หลิ่วซู่รู้ว่าเรื่องที่นางบาดเจ็บนั้นไม่มีทางปกปิดเจียงหวานหว่านได้ นางจึงเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นตามความจริงหลังจากเจียงหวานหว่านตรวจบาดแผลของหลิ่วซื่อแล้ว นางโกรธจนอยากจะตีเจียงจิ่นหนิงให้ตาย“หว่านเจี่ยเออร์ จะโทษหนิงเกอเออร์ทั้งหมดไม่ได้ หากเขาเติบโตโดยมีข้าอยู่ข้างกาย เขาคงไม่ทำเรื่องวู่วามเช่นนี้”หลิ่วซู่กล่าวด้วยความรู้สึกผิดเจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความโมโห “เป็นเพราะท่านพ่อไม่อบรมสั่งสอน ท่านแม่ไม่ต้องรู้สึกผิด”แม้จะเป็นเช่นที่กล่าว ทว่าในใจหลิวซื่อยังรู้สึกผิดกับเจียงจิ่นหนิงอยู่ดีหลิ่วซู่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาเจียงหวานหว่านเห็นท่าทางหลิ่วซู่เช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ “ลูกชายเติบโตไม่ได้เกี่ยวข้องกับมารดา ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีพี่ห้าก็นิสัยเกเรก้าวร้าว หากไม่ใช่เพราะเขา ท่านแม่จะได้รับบาดเจ็บได้เช่นไร!”“แม่บาดเจ็บ ไม่เกี่ยวกับพี่ชายเจ้า เขาเองก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้”หลิ่วซู่แก้ตัวแทนเจียงจิ่นหนิงเจียงหวานหว่านแค่นเสียงหัวเราะ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดหลิ่วซู่นึกถึงหงเหลียนขึ้นมาจึงกล่าวกับเจียงหวานหว่าน “ครั้งนี้หากไม่ได้หงเหลียนช่วยชีวิต แม่คงไ
ตอนเช้าสือหลิ่วไม่ได้อยู่ว่าง นางกำลังสืบข่าวคราวเจียงป๋อเหนียนเจียงหวานหว่านรู้ว่าเซียวกุ้ยเฟยที่อยู่ในวังเป็นคนทำงานรวดเร็วและเฉียบขาด เรื่องครั้งนี้ไม่มีทางปล่อยเจียงป๋อหนิงไปง่ายๆเจียงป๋อเหนียนเป็นคนของหรงมู่หาน เดิมทีเซียวกุ้ยเฟยและหรงมู่หานไม่ลงรอยกัน ย่อมต้องทำให้เจียงป๋อเหนียนลำบากสักหน่อยคาดว่าฮูหยินใหญ่เจียงรู้เรื่องแล้ว่าคนของเซียวกุ้ยเฟยกับตัวเจียงจิ่นหนิงไปที่จิงจ้าวอิ่นเจียงป๋อเหนียนเข้าวังเป็นขุนนางแล้ว เกรงว่าสกุลเจียงคงพบบ่อเกิดแห่งหายนะแล้ว ดังนั้นจึงได้รีบร้อนให้นางหาวิธีช่วยสกุลเจียงหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เจียงหวานหว่านเดินไปยังเรือนของฮูหยินใหญ่เจียงสาวใช้ของเรือนฮูหยินใหญ่เจียงเห็นเจียงหวานหว่านเดินมาไกลๆ นางก็รีบวิ่งเข้าไปรายงานเจียงหวานหว่านเพิ่งจะเดินข้ามประตูเรือนมา แม่นมหลี่ก็เดินมาถึงหน้าประตูเรือนแล้ว“คุณหนูหก ฮูหยินใหญ่คิดถึงท่านอยู่ตลอด เดิมทีเมื่อคืนฮูหยินใหญ่อยากพบคุณหนูหก ทว่าฮูหยินใหญ่รู้ว่าคุณหนูหกเป็นห่วงฮูหยิน เช่นนั้น ฮูหยินใหญ่จึงให้ไปตามคุณหนูมาตั้งแต่เช้าตรู่!”เจียงหวานหว่านยิ้มเล็กน้อย นางไม่ได้รับคำของแม่นมหลี่แม่นม
เจียงหวานหว่านแค่นเสียงหัวเราะ นางกล่าวอย่างมีเหตุผลและคุณธรรม“ท่านย่า หากไม่ควบคุมพฤติกรรมของเจียงจิ่นหนิง แล้วยังทำให้เขาพ้นความผิด เช่นนั้นหากเขาทำผิดอีก ท่านย่าจะต้องช่วยเขากลับมาอีกสักกี่ครั้ง?”ฮูหยินใหญ่เจียงพูดไม่ออก เจียงหวานหว่านกล่าวถูกต้องการกระทำเกเรก้าวร้าวของเจียงจิ่นหนิงได้นำพาภัยพิบัติมาสู่สกุลเจียงแล้วอีกทั้งตำแหน่งขุนนางและชื่อเสียงของป๋อเหนียนต้องเสียหายแล้ว“คุณหนู คุณหนู!”เวลานี้เอง เสียงของสือหลิ่วลอยมาจากด้านนอกประตูเรือนแม่นมหลี่สั่งให้สาวใช้ปล่อยสือหลิ่วเข้ามาสือหลิ่วน้ำตานอง สะอึกสะอื้นวิ่งเข้ามา “คุณหนู มีสาวใช้คนหนึ่งตะโกนอยู่ด้านนอกเรือนเหมยว่าคุณชายห้าทำผิดถูกจับตัวไปยังจิงจ้าวอิ่นแล้ว ฮูหยินได้ยินก็เป็นลมไปแล้ว”เจียงหวานหว่านผุดลุกขึ้นยืนทันทีและวิ่งออกไปฮูหยินใหญ่เจียงเห็นท่าไม่ดีจึงให้แม่นมหลี่พยุงนางตามไปดูเจียงหวานหว่านวิ่งกลับมาที่เรือนเหมยภายในเรือนเหมย หงเหลียนมัดและปิดปากสาวใช้สองคนที่ตะโกนโวยไว้อยู่กับพื้นเจียงหวานหว่านปราดมองสาวใช้ จากนั้นก็ตรงเข้าไปในห้องหลิ่วซู่“ท่านแม่!”เจียงหวานหว่านเห็นหลิ่วซู่หมดสติไปก็กระวนกระ
เจียงหวานหว่านเรียกชื่อของสาวใช้ออกมาสาวใช้ชะงักไป คุณหนูหกรู้ชื่อนางได้เช่นไร“ชิวเฟิน เจ้าคิดว่าป้าสกุลหวังของเจ้าจะปกป้องเจ้าได้หรือ?”เจียงหวานหว่านสายตาอาฆาตเข้มข้นแม่นมหวังเป็นป้าของชิวเฟินแม่นมหวังจัดแจงให้นางอยู่ห้องครัว เพราะไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางชิวเฟินก้มหน้าคิดว่าควรบอกหรือไม่หากบอกความจริง ป้านางก็ไม่มีทางปล่อยนาง หากไม่บอกความจริง คุณหนูหกก็ไม่มีทางปล่อยนางเช่นกันนางไม่อยากตาย แล้วก็ไม่อยากถูกส่งตัวไปตรอกลิ่วเหอหูถงสถานการณ์บีบคั้น จากนั้นนางก็ได้ยินเจียงหวานหว่านกล่าวอีกครั้ง“ความอดทนของข้ามีจำกัด เจ้ารีบตัดสินใจหน่อยจะดีกว่า”ชิวเฟินตัดสินใจสารภาพ “ป้าของบ่าวแม่นมหวังเป็นคนสั่งให้ข้าทำ”ฮูหยินใหญ่เจียงขมวดคิ้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสกุลเฉาจริงด้วยเจ้าคนสกุลเฉาสมควรตาย เมื่อก่อนคิดว่านางฉลาดมาก เหตุใดวันนี้จึงได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้เจียงหวานหว่านได้คำตอบตามที่นางต้องการแล้ว นางหันไปมองฮูหยินใหญ่เจียงฮูหยินใหญ่เจียงแสดงจุดยืน “หวานเจี่ยเออร์วางใจ ย่าจะสืบความจริงให้กระจ่าง ข้าจะให้คำอธิบายกับสกุลหลิ่ว”“ท่านย่า หวังว่าท่านย่าจะคิ
เวลาต่อมา แม่นมหลี่มาถึงเรือนเหมยเพื่อแจ้งให้เจียงหวานหว่านทราบว่าแม่ลูกสกุลเฉาจะออกจากจวนพรุ่งนี้เช้าเจียงหวานหว่านพยักหน้า สีหน้านางไร้ความรู้สึกแม่นมหลี่ไม่กล้ากล่าวมากความ จึงรีบจากไปเจียงหวานหว่านคิดคำนวนในใจนางอยากให้เจียงจิ่นหนิงรับรู้ความจริง นางไม่มีเวลามาคอยช่วยเหลือเขานางตามหงเหลียนมาเพื่อพานางออกไปข้างนอกทั้งสองคนมายังจิงจ้าวอิ่นเพื่อขอพบจี้ฉวนจงเดิมทีจี้ฉวนจงไม่อยากพบเจียงหวานหว่าน ทว่าเจียงหวานหว่านส่งจดหมายให้เขา เขาไม่พบไม่ได้“ใต้เท้าหลิว”เมื่อเจียงหวานหว่านเห็นจี้ฉวนจงก็ย่อตัวลงทำความเคารพจี้ฉวนจงกล่าวด้วยความกระตือรือร้น “แม่นางเจียง สิ่งที่ท่านเขียนในจดหมายเป็นความจริงหรือ เจ้ารู้ที่อยู่ลูกเมียข้า?”เจียงหวานหว่านถอนหายใจ “ฮูหยินลิ่งลาไปสู่สุคตินานแล้ว ลิ่งจื่อยังมีชีวิตอยู่”“เจ้ารู้เรื่องลูกเมียข้าได้เช่นไร?”จี้ฉวนจงสงสัยสิบกว่าปีก่อน ตอนที่เขาทำคดีขโมย กลับถูกคนแก้แค้น โจรได้จับฮูหยินที่กำลังตั้งท้องอยู่ของเขาไปต่อมาจับโจรได้แล้ว ทว่าฮูหยินหายตัวไปไร้ร่องรอยโจรยอมตายแต่ไม่ยอมบอกที่อยู่ฮูหยินของเขาเขาตามหาสิบกว่าปีก็ยังไม่พบเบาะแส เข
ในเมื่อนางรู้ตัวตนของมู่เซิงแล้ว นางย่อมช่วยชีวิตเขาเอาไว้จี้ฉวนจงสงสัย “ข้านึกออกแล้ว มู่เซิงมีพี่สาวอีกคนไม่ใช่หรือ? จะเป็นลูกของข้าได้เช่นไร”เจียงหวานหว่านอธิบาย “มู่เซิงถูกพ่อแม่ของมู่เซียงเก็บมาเลี้ยง พวกเขาไม่รู้หนังสือ จึงตั้งชื่อเด็กว่ามู่เซิง”จี้ฉวนจงลุกขึ้นยืนทันทีและสั่งให้คนไปหามู่เซิง“แม่นางเจียง ขอบคุณมากที่เจ้าช่วยข้าเช่นนี้ ต่อไปหากไม่ใช่เรื่องที่กระทบต่อตำแหน่งขุนนางหรือเป็นเรื่องโง่เขา ข้าจะช่วยเหลือเจ้า”เจียงหวานหว่านเห็นว่าจี้ฉวนจนเข้าใจเป้าหมายที่นางมาครั้งนี้แล้วจึงยิ้ม“ใต้เท้า คืนนี้ขอพาเจียงจิ่นหนิงออกจากคุกสักสองชั่วยามได้หรือไม่ หลังจากสองชั่วยาม ข้าจะพาเขากลับมาเข้าคุก จะไม่ให้ผู้ใดรับรู้ว่าเจียงจิ่นหนิงเคยออกไปจากคุก”จี้ฉวนจงขมวดคิ้ว การแอบปล่อยนักโทษมีความผิดต้องรับผิดชอบ ยิ่งเป็นนักโทษที่เซียวกุ้ยเฟยพาเข้าคุกด้วยเจียงหวานหว่านเห็นจี้ฉวนจงกำลังลังเล เลยกล่าวว่า “คนของท่านอ๋องจะมารับคนคืนนี้”นางแอบส่งสัญญาณให้จี้ฉวนจงรู้ หากเกิดเรื่อง ท่านอ๋องจะรับผิดชอบเอง“ได้ ข้าจะส่งจดหมายตอบกลับแม่นางเจียง”จี้ฉวนจงตัดสินใจให้โอกาสเจียงหวานหว่าน หากเ
เจียงอวิ้นยังด่านางอีกหลายประโยค ชิวจวี๋ได้ยินเสียงผลักประตูมาจากด้านนอก“คุณหนู มีคนมา ข้าไปดูก่อน”ไม่รอให้เจียงอวิ้นได้ทันตั้งตัว ชิวจวี๋หายไปไร้ร่องรอยแล้วเจียงอวิ้นโมโห ดูว่านางจะจัดการสาวใช้คนนี้เช่นไรประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง เจียงอวิ้นนึกว่าชิวจวี๋กลับมาแล้ว นางอ้าปากด่าต่อ“ชิวจวี๋ เจ้าบ้า กล้าหนีหรือ ข้าจะขายเจ้าทิ้งซะ!”เจียงหวานหว่านเมื่อได้ยินเสียงของเจียงอวิ้น นางแสยะยิ้มในใจตอนนี้เจียงอวิ้นอายุยังน้อย ยังไม่ได้ออกไปเผชิญโลกภายนอก นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ“เจ้าขายนางทิ้ง แล้วใครจะไปรับใช้เจ้าที่ชนบทล่ะ?”เจียงอวิ้นได้ยินเสียงเจียงหวานหว่านก็ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง จากนั้นก็ตวาด“นังชั้นต่ำ เจ้ามาได้เช่นไร?”เจียงหวานหว่านทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน นางเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้จากนั้นก็หยิบถ้วยชาที่อยู่ด้านข้าง รินน้ำชาหนึ่งถ้วย“คุณหนูเจ็ดผู้เป็นที่โปรดปรานของจวนสกุลเจียง กลับต้องตกอับถึงเพียงนี้ ช่างน่าสงสาร!”คำพูดเยาะเย้ยของเจียงหวานหว่านทิ่มแทงเจียงอวิ้น “เจียงหวานหว่าน เจ้าอย่าได้ใจเร็วไปนักเลย ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า!”“ลูกอนุตกอับ เจ้าจะไม่ปล่อยข้าไปได้เช่นไร
เจียงหวานหว่านมองเจียงอวิ้นที่กำลังได้ใจ“สุขสบาย? นั่นเป็นเพราะเขาโง่! พี่ชายคนอื่น ตอนที่อยู่เมืองหลวงมีบันทึกแล้ว สกุลเฉาควบคุมไม่ได้ เลยเลือกเจียงจิ่นหนิงที่ชอบพูดพล่าม อยากได้สิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น อยากทำสิ่งใดก็ทำสิ่งนั้น สกุลเฉาต้องคอยตามเช็ดล้างเรื่องไม่ดีตามหลังเจียงจิ่นหนิง คนที่ไม่รู้คนชื่นชมว่าสกุลเฉาเป็นสตรีจิตใจอ่อนโยนงดงาม”“เจียงจิ่นหนิงไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคุณชายบ้านอื่น คุณชายบ้านอื่น เชียวชาญด้านดนตรี หมากรุก ตำราและภาพวาด หากไม่เชี่ยวชาญสี่ตำราห้าศาสตร์ศิลป์ ก็จะอ่านหนังสืออย่างหนักทุกวัน เพื่อความรุ่งโรจน์โดดเด่น มีหน้ามีตา ส่วนเขา วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่น คิดแค่จะทำเช่นไรให้พวกเจ้าสองแม่ลูกพึงพอใจ วิธีของพวกเจ้าแม่ลูกร้ายกาจมาก!”หลังจากได้ฟังคำพูดของเจียงหวานหว่าน เจียงอวิ้นรู้สึกว่านางและท่านแม่เก่งกาจมากที่สามารถเลี้ยงคนไร้ประโยชน์เช่นนี้ออกมาได้“ขอบคุณที่ชม ไม่ต้องเกรงใจ!”เจียงหวานหว่านหัวเราะเสียงเย็น ทิ่มแทงความจองหองของเจียงอวิ้น“น่าเสียดาย เจ้าต้องไปใช้ชีวิตที่ชนบทแล้ว ช่างน่ารันทด แมลงสาบเดินอยู่ทั่วพื้น รูหนูสกปรกมีอยู่ที่ที่ ดีไม่ดียังมีงูด