ไช่หยางเชื่อว่าจางจางจะดูแลน้องสาวเข้าเป็นอย่างดีเจียงหวานหว่านกล่าว “จางจาง เจ้ามาทดลองยา”“ท่านหมอเจียง เหตุใดไม่ใช้ข้าทดลองยา”ไช่หยางถามอย่างไม่ยอมแพ้เจียงหวานหว่านมองประเมินเขาหัวจรดเท้า“เจ้าผอมเกินไป แล้วก็มีห่วง”จางจางตบไหล่ไช่หยาง จากนั้นก็เดินตามเจียงหวานหว่านเข้าไปในห้องตรงหน้าเจียงหวานหว่านมียาน้ำสีดำทมิฬตั้งอยู่“จางจาง ข้าจะถามเจ้าเป็นรอบสุดท้าย ยังต้องการทดลองยาอยู่หรือไม่ เจ้ายังเลือกได้”จางจางตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าคิดดีแล้ว หากรอด นั่นเพราะชะตาของข้ายังไม่ขาด หากตาย นั่นก็เป็นชะตาของข้าเช่นกัน ข้าไม่เสียใจ ไม่โกรธแค้น”เจียงหวานหว่านผลักชามยามาอยู่ตรงหน้าเขาจางจางหยิบชามและดื่มรวดเดียวหมดเจียงหวานหว่านมองด้วยความนับถือ จางจางมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว หากมีชีวิตรอด วันหน้าต้องกลายเป็นคนสำคัญหลังจากจางจางดื่มยาจนหมดก็นั่งอยู่กับพื้น รอให้ยาออกฤทธิ์หมอข่งและกัวอี้เทียนรอผลอยู่ข้างนอกด้วยความกังวลหนึ่งชั่วยามผ่านไป สองชั่วยามผ่านไปตั้งแต่ฟ้ามืดรอจนฟ้าสาง จางจางยังไม่มีอาการใดในทางไม่ดีเจียงหวานหว่านคอยสังเกตอาการของจางจางสารพิษในร่างกายเขาลดลงไ
เจียงหวานหว่านมองเหล่าฮั่นอย่างละเอียดอีกรอบ จากนั้นก็นำทุกเรื่องราวมาปะติดปะต่อกันเทียนซูเห็นเจียงหวานหว่านกำลังมองเหล่าฮั่นที่กวาดพื้นอยู่อย่างตั้งใจ เขารู้สึกประหลาดใจจึงมองตามสายตาของเจียงหวานหว่านไปเขามองไม่ออกว่าเหล่าฮั่นมีสิ่งใดผิดปกติ อย่างน้อยเหล่าฮั่นที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นคนไร้วรยุทธเจียงหวานหว่านขวางทางเหล่าฮั่นเอาไว้เหล่าฮั่นหลบไปด้านข้าง เจียงหวานหว่านตามไปขวางด้านข้างเหล่าฮั่นดูออกว่าเจียงหวานหว่านคิดจะขวางทางเขา“ท่านหมอเจียง ขอทางด้วยขอรับ”เจียงหวานหว่านหรี่ตาลงอย่างเย็นชา จากนั้นก็งอเข่าลงเล็กน้อย“ลูกศิษย์สำนักปรมาจารย์หมอเซียนเจียงหวานหว่าน คารวะอาจารย์อาฉู่”เหล่าฮั่นเมื่อได้ฟังเจียงหวานหว่าน แผ่นหลังโค้งงอกลับยืดเหยียดตรงเทียนซูรับรู้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมา เขาไปยืนป้องกันอยู่หลังเจียงหวานหว่านโดยไม่รู้ตัวฉู่ซานยกมือขึ้นเป็นสัญญาณออกคำสั่ง จิตสังหารหายไปในพริบตาเทียนซูแปลกใจ ทว่าเขายังคงป้องกันอยู่ด้านหลังเจียงหวานหว่านไม่ห่าง“คนไปแล้ว ไม่ต้องกังวล”เมื่อได้ฟังคำพูดของฉู่ซาน เทียนซูเข้าใจแล้ว มือสังหารความจริงแล้วกำลังจะลงมือตอนที่เจียงห
“อาจารย์บอกว่า หากมีโอกาสได้พบกับอาจารย์อา สั่งให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้ท่าน ให้บอกกับท่านว่า หากชาติหน้ามีจริง นางจะเดินทางไปพร้อมกับอาจารย์จนสุดขอบฟ้า”เดิมทีใบหน้าไร้สุขไร้ทุกข์ของฉู่ซาน ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา สุดท้ายเขาก็ทำให้อวี้โหลวผิดหวังเขาเก็บปิ่นปักผมด้วยความระมัดระวัง การตายของอวี้โหลวไม่ธรรมดา เขาต้องสืบสาเหตุการตายให้กระจ่าง“อาจารย์อา อาจารย์ถูกพิษดอกไม้แห่งอเวจี”อะไรนะ! คำถามดังหึ่งในสมองของฉู่ซานดอกไม้แห่งอเวจีเป็นยาพิษที่เขาคิดค้นขึ้นมาเหตุใดอวี้โหลวจึงถูกพิษชนิดนี้จนตายดอกไม้แห่งอเวจีเป็นพิษชนิดเดียวที่เขาคิดค้นยาถอนพิษออกมาไม่ได้เขาทำลายดอกไม้แห่งอเวจีไปนานแล้ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้“ในช่วงเวลาสุดท้ายของอาจารย์ อาจารย์บอกว่าแม้พิษชนิดนี้อาจารย์อาเป็นผู้คิดค้น แต่อาจารย์อาไม่มีทางเป็นผู้ลงมือ อาจารย์บอกว่า อาจารย์อายอมตายดีกว่ายอมทำร้ายนาง”ฉู่ซานเจ็บเหมือนถูกมีดกรีดหัวใจเขากัดฟันแน่น เขาต้องสืบให้ชัดเจน ใครขโมยยาพิษไปและทำร้ายอวี้โหลวจนตาย“อวี้โหลวฝังอยู่ที่ใด?”เจียงหวานหว่านตอบ “บนเขาเชียนอัน”ฉู่ซานหยิบหยกห้อยเอวชิ้นหนึ่งออกมาจากหน้าอก จากนั้นก็ส
ในเมืองหลวง ฝ่าบาททรงทอดพระเนตรจดหมายลับแล้วก็ทรงกริ้วเดิมทีที่สั่งให้หรงมู่หานติดตามโจวไท่ฟู่ไปเมืองชิงเหอก็เพื่อให้เขาเรียนรู้มีประสบการณ์นึกไม่ถึง หรงมู่หานเจ้าลูกไม่รักดีกลับไปเที่ยวไปก่อเรื่องวุ่นวายที่เมืองชิงเหออยู่ไปก็ทำเรื่องให้เสียเรื่อง ฝ่าบาทออกพระราชโองการให้องค์ชายรองหรงมู่หายกลับเมืองหลวงโดยทันทีหากปล่อยให้หรงมู่หานทำตามใจต่อไป ก็จะทำลายความสามัคคีของเหล่าขุนนาง……สองวันมานี้หรงมู่หานรู้สึกตื่นเต้นมากเขาพบว่าคนในจวนเจ้าเมืองกับหรงซีมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกัน ขอแค่เขาสืบต่อไปจะต้องหาหลักฐานการกบฏของหรงซีพบแน่นอนทว่าความตื่นเต้นในใจเขากลับถูกทำลายลงด้วยพระราชโองการเรียกตัวกลับของเสด็จพ่อแล้วเขามองพระราชโองการในมือ บนนั้นเขียนเพียงอักษรสองคำ กลับด่วนหรงมู่หานไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จพ่อจึงผ่อนปรนให้หรงซีเช่นนี้หลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้ว กลับไม่เชื่อว่าหรงซีมีแผนกบฏ น่าโมโหยิ่งนักหรงมู่หานทำได้เพียงไปจากเมืองชิงเหอด้วยความจำใจวันที่เขาไปจากเมืองชิงเหอ ผู้ป่วยในหอบรรพชนก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเจ้าเมืองเว๋ยซื่อเจี๋ยยืนอยู่หน้าประตูหอบรรพชน รับรู้ถึงความซาบซึ้งขอ
ชาวบ้านทุกคนฮึกเหิมพากันร้องตะโกน“ปกป้องภูเขาแม่บ้านของเรา ปกป้องแคว้นเรา!”เว๋ยซื่อเจี๋ยนำผู้คนคุกเข่าลง ก้มหมอบกราบไปทางเมืองหลวง“ฝ่าบาทพระชนมายุยืนนาน หมื่นปี หมื่น หมื่นปี”……รอจนกระทั่งชาวบ้านทุกคนไปหมดแล้ว เว๋ยซื่อเจี๋ยและเจียงหวานหว่านเดินทางกลับจวนเจ้าเมือง ท่านอ๋องรอพวกเขาอยู่หรงมู่หานนั่งอยู่บนรถม้า เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหรงซีเจ้าคนสมควรตาย ถูกเขาแย่งผลงานอีกแล้ว!แล้วยังเจียงหวานหว่าน เขาต้องครอบครองนางให้ได้“ไป”หรงมู่หานตะโกนด้วยโทสะ รถม้าวิ่งออกไปจากประตูเมืองชิงเหอตรงประตูเมืองชิงเหอมีรถม้าอีกคันหนึ่งคนบนรถม้าเขียนบันทึกเรื่องราวเอาไว้ทั้งหมด แผนการล้มเหลว เขาต้องกลับไปรายงานเจ้านายจวนเจ้าเมืองเจียงหวานหว่านลงรถม้าด้วยความกระตือรือร้น นางไม่ได้เจอท่านอ๋องตั้งหลายวันแล้ว“แม่นางเจียง ท่านอ๋องรอแม่นางเจียงอยู่”เจียงหวานหว่านปฏิเสธ ตอนนี้นางอยากอาบและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดก่อนถ้านางไปพบหรงซีสภาพนี้ นางรู้สึกไม่ดีเมื่อรับรู้ความต้องการของเจียงหวานหว่าน เว๋ยซื่อเจี๋ยสั่งคนไปจัดการทันทีสาวใช้พาเจียงหวานหว่านมาถึงยังห้องรับแขกน้ำที่ใช้อาบเตรียม
หรงซีหัวเราะกับคำพูดของเจียงหวานหว่าน เขาเป็นถึงท่านอ๋อง เหตุใดจึงต้องให้นางปกป้องด้วย?น่าขายหน้านัก หรงซีหัวเราะ “เปลี่ยนเป็นข้าปกป้องเจ้าดีกว่า”“ท่านอ๋อง ท่านอย่าดูถูกข้า ข้าเป็นคนช่วยชีวิตท่าน!”เจียงหวานหว่านกระพริบตาปริบๆ ให้หรงซีนอกจากท่านแม่แล้ว เขาคือคนที่สองที่เจียงหวานหว่านบอกว่าอยากปกป้องเวลานี้เองที่หรงซีตัดสินใจแล้ว เขาจะปกป้องนางตลอดชีวิต แม้วันข้างหน้านางจะแต่งงานแล้ว เขาก็ยังคงปกป้องนางทว่าเหตุใดเมื่อนึกถึงว่าวันข้างหน้านางต้องแต่งงานกับชายอื่น หัวใจเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา“ลองชิมดู”หรงซีหยิบตะเกือบคีบอาหารให้เจียงหวานหว่าน“ได้”เจียงหวานหว่านหิวแล้ว แม้หรงซีจะส่งคนไปส่งอาหารที่หอบรรพชนชิงเหอทุกวัน แต่นางสนใจแต่จะคิดค้นยาถอนพิษ ไม่ได้กินข้าวดีๆ สักมื้อเจียงหวานหว่านกินอาหารอย่างพิถีพิถัน หรงซีมองด้วยความหลงใหลทั้งสองคนพูดคุย หัวเราะและกินอาหารด้วยกันหนึ่งมื้อ“ท่านหญิงหลิงโหรวจัดหาที่พักให้เจ้าแล้ว รอให้เจ้าเตรียมตัวให้เรียบร้อยก็ไปหานางได้”เจียงหวานหว่านตกใจ เหตุใดจึงได้เชิญท่านหญิงหลิงโหรวมาแล้ว สุขภาพของท่านหญิงไม่แข็งแรง เหตุใดต้องลำบากเดินท
เดิมทีหญิงสาวทั้งสองไม่ได้สนิทสนมกันมาก่อน และนางทั้งสองก็ได้สนิทกันตั้งแต่นี้มา……ณ เมืองหลวง จวนสกุลเจียงซิ่วกู่ถือโอสถเดินออกมาจากห้องครัว และได้เผชิญหน้ากับเฉาหยูเฟิ่ง“เฉาอี๋เหนียง มาเยี่ยฮูหยินหรือเจ้าคะ?”ซิ่วกู่เอ่ยปากกล่าวทักทาย แต่ไม่ได้ทำความเคารพแต่อย่างใดนางไม่ใช่สาวใช้ของสกุลเจียงสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องคำนับอี๋เหนียงความโกรธเกรี้ยวปรากฏขึ้นนัยน์ตาของเฉาหยูเฟิ่งสาวใช้จวนท่านอ๋องช่าวเย่อหยิ่งยิ่งนัก แต่นางมาสร้างความน่ารำคาญให้สกุลหลิ่วสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังเอาของดีที่ได้เตรียมไว้ออกมา“ข้าจะมาขอโทษฮูหยิน ได้ยินว่าฮูหยินได้รับบาดเจ็บก็เพราะเรื่องของหนิงเกอเออร์ ข้าจึงตั้งใจจะมาขอโทษฮูหยิน”ซิ่วกู่ยิ้มพลางกล่าว “เฉาอี๋เหนียงกล่าววาจาน่าขำยิ่งนัก ฮูหยินกับคุณชายห้าเป็นแม่ลูกกัน ต่อให้เกิดเรื่องอันใดก็เป็นเรื่องของพวกเขาสองแม่ คนนอกไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลให้มากหรอกเจ้าค่ะ”ดูเหมือนว่าเฉาหยูเฟิ่งจะไม่เข้าใจความหมายที่ซิ่วกู่จะสื่อ“แม่นางซิ่วกู่พูดถูก แต่ลูกๆ ในจวนสกุลเจียงล้วนแต่เป็นข้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ แม้ข้าจะไม่ใช่เป็นคนคลอดเขาออกมาเอง
หงเหลียนรู้สึกว่าที่ซิ่วกู่กล่าวมานั้นถูกต้องแล้ว นางเองก็คิดเช่นนี้“ท่านพี่ซิ่วกู่ มีโอสถใดที่ทำให้เสียโฉมได้บ้างหรือไม่ ข้าได้ยินมาว่าเจียงอวิ้นรักในรูปโฉมของตัวเองมาก”ซิ่วกู่เดินถือถ้วยโอสถที่หลิ่วซู่ดื่มเสร็จเข้าไปในห้องครัวพลางกล่าว “ในลิ้นชักชั้นที่สองทางซ้ายขวดแรกในห้องข้า” ทันทีที่ซิ่วกู่กล่าวจบ หลงเหลียนก็ไม่รีรอ รีบวิางเข้าไปในห้องหงเหลียนหยิบเอาโอสถนั้นมาทันที……เจียงอวิ้นมองยาที่สาวใช้ชิวจู๋ถือมา นางตะคอกด้วยความโกรธว่า “ข้าไม่อยากกิน เอาออกไป รีบเอาออกไป!”กล่าวจบ เจียงอวิ้นก็เกิดอาการคลื่นไส้อยากอาเจียนจะให้ดื่มโอสถอีกแล้ว เจียงอวิ้นหมดอาลัยตายอยากแล้ว ตอนนี้เพียงแค่อ้าปากก็ล้วนแต่เป็นกลิ่นปัสสาวะม้าแล้วนางดื่มโอสถมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว แม้ว่าจะลุกนั่งที่เตียงได้ แต่ก็ยังลุกเดินออกจากเตียงไม่ได้อยู่ดี เจียงหวานหว่านคนสารเลว ต้องจงใจกลั่นแกล้งเป็นแน่ นางไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าปัสสาวะม้าจะสามารถรักษาอาการป่วยได้จะว่าไปมันก็แปลกยิ่งนัก หลังจากที่เอาปัสสาวะม้าเข้าออกจากในเทียบยา อาการป่วยของนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้นท่านแม่ของนางไร้หนทางจึงสั่งให้สาวใช้เพิ่มปัสส