Share

บทที่ 5

เวินหนี่หยุดฝีเท้า ความสัมพันธ์ของพวกเธอไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวกันฉันคู่สามีภรรยา แต่คือความสัมพันธ์ที่ห่างเกินระหว่างเจ้านายกับลูกน้องมากกว่า “ประธานเย่ มีอะไรจะสั่งอีกหรือเปล่าคะ?”

เย่หนานโจวหันหน้าไปจ้องใบหน้าที่ดูห่างเหินของเวินหนี่ และพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง “นั่งลง”

จู่ ๆ เวินหนี่ก็ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะทำอะไร

เย่หนานโจวเดินเข้ามาหาเธอ

เวินหนี่เฝ้าดูเขาเดินใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ มีบางอย่างดูแตกต่างออกไป ทำให้เธอรู้สึกว่าอากาศเบาบางลง

ทั้งตื่นเต้นและรู้สึกแปลกเล็กน้อย

เธอยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่เย่หนานโจวเอื้อมมือมาจับมือของเธอเอง

เมื่อฝ่ามืออันอุ่นร้อนของเขาสัมผัสเธอ เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกบางสิ่งเผาไหม้และต้องการดึงมันออก แต่เย่หนานโจวกลับจับมันไว้แน่น และไม่เปิดโอกาสให้เธอดึงมันกลับเลย เขาดึงเธอไปด้านข้างพลางขมวดคิ้วถาม “มือของเธอได้รับบาดเจ็บ ไม่รู้ตัวเลยหรือไง?”

ความเป็นห่วงของเขาทำให้เวินหนี่รู้สึกประหลาดใจ “ฉัน... ไม่เป็นไรค่ะ”

“มือเป็นแผลพุพองแบบนี้” เย่หนานโจวถามต่อ “ทำไมถึงไม่บอกฉัน”

เธอมองลงไปที่มือใหญ่ ที่ตอนนี้กำลังตรวจสอบบาดแผลของเธอ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธออยากจะจับมือของเขาหลายครั้ง เธอต้องการความอบอุ่น และต้องการการนำทางไปในทิศทางหนึ่ง

แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย

แต่พอเธอคิดอยากจะยอมแพ้ เขากลับมอบความอบอุ่นให้เธออีกครั้ง

“มันแค่เรื่องเล็ก ฉันคิดว่าอีกสองวันก็คงหาย” เวินหนี่ตอบ

“ฉันจะให้คนเอายาทาแผลมาให้”

เวินหนี่รู้สึกขอบตาร้อนผ่าว ในที่สุดความพยายามหลายปีก็ดูเหมือนจะได้รับผลตอบรับบ้างแล้ว

แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้รักเธอ

เย่หนานโจวหยิบยามาทาที่บาดแผลให้เธอ เธอมองดูเขาที่นั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าและทำแผลให้เธออย่างระมัดระวัง สิ่งนี้ทำให้เธอเผลอคิดไปว่า บางทีเธออาจสามารถกลายเป็นผู้หญิงคนที่เขารักได้

ดูเหมือนว่าบาดแผลเล็กน้อยจะทำให้เขามองมาที่เธอนานขึ้นบ้าง

และเธอก็มีความคิดไร้สาระผุดขึ้นมาว่า ที่เธออยู่กับเขามาเจ็ดปีและดูแลเขาอย่างขยันขันแข็งทุกวันยังสู้มีบาดแผลเล็กน้อยเรียกร้องความสนใจจากเขาไม่ได้เลย

แผลเล็กน้อยแค่นี้คุ้มค่าแล้ว

น้ำตาของเธอไหลลงมา และบังเอิญหยดลงไปบนหลังมือของเย่หนานโจว

เย่หนานโจวเงยหน้าขึ้น เห็นดวงตาที่รื้นชื้นของเวินหนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอแสดงอารมณ์ต่อหน้าเขา

“ร้องไห้ทำไม ฉันทำเธอเจ็บเหรอ?”

เวินหนี่รู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองผันผวนเกินไป ไม่เหมือนตัวเธอเลย “ไม่เจ็บเลยสักนิด ฉันแค่รู้สึกไม่สบายตา คุณเย่ ครั้งต่อไปฉันจะไม่เป็นแบบนี้อีก”

เย่หนานโจวเบื่อหน่ายกับการฟังคำพูดที่สุภาพของเธอนับครั้งไม่ถ้วน เขาขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “นี่คือที่บ้าน ไม่ใช่บริษัท เธอไม่จำเป็นต้องทำตัวทางการต่อหน้าฉันทุกวันก็ได้ ที่บ้านเธอเรียกชื่อฉันก็ได้”

แต่ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา เวินหนี่ก็ปฏิบัติเช่นนี้มาโดยตลอด

ในบริษัทเธอเป็นเลขานุการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ที่บ้านถึงจะมีตำแหน่งเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเย่ แต่เธอก็ทำเฉพาะสิ่งที่เลขาควรทำเท่านั้น

เวินหนี่มองดูใบหน้าของเขาที่ตนหลงรักมาหลายปี ความรักที่ไม่ได้รับการตอบสนองในที่สุดก็จะรู้สึกเหนื่อย เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “เย่หนานโจว เมื่อไหร่เราจะหย่า…”

เย่หนานโจวกอดเธอไว้ในอ้อมแขน

สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของเวินหนี่แข็งทื่อ ศีรษะของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขา และพูดอะไรไม่ออก

เย่หนานโจวขมวดคิ้วและพูดว่า “วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว มีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้”

เวินหนี่ไม่มีทางเลือกนอกจากเลิกพูดถึงเรื่องนี้

เวินหนี่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกว่าเขาดูแตกต่างออกไป ร่างกายของเขาอยู่ใกล้เธอมากจนรู้สึกถึงอุณหภูมิที่ร้อนของเขา

มือของร่างสูงโอบเอวเธอ ห่อหุ้มเธอไว้ด้วยกลิ่นหอมราวกับต้นสนไซเปรส ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย

ฝ่ามือใหญ่ของเขากดลงบนท้องของเธอ ทำให้ร่างกายของเธอหดตัวเล็กน้อย และลมหายใจอันอบอุ่นของเขาก็รินรดอยู่ข้างหู “เธอบ้าจี้หรือเปล่า?”

เวินหนี่ลดสายตาลงแล้วตอบไปว่า “ฉันไม่ค่อยชิน”

เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็เริ่มกระตือรือร้นมากขึ้น เขาเอามือโอบเธอแล้วกอดเธอไว้แน่น “งั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัวกับมัน สักวันหนึ่งเธอก็จะชินเอง”

เวินหนี่แนบตัวไปในอ้อมแขนของเขา และลมหายใจอันร้อนแรงก็ปะทะใบหน้าของเธอ ทำให้แก้มของหญิงสาวร้อนผ่าวเล็กน้อย

เธอเงยหน้าขึ้นและครุ่นคิดอีกครั้งว่า การแต่งงานของพวกเธอมีโอกาสที่จะพลิกผันหรือไม่?

เธอยังโหยหาตัวตนที่แตกต่างออกไป

เธอพูดขึ้นว่า “หนานโจว… ถ้าเป็นไปได้ พวกเรา…”

เสียงโทรศัพท์ของเย่หนานโจวดังขึ้นขัดจังหวะ

ความสนใจของเขาอยู่ที่โทรศัพท์

ประโยคสุดท้ายยังไม่ได้พูดออกไป

พวกเรามีตัวตนแบบสามีภรรยาได้ไหม…

เธอไม่อยากปรากฏตัวในสายตาของเขาในฐานะเลขานุการอีกแล้ว

แต่ความคิดที่ขาดสติแบบนี้ก็เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอก็เห็นชื่อ “ลู่ม่านเซิง” ปรากฏบนหน้าจอ

มันทำให้สติของเธอกลับมาอีกครั้ง

สีหน้าของเย่หนานโจวกลับมาสงบอีกครั้ง เขาปล่อยเธอและลุกขึ้นนั่งโดยไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเธอ

“ฮัลโหล”

เธอเฝ้าดูเย่หนานโจวลุกขึ้นจากเตียงด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนต่อหน้าเธอเพื่อไปรับสายของลู่ม่านเซิง

หัวใจของเวินหนี่จมดิ่ง มุมปากกระตุกยิ้มเยาะขึ้น

เวินหนี่หน๋อเวินหนี่ ทำไมเธอถึงได้มีจินตนาแบบนั้นกัน

หัวใจของเขาอยู่ที่ลู่ม่านเซิง ไม่มีทางมีความรู้สึกใด ๆ ต่อเธอ นี่คือสิ่งที่เขาพูดไว้ในงานแต่งสามปีก่อน

เวินหนี่เงยหน้าขึ้น รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก และความร้อนรอบดวงตาของเธอก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

เธอหลับตาลง ไม่อยากร้องไห้ให้เขาอีกแล้ว

เขาไม่เคยรู้เลยว่า ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าเขามีคนอยู่ในใจ เธอก็ได้แต่แอบร้องไห้ให้เขามาโดยตลอด แต่ไม่เคยให้เขาได้เห็นเลย

เธอรู้จักตัวตนของตัวเธอเอง เธอเป็นเพียงเลขาที่อยู่ข้างกายเขาเท่านั้น

เย่หนานโจวเดินกลับหลังจากรับโทรศัพท์เสร็จ เมื่อเห็นว่าเวินหนี่ยังไม่ได้นอน เขาจึงเตือนขึ้นว่า “ที่บริษัทมีเรื่อง ฉันต้องออกไปจัดการ เธอรีบพักผ่อนเถอะ”

เวินหนี่ไม่ได้มองเขา และไม่อยากให้เขาเห็นด้านที่อ่อนแอของเธอ “เข้าใจแล้วค่ะ คุณรีบไปเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานให้ตรงเวลา”

“อืม”

เย่หนานโจวตอบก่อนจะหยิบเสื้อคลุมแล้วจากไป

เมื่อเธอได้ยินเสียงสตาร์ทรถและเสียงของรถที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจของเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังแตกสลาย

เวินหนี่แทบจะไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน

วันรุ่งขึ้นยังต้องไปทำงาน

เวินหนี่ออกไปแต่เช้า ในบริษัทมีพนักงานเพียงไม่กี่คน เธอทำหน้าที่ของเธอตามปกติและจัดการงานของเย่หนานโจวอย่างเป็นระเบียบ

แต่วันนี้เย่หนานโจวไม่ได้มาที่บริษัท

เวินหนี่โทรหาเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ปิดเครื่อง

หลี่ถิงรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย “พี่เหวิน วันนี้ประธานเย่ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าเขาไปไหน งานตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างคงต้องรบกวนพี่ด้วยนะคะ”

ในฐานะเลขาของเย่หนานโจว เวินหนี่มีส่วนร่วมในงานส่วนใหญ่ของบริษัท และเธอก็คุ้นเคยกับโครงการนี้เป็นอย่างดี

เวินหนี่โทรหาเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยอมแพ้

ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนเขาได้รับโทรศัพท์จากลู่ม่านเซิง

เขาไม่ได้มาที่บริษัท และไม่ได้กลับบ้านตลอดทั้งคืน คงไปหาเธอสินะ

เวินหนี่พยายามระงับความขมขื่นในใจ “งั้นก็ไม่ต้องรอประธานเย่แล้ว พวกเราไปกันก่อนเถอะ”

ข้างนอกแดดแรงจัดและอุณหภูมิสูงมาก เธอมาถึงสถานที่ก่อสร้าง

อาคารที่กำลังก่อสร้างมีเพียงโครงเท่านั้น และสถานที่ก็ดูค่อนข้างรก

เมื่อเธอเข้าไปด้านใน พื้นก็เต็มไปด้วยฝุ่นและแท่งเหล็ก แถมเครื่องมือก็ส่งเสียงดัง

เวินหนี่เคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วและค่อนข้างคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเธอจึงดำเนินการอย่างรวดเร็ว

แต่จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนขึ้นว่า “ระวัง!”

เวินหนี่เงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นกระจกชิ้นหนึ่งตกลงมาจากบนหัวของเธอ…

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status