Share

บทที่ 4

“วันนี้พี่เวินหนี่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เธอไม่อยากเอาเอกสารมาส่ง ฉันเลยต้องเอามาส่งน่ะค่ะ” ลู่ม่านเซิงวางมือที่โดนลวกตรงหน้าเขา “พี่หนานโจว อย่าโทษพี่เวินหนี่เลยนะคะ ฉันว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจ หวังว่าคงจะไม่ได้ทำให้งานของพี่ล่าช้าหรอกใช่ไหมคะ”

เอกสารของบริษัทไปอยู่ในมือของคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เวินหนี่ทำอะไรแบบนี้

สีหน้าของเย่หนานโจวมืดมน แต่เขาก็ยังคงอดทนเมื่ออยู่ต่อหน้าลู่ม่านเซิง เขาเพียงแค่ดึงเนกไทแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง “ไม่เป็นไร”

เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดขึ้นว่า “ไหน ๆ ก็มาแล้ว นั่งพักก่อนสิ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นลู่ม่านเซิงก็รู้สึกมีความสุขในใจ อย่างน้อยเขาก็ยอมรับเธอ และไม่ได้เกลียดเธอ

“พี่มีประชุมไม่ใช่เหรอคะ ฉันรบกวนพี่หรือเปล่า”

เย่หนานโจวโทรออกหาใครบางคน “เลื่อนการประชุมออกไปครึ่งชั่วโมง”

มุมปากของลู่ม่านเซิงโค้งงอขึ้น ก่อนจะมาที่นี่เธอกำลังคิดว่า การที่เธอจากไปโดยไม่บอกลาจะทำให้เขารู้สึกโกรธหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้แย่เหมือนที่คิดเอาไว้

เวลาที่เสียไปยังชดเชยกลับคืนมาได้

ลู่ม่านเซิงนั่งลงบนโซฟาอย่างคาดหวัง และอยากจะอธิบาย “พี่หนานโจว ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ตั้งหลายเรื่อง ตอนนั้นเป็นความผิดของฉันเองที่จากไปโดยไม่ได้บอกลา แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว…”

“ฉันขอจัดการงานก่อน” เย่หนานโจวขัดจังหวะเธอ

ลู่ม่านเซิงกลืนคำพูดกลับลงไปอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาดูยุ่งมากจึงได้แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันรอจนกว่าพี่จะทำงานเสร็จก็ได้ค่ะ”

ลู่ม่านเซิงไม่กล้ารบกวนเขา และก็ไม่รู้ว่าภายในครึ่งชั่วโมงนี้เธอต้องนั่งรออีกนานแค่ไหนกว่าที่จะได้คุยกับเขา

เธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ออกเลย

จนกระทั่งเผยชิงเดินเข้ามา เย่หนานโจวถึงได้หยุดงานในมือ

เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ลู่ม่านเซิงจึงตะโกนขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พี่หนานโจว ฉัน…”

“มือยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

นี่เขาสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บที่มือของเธอและเป็นห่วงเธอใช่ไหม?

ลู่ม่านเซิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่เจ็บแล้วค่ะ”

“อืม” เย่หนานโจวตอบเบา ๆ และหยิบชามยามาจากมือผู้ช่วยเผยชิง “ได้ยินมาว่าเธอยังไม่ชินกับสภาพอากาศและรู้สึกเจ็บคอ กินยานี่สิ มันจะดีต่อลำคอของเธอนะ”

ลู่ม่านเซิงมองไปที่ชามยาร้อน ๆ และรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง

เขาแอบติดตามสถานการณ์ของเธอและรู้แม้กระทั่งว่าเธอเจ็บคอ แสดงให้เห็นว่าเขายังคงห่วงใยเธออยู่

เธอรีบรับชามยามา พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่สดใสดุจดอกไม้ “พี่หนานโจว พี่ยังใส่ใจฉันเหมือนเคยเลยนะคะ แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว ฉันจะกินยาให้หมดเลยค่ะ”

ก่อนที่เธอจะนำชามยาเข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เป็นอย่างมาก

เธอไม่ชอบรสชาติของยาจีน แต่ถ้ายานี้มาจากเย่หนานโจวเธอก็จะกิน

เธอขมวดคิ้วด้วยความขมขื่นและพยายามกลืนยานั้นลงไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เมื่อเห็นเธอกินยาหมดในอึกเดียวจนไม่เหลือสักหยด เย่หนานโจวก็เบนสายตาไปทางอื่น

“ประธานเย่ การประชุมกำลังจะเริ่มแล้วครับ” ผู้ช่วยเผยชิงเตือนขึ้น

เย่หนานโจวมองไปที่ลู่ม่านเซิงแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันยังต้องทำงาน เธอกลับไปก่อนเถอะ”

ลู่ม่านเซิงเช็ดปาก เธอพูดอะไรมากไม่ได้ จึงได้แต่ตอบกลับไปอย่างเข้าใจว่า “ก็ได้ค่ะ ไว้ฉันจะมาเยี่ยมพี่ใหม่วันหลังนะคะ”

แล้วเย่หนานโจวก็เดินออกไป

ลู่ม่านเซิงมองตามแผ่นหลังของเขาอย่างอ้อยอิ่งจนกระทั่งร่างสูงลับสายตาไป

เธอมีความสุขมากและส่งข้อความถึงผู้จัดการว่า ‘กลับมาครั้งนี้ฉันพนันถูก เขายังคงรักฉันอยู่’

ข้างนอก เมื่อเดินไปถึงห้องประชุม เผยชิงก็ถามขึ้นข้างหลังเย่หนานโจว “ประธานเย่ ทำไมเราถึงต้องใส่ยาคุมกำเนิดลงในยาด้วยล่ะครับ?”

ใบหน้าของเย่หนานโจวไร้อารมณ์ และเย็นชา “ลู่ม่านเซิงไปที่โรงแรมแล้ว”

เผยชิงเข้าใจทันที เขากลัวว่าผู้หญิงคนเมื่อคืนจะเป็นลู่ม่านเซิง และกลัวว่าเธอจะท้อง

การทานยาคุมกำเนิดถึงจะรับประกันได้

หนึ่งวันเต็มที่เวินหนี่ไม่มาบริษัท แถมยังไม่โทรมาลาอีกด้วย

เดิมที เธอจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ และไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้ง

เดี๋ยวนี้เธอเริ่มเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มาทำงานแถมยังไม่บอกกล่าวสักคำ

เย่หนานโจวโกรธมาก เขามีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดทั้งวัน และไม่ยิ้มเลย สิ่งนี้ทำให้พนักงานบริษัทต่างก็กลัวว่าตัวเองจะทำอะไรผิด

หลังจากเลิกงาน เย่หนานโจวกลับมาถึงคฤหาสน์ต้นตระกูล

เวลานี้เวินหนี่ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว

ในห้องนอน เวินหนี่นอนอยู่บนเตียง มือของเธอยังคงสั่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ และยังอยู่ในภาวะช็อก

แผลบนมือยังไม่ทันได้รับการรักษา จึงเกิดการพุพองขึ้น

เมื่อเทียบกับบาดแผลในหัวใจ บาดแผลนอกร่างกายนั้นแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย

เมื่อเย่หนานโจวมาถึงประตูบ้าน คนรับใช้ก็เดินเข้าไปพร้อมกับเปลี่ยนรองเท้าให้เขา

สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงอยู่ไหน?”

“อยู่ชั้นบนค่ะ” คนรับใช้พูด “ตั้งแต่คุณผู้หญิงกลับมาจากข้างนอก เธอก็ไม่ได้ออกมาอีกเลยค่ะ”

หลังจากได้รับคำตอบแล้ว เย่หนานโจวก็ขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็เห็นผ้าห่มที่นูนขึ้นจนมองไม่เห็นหัวคนเลยด้วยซ้ำ

ความผิดปกติของเธอทำให้เย่หนานโจวสับสน เขาเดินไปข้างเตียง ก้มลงและแตะผ้าห่ม

“อย่าแตะต้องฉัน!”

เวินหนี่สะบัดมือออก

เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ประตูเมื่อนานแล้ว และคิดว่าพวกเขากำลังจะจับเธอขังในห้องมืดอีกครั้ง ทุกย่างก้าวก็เหมือนกับการเหยียบย่ำหัวใจของเธอ

เธอคลุมผ้าห่มอย่างแน่นหนา และตกอยู่ในความตื่นตระหนก

จนกระทั่งมีคนเปิดผ้าห่มของเธอ เธอจึงลุกขึ้นนั่งและดันมือของเขาออก

เย่หนานโจวรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นเธอตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นนี้ สีหน้าของเขามืดมนลง และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เวินหนี่ ถ้าเธอไม่แกล้งทำเป็นมีลับลมคมในแบบนี้ คิดว่าฉันอยากจะสัมผัสเธอหรือไง”

เมื่อเวินหนี่พบว่าคือเย่หนานโจว จิตใจของเธอก็สงบขึ้น

แต่พอได้ยินคำพูดของเขา หัวใจที่พรุนเป็นรูก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่นิดหน่อย เธอสงบสติอารมณ์และพูดขึ้นว่า “ประธานเย่ ฉันไม่รู้ว่าเป็นคุณ”

“ในบ้านนี้ ถ้าไม่ใช่ฉัน แล้วจะเป็นใคร?” เย่หนานโจวเยาะเย้ย “ใจของเธอมันลอยออกไปข้างนอกแล้วหรือไง”

เวินหนี่เม้มริมฝีปาก ในใจของเธอมีเพียงคำพูดหยาบคายของเย่ซูเฟินเท่านั้น

ลู่ม่านเซิงเหมาะสมกับเย่หนานโจวมากกว่าเธอ

ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว และพวกเขาสามารถสานต่อความสัมพันธ์กันต่อได้ ธุระของเธอก็หมดลงแล้ว

“วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย”

เวินหนี่รู้ว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน “ลู่ม่านเซิงเอาเอกสารไปส่งให้แล้วใช่ไหมคะ หวังว่ามันจะไม่ทำให้งานของคุณต้องล่าช้า”

การทำตามใจตัวเองของเธอในวันนี้ทำให้เย่หนานโจวรู้สึกไม่พอใจ “เลขาเวิน ในเมื่อเธอก็มีไหวพริบดี แล้วทำไมถึงได้สร้างปัญหามากมายแบบนี้”

เวินหนี่ครุ่นคิด เธอสร้างปัญหาอะไรบ้าง

หรือว่าจะเป็นที่ทำให้แม่ของเขาโกรธ

ทำให้มือของผู้หญิงที่เขารักได้รับบาดเจ็บ

เธอซ่อนมือไว้ใต้ผ้าห่ม หัวใจของเธอเริ่มชา “มันจะไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ”

หลังจากหย่าแล้วก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

เธอจะไม่ยืนขวางทางพวกเขาอีกไม่ว่าใครก็ตาม

“ตรวจสอบผู้หญิงคนเมื่อคืนได้หรือยัง?”

เวินหนี่ตัวแข็งทื่อ “กล้องวงจรปิดพังทำให้ตรวจสอบไม่พบค่ะ”

เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับจ้องไปที่เธอ “แล้วเธอทำอะไรอยู่ที่บ้านทั้งวัน?”

เวินหนี่มองดูท้องฟ้าข้างนอก มันมืดแล้ว

เธอไม่ได้ไปบริษัทหนึ่งวัน เขาคงคิดว่าเธอกำลังทำตัวขี้เกียจและอู้งานสินะ

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” เวินหนี่ไม่อยากพูดอะไรมาก หลังจากชำระหนี้ให้กับตระกูลเย่หมดแล้ว เธอและเขาก็จะไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน

ความสัมพันธ์แบบรักข้างเดียวตลอดเจ็ดปีก็ควรจะสิ้นสุดลงได้แล้ว

เธอลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแล้วเดินอ้อมตัวเขาเพื่อที่จะออกไป

ในบ้านนี้ หากไม่มีเขา เธอก็คงไม่มีอะไรให้ต้องคำนึงถึง

ตอนนี้เธอเหนื่อยแล้ว และไม่อยากทนกับการถูกปฏิบัติแบบไม่เป็นธรรมเหล่านี้อีกต่อไป

เย่หนานโจวมองดูเธอและพบว่ามือของเธอก็ถูกลวกเช่นกัน

บาดแผลนั้นรุนแรงกว่าของลู่ม่านเซิง

ในขณะที่เวินหนี่กำลังจะเดินออกจากห้อง เขาก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยว!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status