Share

บทที่ 0011

เย่เจียเหอหัวเราะอย่างน่าเวทนา "บอกคุณแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? คุณก็เหมือนกับพวกเขาที่คิดว่าฉันมีความผิดและสมควรที่จะได้รับการลงโทษไม่ใช่เหรอ?"

"เจียเหอ..."

ลู่จิ่งโม่ตะโกนเรียกชื่อเธออย่างจนใจ และกระซิบว่า "ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ยังเป็นคุณนายของลู่จิ่งโม่อยู่ ผมไม่อนุญาตให้ใครมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคุณได้!"

ทันใดนั้นเย่เจียเหอก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ใสสะอาดมีประกายน้ำตาแวบเข้ามา

คำพูดของเขาเมื่อครู่นี้ มันกลับทำให้เธออุ่นใจและมั่นคงได้ขนาดนั้น

"ใครอยากได้ความหวังดีปลอมๆอย่างนั้นของคุณกัน?"

แม้จะพูดแบบนี้ แต่น้ำเสียงแบบนั้น มันอ่อนนุ่มและแฝงไปด้วยการออดอ้อนอย่างเห็นได้ชัด

และหัวใจของลู่จิ่งโม่ก็เหมือนกับถูกกระแสไฟช็อตขึ้นมา

เขามองแผลที่ใบหน้าของเธอ แล้วพูดว่า "ใบหน้าแบบนี้ของคุณ หากคุณปู่มาเห็นเข้า ไม่รุ้จะอาละวาดแบบไหนออกมาอีกนะ?"

เย่เจียเหอจับมุมริมฝีปากอย่างขมขื่น "คุณกลัวว่าคุณปู่จะเอาเรื่อง และวังโหรวก็อาจเข้ามาพัวพันด้วย คุณไม่อยากจะให้คุณปู่โกรธเธอใช่ไหมล่ะ!"

ลู่จิ่งโม่ก็ยิ้ม และพูดเบาๆ ว่า "มีใครเคยบอกคุณหรือไม่ว่า ผู้หญิงที่ฉลาดเกินไปมักจะไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่ชอบอวดว่าตัวเองฉลาด"

และเย่เจียเหอก็ไม่อยากให้คุณปู่ต้องมากังวลเธอด้วยเช่นกัน

เธอชำเลืองลู่จิ่งโม่ และต่อสายหาคุณปู่

"ฮัลโหล คุณปู่คะ" เย่เจียเหอแสร้งทําเป็นผ่อนคลาย แล้วพูดว่า "สองสามวันนี้หนูและจิ่งโม่จะไม่กลับไปที่วิลล่าเก่านะคะ! ช่วงนี้หนูต้องอยู่ฝึกงานที่โรงพยาบาล วิลล่าเก่าไกลเหลือเกิน หนูอยากจะพักผ่อนไวๆหน่อยน่ะค่ะ"

คุณปู่ลู่ยิ้มเหอะๆ แล้วพูดว่า "งั้นก็แล้วแต่หนูเลย การเรียนเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าจิ่งโม่กล้ามารังแกหนู หนูต้องรีบบอกปู่เลยนะ"

ด้วยวิธีนี้ เย่เจียเหอก็สามารถเกลี้ยกล่อมคุณปู่ให้ตอบรับอย่างมีความสุข

หลังจากยุ่งมาตลอดทั้งเช้า และกลางวันก็ไม่ได้กินอะไรเลย จู่ๆ เย่เจียเหอก็รู้สึกว่าท้องนั้นโหวงเหวงเหลือเกิน

เธอกุมท้องไว้ แล้วพูดว่า "ฉันหิวแล้ว คุณให้ป้าจางทําอาหารให้ฉันหน่อยเถอะนะ"

"ป้าจางถูกผมไล่ออกแล้ว"

ลู่จิ่งโม่พูดอย่างเย็นชาว่า "และคนรับใช้ทุกคนในวิลล่านี้ ก็ถูกผมส่งไปหมดแล้วด้วย"

เย่เจียเหอตกตะลึงและมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ

ลู่จิ่งโม่อธิบายว่า "ต่อไปวิลล่าหลังนี้จะมีแต่เราสองคน หากทางด้านยวี๋หลานจือได้ข่าวอะไรมาอีก นั่นก็หมายความว่าคุณเป็นคนไปบอกข่าวนะ"

เย่เจียเหอคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายคนนี้จะไล่คนมากมายในวิลล่าหลังนี้ออก เพียงเพราะยวี๋หลานจือได้ข่าวเล็กๆน้อยๆนั้นมา

เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า "คนพวกนั้นทำงานอยู่ที่นี่มาสองปีแล้ว จู่ๆคุณก็ไล่พวกเธอออก คุณเคยคิดถึงความเป็นอยู่ต่อไปของพวกเธอหรือเปล่า? อย่าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่แบบนี้!"

ลู่จิ่งโม่พูดอย่างไม่แยแสว่า "ถ้าคุณไม่รู้สึกผิด แล้วจะร้อนใจไปทำไม?"

เย่เจียเหอบ่นพึมพำอย่างน้อยใจขึ้นมาว่า "ลู่จิ่งโม่ เมื่อกี้คุณยังบอกว่าคุณไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมารังแกฉันได้ แต่คุณรู้หรือเปล่า คนที่รังแกฉันมากที่สุด ก็คือคุณนั่นแหละ!"

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของลู่จิ่งโม่ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

เย่เจียเหอมองหน้าจอโดยไม่รู้ตัว และคําว่า 'วังโหรว' ก็แทงเข้ามาที่ตาเธออย่างจัง

ลู่จิ่งโม่ไม่ได้รับสายโทรศัพท์ เพียงแต่พูดว่า "ผมจะออกไปข้างนอกสักพักนะ"

ด้วยวิธีนี้ เขาก็ได้จากไปอย่างเร่งรีบ

เย่เจียเหอหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง

ตัวเธอช่างโง่สิ้นดี เพียงเพราะความอ่อนโยนของเขาที่โยนเข้ามาเป็นครั้งคราว ก็ทำให้ซาบซึ้งใจและกระวนกระวายใจได้ขนาดนี้ แล้วเขาล่ะ?

ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว

……

ลู่จิ่งโม่ออกจากวิลล่า และต่อสายถึงวังโหรวทันที

"จิ่งโม่ ลูกพี่ลูกน้องของฉัน ป้าๆน้าๆของฉัน ถูกคนรุมทุบตีแล้ว!" วังโหรวร้องไห้ฟูมฟายออกมา "ระหว่างทางกลับบ้านเมื่อกี้ พวกเขาถูกพวกอันธพาลเข้ามารุมทุบตี ฉันคิดว่านี่ไม่เหมือนอุบัติเหตุ จะเป็นคุณเย่ที่เก็บความแค้นไว้ในใจ และมาแก้แค้นหรือเปล่า?"

"ผมเองแหละ"

ลู่จิ่งโม่พูดอย่างเย็นชาว่า "พวกเขาก็ทุบตีเย่เจียเหอด้วยนี่ ผมก็แค่ทำวิธีเดียวกันก็เท่านั้นเอง ทุกฝ่ายเท่ากันแล้วนะ"

วังโหรวที่อยู่ตรงนั้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าลู่จิ่งโม่จะทําแบบนั้นได้จริงๆ

และเหตุผลที่เขาได้มาสั่งสอนคนในตระกูลวังของพวกเขา ก็เพียงเพราะเย่เจียเหอ!

ดวงตาของเธอฉายแววความเย็นยะเยือกและเหี้ยมโหดออกมา พร้อมกับจับโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น

ทันใดนั้น วังโหรวก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิมมาก "คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? คุณยายของฉันเสียไปแล้ว พวกเขาล้วนเป็นญาติที่ใกล้ชิดที่สุดของคุณยายฉัน มีอารมณ์ความรู้สึกไปบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ถือว่าเห็นแก่หน้าฉัน คุณจะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน?"

"โหรวเอ๋อร์ ก็เพราะผมเห็นแก่หน้าคุณ ผมจึงสั่งสอนพวกนั้นไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"

เสียงของลู่จิ่งโม่เย็นลงอีกเล็กน้อย "ไม่ว่าเย่เจียเหอจะไม่ดีแค่ไหน เธอก็เป็นคนของผม และคนที่จะสั่งสอนเธอได้ ก็มีเพียงผมเท่านั้น ไม่ต้องให้ใครเข้ามาแทรกแซงหรอกนะ"

"เธอเป็นคนของคุณ?"

วังโหรวสะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าโศก "แล้วฉันคืออะไร? จิ่งโม่ ฉันต่างหากที่เป็นผู้หญิงของคุณ! ฉันให้คุณทุกอย่างแล้ว แม้แต่ความบริสุทธิ์ของฉันก็ให้คุณไปหมดแล้ว!"

ลู่จิ่งโม่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

เขาลูบหัวคิ้ว แล้วพูดอย่างหมดความอดทนว่า "โหรวเอ๋อร์ คุณใจเย็นๆหน่อย ผมไม่ชอบคุณที่บีบบังคับแบบนี้เลยนะ สองวันนี้ผมต้องออกทริปธุรกิจ พิธีศพของคุณยายของคุณ ผมจะส่งผู้ชายไปดูแลก็แล้วกัน"

วังโหรวเพิ่งตระหนักว่า ตัวเองได้เสียมารยาทไปแล้วเมื่อครู่นี้

ลู่จิ่งโม่ชอบการอ่อนโยนเหมือนกับน้ำ และเชื่อฟัง

เมื่อกี้เธอเกือบจะทนไม่ได้

"จิ่งโม่ ขอโทษ..."

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ลู่จิ่งโม่ก็ได้วางสายไปแล้ว

วังโหรวทุบโทรศัพท์ลงกับพื้นอย่างแรง โกรธจนกัดฟันกรอดๆ

เย่เจียเหอนังสารเลวคนนั้น แต่งงานกับลู่จิ่งโม่มาสองปีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถมัดใจลู่จิ่งโม่เอาไว้ได้

แต่เมื่อเธอกําลังจะประสบความสําเร็จ เธอก็ออกมาเป็นไม้กันอยู่อย่างนี้ได้!

ใบหน้าที่อ่อนโยนของวังโหรวค่อยๆ กลายเป็นดุร้าย เธอโทรหาญาติที่โชคร้ายของเธอ แล้วสั่งให้พวกเขาดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เธอต้องทําให้เย่เจียเหอเสียชื่อเสียง ให้ลู่จิ่งโม่สะบัดเธอทิ้งยิ่งไกลก็ยิ่งดี

……

เย่เจียเหอถูกมหาลัยส่งพักการเรียน ดังนั้นในสองวันนี้เธอจึงทำได้เพียงอยู่ที่บ้านได้เท่านั้น

จนถึงตอนนี้ มหาลัยก็ยังไม่ได้ประกาศการตัดสินใจจัดการกับเธอ

ส่วนลู่จิ่งโม่ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย

เหมือนสองปีที่ผ่านมาไม่มีผิด บ้านหลังนี้เขาอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป

เดาว่า ตอนนี้เขาก็คงจะอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?

เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง เย่เจียเหอจึงหยิบหนังสือผ่าตัดเล่มหนึ่งออกมา

ในเวลานี้ เซี่ยหลิงก็ได้โทรมาหาเธอ

"เจียเหอ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

เสียงของเซี่ยหลิงร้อนใจเอาเสียมากๆ "คนที่พูดถึงในอินเทอร์เน็ตคือเธอหรือเปล่า ทําไมพวกเขาถึงพูดถึงเธอแบบนั้นด้วย?"

เย่เจียเหอถามอย่างสับสนว่า "หมายความว่าอะไร? พูดถึงฉันแบบไหนเหรอ?"

เซี่ยหลิงถอนหายใจว่า "พระเจ้า เธอไม่ได้เห็นเหรอ นี่เป็นฮอตเสิร์ชแล้วนะ เธอรีบเข้าอินสตาร์แกรมเร็วเข้า!"

หลังจากคุยกับเซี่ยหลิงเสร็จแล้ว เย่เจียเหอก็ค้นหาฮอตเสิร์ชทันที

และหัวข้อที่สะดุดตาก็ได้ปะทะเข้ามาในสายตาเธอทันที

"เย่เจียเหอ นักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยไห่เฉิง เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา หมอใจดำอัมหิต!"

ขณะที่ยอดรีทวีตและคอมเมนต์ในเวลานี้ก็หลักแสนแล้วเช่นกัน

"คนแบบนี้ ช่างน่าตายเสียจริงๆ ไม่มีใบรับรองการแพทย์ ยังจะกล้าช่วยคนสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้อีก"

"คนสมัยนี้ ทําทุกวิถีทางเพื่อโดดเด่น แค่เด็กนักเรียนคนหนึ่ง ยังอยากจะเป็นหมออีก แล้วเป็นไงล่ะ ไม่ได้ช่วยคน แต่กลับทำร้ายคนแบบนี้!"

"นักศึกษาแบบนี้ มหาวิทยาลัยไห่เฉิงควรไล่ออก เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสังคมในอนาคต"

ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น มีแต่เสียงก่นด่าเต็มไปหมด

และคำด่าทอพวกนั้น มันช่างหยาบคายเอาเสียมากๆ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status