Share

บทที่ 0012

เย่เจียเหอรีบเลื่อนอ่านข้อความ เมื่อมองเห็นข้อความตำหนิที่ผิดเพี้ยนจากความจริงไปนั้น นิ้วมือของเธอก็สั่นเทาขึ้นมา

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันนี้ คนธรรมดาอย่างเธอจะถูกเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ได้

ต่อให้ปกติเธอจะเป็นคนโผงผาง และมีความแข็งแกร่งมากพอ

แต่เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูก และข่าวลือที่เต็มไปหมดนี้ ควรจะควบคุมอย่างไรดี?

ไม่นานกริ่งประตูบ้านก็ได้ดังขึ้น

เย่เจียเหอเปิดประตู และเซี่ยหลิงก็พูดอย่างกระหืดกระหอบว่า "เจียเหอ บทความพวกนั้นเพราะมีคนต้องการใส่ร้ายเธอ ใช่หรือเปล่า? เป็นนังมือน้อยนั่น? ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าเธอจะทำเรื่องแบบนั้นได้ ฉันไม่เชื่ออย่างแน่นอน!"

ความไว้วางใจที่แน่วแน่ของเซี่ยหลิงเช่นนี้ทําให้เย่เจียเหอซาบซึ้งใจจนอยากร้องไห้ออกมา

นอกจากพ่อแล้ว เซี่ยหลิงก็เป็นคนแรกที่เชื่อมั่นในตัวเธอ

แต่ลู่จิ่งโม่ กลับสงสารผู้กระทําผิดคนนั้น

จากนั้นเย่เจียเหอก็ได้เล่าเหตุการณ์วันที่เธอได้ช่วยคนในวันนั้นให้เซี่ยหลิงฟังด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง

ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า "เพียงแต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า คุณยายคนนั้นจะเป็นคุณยายของวังโหรว ท่านน่าจะเป็นเพราะปอดและหัวใจล้มเหลว จนทำให้ร่างกายใกล้จะถึงวาระสุดท้ายแล้วน่ะ เมื่อถึงโรงพยาบาลจึงไม่สามารถฟื้นกลับมาได้"

"โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือนี่"

เซี่ยหลิงโกรธจัดจนควันออกหู และแทบจะเข้าไปปะทะกับวังโหรวเสียให้ได้

เธอยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "ดังนั้นก็หมายความว่า เธอช่วยชีวิตยายของวังโหรว แต่หล่อนกลับรวมหัวกับญาติของตัวเองมาสาดโคลนไปที่ตัวของเธองั้นเหรอ? ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? แล้วก็ยังรอยบาดแผลบนหน้าเธออีก พวกเขาตีฉันไหม? ไอ้พวกอัปรีย์!"

"หลิงหลิง ฉันเหนื่อยจังเลย"

ทันใดนั้นเย่เจียเหอก็พังทลายลงและร้องไห้ออกมา

เซี่ยหลิงตบหลังเธอและปลอบใจว่า "เอาล่ะๆ เพื่อนก็มาแล้วนี่ไง! ฉันจะคิดหาวิธี อย่างแย่ที่สุด ฉันก็ไปเอาเงินที่พ่อ แล้วจ้างพวกป่วนคอมเมนต์ ให้เขียนความคิดเห็นเบนมาที่เธอ! ครั้งหน้าถ้าเธอจะช่วยใคร ต้องดูให้ดีๆหน่อยนะ ทุกอย่างที่มีความสัมพันธ์กับนังเมียน้อยนั่น พวกเราไม่ได้เข้าไปเหยียบ ก็นำว่าเป็นบุญของพวกนั้นแล้ว!"

เย่เจียเหอยิ้มอย่างขมขื่น แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่เธอก็รู้แก่ใจดี

ในฐานะหมอ การรักษาโรคและช่วยชีวิตคนเป็นสัญชาตญาณอยู่แล้ว

ต่อให้เธอจะสามารถย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง เธอก็ยังเลือกที่จะทำอยู่เหมือนเดิม

เพราะเธอไม่สามารถบดบังมโนธรรมสำนึกของตัวเอง และมองเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตาของตัวเองได้

เซี่ยหลิงกําชับด้วยความเป็นห่วงว่า "สองวันนี้ เธออย่าออกไปข้างนอกอย่างเด็ดขาด พูดตรงๆนะ ตอนนี้นิตยสารใหญ่ๆ ต่างให้ความสนใจกับฮอตเสิร์ชนี้มาก เต็มไปด้วยผู้คนที่อยากจะรุมทึ้งเธอ ส่วนหน้ามหาวิทยาลัยไห่เฉิงถูกนักข่าวปิดกั้นอย่างบ้าคลั่ง ผู้นําของเราก็ให้ฉันไปพบ ฉันไม่สนใจเขา สรุปแล้ว ตอนนี้เธอไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ไม่อย่างนั้นแล้วเธอก็อาจจะจมน้ำลายของคนเหล่านั้นเป็นแน่!"

เย่เจียเหอสามารถจินตนาการถึงภาพที่เซี่ยหลิงอธิบายได้

เพราะก่อนหน้านี้ เธอเคยเห็นทางทีวีที่นักข่าวจะมาเฝ้ารอดาราและคนใหญ่คนโตแบบนั้น

คิดไม่ถึงเลยว่า วันนี้เรื่องราวเหล่านี้จะมาถึงตัวเธอได้

เพียงแต่ว่า ตอนนี้เธอไม่ต่างจากหนูสกปรกที่กำลังจะถูกคนทุบตีเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นเซี่ยหลิงก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วพูดว่า "นั่นก็หมายความว่า พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่สำนึกบุญคุณแล้ว แต่กลับมาใส่ร้ายป้ายสีเธออีก! มีแต่จะทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงจะเป็นบ้าตาย!"

"เธอหมายความว่าจะฟ้องร้องพวกเขาเหรอ?"

เย่เจียเหอพูดเยาะเย้ยตัวเองว่า "แต่ก่อนหน้านี้พวกนั้นยังบอกว่า จะฟ้องร้องฉัน..."

เซี่ยหลิงพูดอย่างโกรธเคืองว่า "งั้นก็ฟ้องสิ! พวกนั้นฟ้องเธอ ก็ไม่มีผลต่อการที่เธอจะฟ้องพวกนั้นนี่ ฉันรู้สึกทนายความคนหนึ่ง เขามีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิง ฉันจะลองไปหาเขาดูนะ หากเขาสามารถรับเคสของเธอได้ เราก็จะมีชัยชนะไปกว่าครึ่งแล้วนะ"

เย่เจียเหอถามด้วยความประหลาดใจว่า "เทพขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอไปรู้สึกคนที่เก่งขนาดนี้จากที่ไหน?"

"ก็เพราะงานของฉันน่ะสิ จำเป็นต้องไปสัมภาษณ์ทุกที่แบบนั้น ก็รู้จักคนมากหน้าหลายตาเป็นธรรมดา" เซี่ยหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "แต่ไม่รู้ว่าเขายอมช่วยเหลือเราหรือเปล่านะ ได้ยินว่าเขาเสนอราคาสูงมาก"

เย่เจียเหอเหมือนเห็นความหวัง จึงพูดขึ้นมาทันทีว่า "นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก เงินไม่ใช่ปัญหา หากสามารถคืนความบริสุทธิ์ให้กับฉันได้"

"งั้นฉันจะไปตอนนี้ เธอรอฟังข่าวจากฉันนะ ห้ามออกไปไหน รู้หรือเปล่า?"

หลังจากเซี่ยหลิงพูดกำชับเสร็จแล้ว เธอก็รีบออกไปทันที

และภายในวิลล่าก็กลับมาเงียบและสิ้นหวังอีกครั้ง

ไม่ว่าจะยังไงเย่เจียเหอก็ไม่สามารถมีสมาธิกับหนังสือวิชาชีพของตัวเองได้อีกต่อไป

……

มหาวิทยาลัยไห่เฉิง

เหล่าบรรดานักข่าวได้เฝ้ามาตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้เห็นวี่แววของเย่เจียเหอแต่อย่างใด และแม้แต่ที่ปรึกษาของเย่เจียเหอก็ไม่กล้ามาทํางานเสียด้วยซ้ำ

ขณะที่ทุกคนกําลังจะจากไปอย่างผิดหวัง หลูเชี่ยนก็เดินมาหานักข่าวคนหนึ่ง

"คุณพูดจริงเหรอ?"

พอนักข่าวคนนั้นได้ยินว่า เดี๋ยวเย่เจียเหอก็จะมา ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

หลูเชี่ยนพยักหน้า แล้วพูดว่า "มันแน่นอนอยู่แล้ว อีกเดี๋ยวเธอจะมาที่ห้องทดลอง น่าจะมาจากประตูลับที่อยู่ใกล้ห้องทดลองน่ะ ปกติประตูลับนี้ก็ไม่ค่อยมีใครรู้ ฉันจะพาพวกคุณไป รับรองว่าได้เจอเธออยู่แล้ว"

จากนั้น เธอก็เริ่มโทรหาเย่เจียเหอ

"ฮัลโหล เย่เจียเหอ หนูทดลองในห้องทดลองเธอจะยังสนใจอยู่หรือเปล่า?"

มีเสียงไม่พอใจอย่างมากของหลูเชี่ยนดังมาจากทางนั้น "ถ้าเธอยังไม่ให้อาหารพวกมันอีก พวกมันจะตายกันหมดแล้วนะ!"

เย่เจียเหอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหนูทดลองในห้องทดลองไม่ได้ให้อาหารมาสองวันแล้ว

หนูขาวพวกนี้เธอทดลองมานานแล้ว ถ้าตายไป เธอคงต้องเริ่มใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน

แต่เมื่อกี้เซี่ยหลิงเพิ่งจะเตือนเธอว่าห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด

นอกจากนี้ ห้องทดลองนั่นยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยไห่เฉิงอีกด้วย

ดังนั้นเย่เจียเหอจึงลดเสียงลง และขอร้องว่า "งั้นรบกวนเธอช่วยให้อาหารเธอสักหน่อยนะ ได้ไหม? อาหารสัตว์อยู่ในตู้ของโต๊ะทดลองของฉัน"

หลูเชี่ยนคร่ำครวญ และปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า "เธอเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ให้ฉันให้อาหารมัน? ฉันมาเตือนเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว! ยังไงเสียก็เป็นหนูที่เธอเลี้ยงเอาไว้ ตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน หากวิทยานิพนธ์ทำไม่ทัน มันก็เป็นเรื่องของเธอนะ"

"ฉันรู้แล้ว ขอบคุณที่เตือน"

หนูทดลองในห้องทดลองทําให้เธอใช้ความพยายามอย่างมาก ถ้าตายไป เวลาและความพยายามมากกว่าสองเดือนนี้ก็จะสูญเปล่าอย่างแน่นอน

เธอจึงต้องไปหาหมวกในห้องนอน สวมหน้ากากแมสและแว่นกันแดด ปกปิดตัวเองอย่างมิดชิดและเตรียมที่จะไปห้องทดลอง

เธอเข้าไปหารถเก๋งสีดําธรรมดาจากโรงรถ

ระหว่างช่วงทางโค้ง เธอก็บังเอิญเจอรถของลู่จิ่งโม่เข้าพอดี

แต่เย่เจียเหอออกไปอย่างเร่งรีบ และไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด

ลู่จิ่งโม่สั่งคนขับในรถว่า "ตามรถคันข้างหน้าให้ทัน"

เขาไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นจะขับรถไปไหนกันแน่?

ตอนนี้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต แต่เธอยังกล้าออกไปวิ่งเล่นได้อย่างไร

แต่ยิ่งตามไป ลู่จิ่งโม่ก็ยิ่งพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เย่เจียเหอ นี่กำลังจะไปมหาวิทยาลัยไห่เฉิงอย่างนั้นเหรอ?

ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง?

รีบไปเป็นเป้าให้นักข่าวเหล่านั้นงั้นเหรอ?

……

ในไม่ช้า เย่เจียเหอก็มาถึงประตูมหาวิทยาลัยไห่เฉิง

ในขณะที่เธอกำลังจะจอดรถ เธอก็รู้สึกถึงแรงกระแทกที่ไม่น้อยเลยจากท้ายรถของเธอ

เย่เจียเหอรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

แย่จริงๆ

เวลาคนโชคร้าย จอดรถก็ยังมีคนมาชนท้ายได้?

เธอเพิ่งเปิดประตูรถ แต่ถูกผู้ชายผลักเธอกลับไปและปิดประตู

ลู่จิ่งโม่นั่งที่เบาะข้างคนขับด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เธอลงจากรถ

"คุณเองเหรอ?"

เย่เจียเหอมองเขาด้วยความประหลาดใจ "ลู่จิ่งโม่ คุณมาชนท้ายรถของฉันทำไม?"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status