ม่านเซิงที่พวกเขารู้จักนั้นสูงส่งแค่ไหน ทุกคนต่างก็รู้ดี จึงไม่เคยมีใครคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

แต่ในฐานะที่เธอเป็นบุคคลสาธารณะ กลับได้ยินแต่เพียงเรื่องการมีอยู่ของคู่หมั้นของเธอ แต่ไม่เคยพูดถึงมันเลย ซึ่งมันก็ทำให้แปลกมากขึ้น

คำว่า “ชายที่แต่งงานแล้ว” เป็นเหมือนหนามแหลมในหัวใจของลู่ม่านเซิงที่กระแทกเกราะป้องกันภายในของเธอ เธอกำมือแน่น “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ อย่าพูดมั่วกันไปเลยค่ะ”

เธอไม่ต้องการให้ผู้คนหัวเราะเยาะในงานนี้

เวินหนี่มองดูชุดของเธอแล้วกล่าวเสริมขึ้นอีกว่า “ชุดราคาห้าล้านมันก็นั้นคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจริง ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรือเปล่า”

ทันทีที่เธอพูดจบ บรรณาธิการเฉินก็ถามขึ้นว่า “บังเอิญเรื่องอะไรเหรอคะ?”

เวินหนี่มองไปที่ลู่ม่านเซิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แต่คำพูดของเธอนั้นเหมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของลู่ม่านเซิง “เมื่อวานนี้ไม่รู้ว่าฉันได้ยินใครพูดมา ว่ามีประธานคนหนึ่งที่นอกใจภรรยาให้บัตรเครดิตมือที่สามไปรูดเป็นล้าน สุดท้ายถูกภรรยาจับได้ทะเลาะกันใหญ่โตเลยล่ะค่ะ”

หน้าของลู่ม่านเซิงซีดเผือดและบิดเบี้ยว

เวินหนี่รู้ดี ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างลู่ม่านเซิงและเย่หนานโจวจะลึกซึ้งแค่ไหน ตราบใดที่การแต่งงานของเธอยังอยู่ ลู่ม่านเซิงก็จะไม่มีวันออกแสงได้

เธอเป็นบุคคลสาธารณะและไม่มีทางที่จะเอาอนาคตของตัวเองเข้ามาเสี่ยง

แม้ว่าเธอจะแต่งงานอย่างลับ ๆ กับเย่หนานโจว แต่เธอก็ยังคงกลัวว่า เวินหนี่จะเผลอพูดอะไรออกไปแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่

เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะร้องไห้และไม่พูดอะไร เวินหนี่จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แน่นอนว่าฉันไม่ได้หมายถึงคุณนะคะคุณลู่ ฉันแค่คิดว่ามันบังเอิญก็เท่านั้น ฉันเชื่อว่าคุณคงไม่แย่งสามีของใคร”

บรรณาธิการเฉินเป็นคนฉลาดและไม่ต้องการให้สถานการณ์ตึงเครียดไปมากกว่านี้ เธอจึงกล่าวต่อว่า “ฉันรู้จักม่านเซิงดี คุณไม่มีทางชอบผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วแน่นอน”

ลู่ม่านเซิงกำหมัดจนแทบแหลก ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงฝืนยิ้ม “พวกคุณนี่พูดล้อเล่นเก่งกันจริง ๆ เลยนะคะ”

เวินหนี่รู้สึกหิวนิดหน่อยจึงเดินไปหาอะไรกิน ผู้คนกำลังดูนิทรรศการอยู่ข้างนอก และข้างในก็มีคนไม่มากนัก

ลู่ม่านเซิงไม่พอใจ ความภาคภูมิใจของเธอจะถูกเวินหนี่ทำลายไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงไล่ตามเวินหนี่ไปและเรียกเธออย่างรุนแรง “เวินหนี่!”

เวินหนี่ไม่ได้สนใจเธอ

“เธอหมายความว่ายังไง” ลู่ม่านเซิงพูดด้วยดวงตาสีแดง “เมื่อกี้เธอคิดจะทำลายฉันจริง ๆ ใช่ไหม?”

เวินหนี่หยิบเครื่องดื่มขึ้นมาและจิบ “ถ้าฉันมีความคิดแบบนั้น เธอคิดว่าจะยังมายืนต่อหน้าฉันได้อยู่ไหม?”

ลู่ม่านเซิงพูดขึ้น “เธอต่างหากที่คือมือที่สาม เย่หนานโจวกับฉันรักกันมาหลายปีแล้ว เธอทำให้เราต้องแยกจากกัน ถ้าไม่มีเธอ คนที่แต่งงานกับเขาก็ต้องเป็นฉัน เย่หนานโจวรักฉันมาตลอด และเขาก็รอให้ฉันกลับมา ในเมื่อฉันกลับมาแล้วเธอกับเขาก็ควรหย่ากันได้แล้ว!”

คำพูดของเธอแทงทะลุหัวใจของเวินหนี่

เธอแต่งงานกับเย่หนานโจวแค่ระยะเวลาสามปีเท่านั้น นี่เพียงเพื่อรอให้ลู่ม่านเซิงกลับมาใช่ไหม?

เวินหนี่มองย้อนกลับไปที่ลู่ม่านเซิง และน้ำเสียงของเธอก็เย็นชาขึ้นมาก “คุณลู่คะ คุณพูดจาไร้สาระอะไรกัน? ฉันจดทะเบียนสมรสกับเย่หนานโจว และฉันก็เป็นภรรยาของเขา แล้วตัวตนของคุณคืออะไร? อยากให้คนอื่นรู้ว่าคุณล่อลวงสามีของคนอื่นเหรอคะ?”

น้ำตาไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ จากหางตาของลู่ม่านเซิง เธอเช็ดมันอย่างสงบแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “มีใครรู้บ้างว่าเธอเป็นภรรยาของเย่หนานโจว? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เธอแต่งงานกับเขาเพราะเงินห้าสิบล้าน เธอมันเห็นแก่เงิน! เย่หนานโจวไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วเพราะเขาไม่อยากทำให้ชื่อเสียงของฉันต้องเสียหายในอนาคต เป็นเพราะเธอใช่เล่ห์เหลี่ยมถึงได้แต่งงานกับเขาไงล่ะ!”

เวินหนี่เม้มริมฝีปาก หนามแหลมคมทิ่มแทงหัวใจของเธอรุนแรงยิ่งขึ้น

เป็นอย่างนี้เองสินะ

ปกปิดการแต่งงานเพื่อปกป้องชื่อเสียงของลู่ม่านเซิง

และเธอก็ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทั้งหมดอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเห็นสีหน้าของเวินหนี่เปลี่ยนไป ลู่ม่านเซิงจึงกล่าวต่อ “เวินหนี่ ภูมิหลังของเธอแต่งงานก็เพื่อเงิน ตระกูลเย่จะชื่นชอบเธอได้ยังไง อย่างนั้นก็เลยไม่มีใครเห็นความสำคัญของเธอไงล่ะ ถ้าเธอต้องการเงิน ฉันเองก็ให้เธอได้นะ เธออยากได้เท่าไหร่ล่ะ ถึงจะยอมปล่อยเย่หนานโจวไป?”

เวินหนี่พูดขึ้นว่า “ชุดที่คุณใส่ก็ยังต้องใช้เงินของเย่หนานโจว คุณจะให้เงินฉันได้เท่าไหร่กัน?”

ลู่ม่านเซิงหัวเราะขึ้น “นี่คือของขวัญที่เขามอบให้ฉัน เกรงว่าเขาคงไม่เคยให้ชุดสวย ๆ แบบนี้กับเธอสินะ”

เวินหนี่หายใจเข้าลึก กลัวว่าคนที่พ่ายแพ้จะเป็นเธอเสียเอง จึงเดินผ่านเธอและเตรียมที่จะออกไป

แต่ลู่ม่านเซิงคว้าแขนของเธอเอาไว้ “จะไปไหน ฉันพูดกับแทงใจดำเธอหรือไงกัน เย่หนานโจวไม่เคยเลือกชุดให้เธอเลยใช่ไหม?”

เล็บของเธอแทบจะแทงเข้าไปในเนื้อของเวินหนี่ เวินหนี่ขมวดคิ้วและพูดขึ้นเสียงเย็น “ปล่อย!”

เสียงของลู่ม่านเซิงดังขึ้น “เวินหนี่ ยอมรับความจริงซะ เธอไม่เคยถูกรัก ชื่อเสียงของเธอเป็นเพียงเครื่องประดับ ทำไมเธอถึงไม่ละอายใจ และยึดครองผู้ชายที่ไม่ใช่ของตัวเอง…”

“เพียะ!”

เวินหนี่โบกมือและตบหน้าเธอเสียงดัง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status