Share

บทที่ 10

ไม่กี่วันต่อมา ไทเฮาก็เสด็จกลับวัง  ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงนำนางสนมกลุ่มหนึ่งมารอที่ประตูพระราชวังแต่เช้า ราชรถอันวิจิตรงดงามค่อยๆ สะท้อนสู่สายตาของทุกคนอย่างช้าๆ

อีกด้านของราชรถ เป็นปกติที่จะมีนางข้าหลวงข้างกายและขันทีคอยรับใช้ไทเฮา

อีกด้านหนึ่งคือองค์ชายรองลู่จินหยู่ที่ร่วมเดินทางกับไทเฮาไปวัดหมิงจิ้งเพื่อขอพร รวมถึงเผยฉู่เยี่ยนซื่อจื่อน้อยของจวนอันกั๋วกง

ไทเฮานั้นมีแม่นมซูผู้เป็นแม่นมข้างกายคอนปรนนิบัติตอนลงจากราชรถ ฮ่องเต้ต้าฉู่รีบก้าวเดินมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยประคองไทเฮา “เสด็จแม่ เสด็จไปวัดหมิงจิ้งงลำบากพระองค์แล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงในแคว้นต้าฉู่เป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน เป็นผลให้ในฤดูใบไม้ผลิประชาชนไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ แค่มองก็รู้ว่าผู้คนตกอยู่ในความทุกข์ยาก เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามีความอดอยากในทุกหนทุกแห่ง

อีกทั้งในวังหลังก็ไม่มีฮองเฮานั่งบัญชาการ ไทเฮาจึงเสด็จไปที่วัดหมิงจิ้งงวัดประจำแคว้นต้าฉู่เป็นการส่วนตัวเพื่ออธิษฐานขอพรแก่แคว้น เหล่าสนมไม่จำเป็นต้องไปด้วย จึงแค่เลือกองค์ชายรองติดตามไปด้วยเท่านั้น

ไทเฮาตบไปที่มือฮ่องเต้ต้าฉู่ กล่าวอย่างชื่นใจว่า “ข้าก็แค่ไปอธิษฐานขอพรเอง ฝ่าบาทต่างหากที่นั่งบัญชาการในท้องพระโรงนั้นเหนื่อยกว่าอีก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้ามากนักหรอก”

ท้ายที่สุดยังไงก็เป็นเทพเจ้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเสด็จแม่ ฝนจึงตกลงมาสองครั้งนี้ แคว้นต้าฉู่ของเราได้รับการช่วยเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ต้าฉู่ ไทเฮารีบเงยหน้าขึ้นเพื่อค้นหาและมองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย “เฉินเฟยคลอดแล้วหรือ? แล้วเต็มเดือนหรือยัง? รีบอุ้มมาให้ข้าดูเร็วสิ”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรีบรับลู่ซิงหว่านจากมือแม่นม แล้วเดินไปหาไทเฮา

[ว้าว เป็นไทเฮา ไทเฮาคนที่รักและเมตตามากที่สุด ดีที่พระองค์ทรงปกป้ององค์รัชทายาทพี่ชายตลอดหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายที่สุดท้ายนางก็ถูกหรงอ๋องกักบริเวณในตำหนัก เป็นโรคตรอมใจจนสิ้นพระชนม์]

[มองดูลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเพื่อบัลลังก์ ในใจคงรับไม่ได้สินะ?]

ฮ่องเต้ต้าฉู่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยปรับตัวเขากับความคิดเรื่อยเปื่อยของลู่ชิงหว่านได้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าต่อหน้าใครจะรักจะชังก็ช่าง กลับวังไปแล้งค่อยไปแยกแยะ

“ลูกได้แต่งตั้งชิงเหยียนเป็นพระสนมขั้นกุ้ยเฟยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กระซิบเบา ๆ ข้างหูไทเฮา

“ดี ดี สมควรแล้ว” ไทเฮาชื่นชอบสนมเฉินผู้วางตัวถ่อมตนมาโดยตลอด “สมควรแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าเด็กคนนี้ตอนเกิดก็มีฝนตกห่าใหญ่ ในวันครบเดือนก็มีฝนหน้าแล้งตกลงมาอีก ข้าว่านางคงเป็นดาวนำโชคของแคว้นพวกเราสินะ!”

ไทเฮารับลู่ชิงหว่านมาอย่างอ่อนโยน มองนางใกล้ยิ่งขึ้น

[ไทเฮาฉลาดหลักแหลมที่สุดเลย แน่นอนว่าเซียนเช่นข้าต้องเป็นดาวนำโชคอยู่แล้ว!]

“ลูกได้แต่งตั้งยศให้หวานหว่านแล้วว่า หย่งอัน” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่านและแสดงปานดอกบัวพุทธบูชาบนแขนของนางให้ไทเฮาดู “เสด็จแม่ดูสิพ่ะย่ะค่ะ”

“มันคือบัวพุทธบูชาจริงๆ” ไทเฮาศรัทธาในพุทธศาสนามาตลอดและเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางก็อุทานว่า “เอาล่ะ เฉินเฟย อ่า ไม่ใช่สิ เฉินกุ้ยเฟยได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีจริง ๆ เลยนะ”

คนกลุ่มนี้คุยกันอย่างมีความสุข องค์ชายรองเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ก้าวเข้ามาทักทายเช่นกัน

“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อ และขอแสดงความยินดีกับพระสนมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ต้าฉู่เมื่อเห็นเขาก็รีบหันกลับมามองเขา “ลุกขึ้นเร็วเข้า เจ้าทำงานหนักมาตลอดทางแล้ว”

“สามารถทำให้ไทเฮามีความสุขได้ เป็นบุญวาสนาของกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เผยฉู่เยี่ยนที่ติดตามเขาก้าวไปข้างหน้า แสดงความเคารพต่อฮ่องเต้ต้าฉู่และเหล่านางสนม

เผยฉู่เยี่ยนเดิมทีเป็นบุตรชายคนเดียวของจวนอันกั๋วกง เมื่อปีที่แล้วระหว่างสงครามที่แคว้นเยว่เฟิง จวนอันกั๋วกงแม้จะประสบความสูญเสียแต่ก็แทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของจวนอันกั๋วกง อันกั๋วกงเดินลุยเข้าไปในกองทัพของศัตรูเพียงคนเดียวและเข้าไปเด็ดหัวนายพลของศัตรู แต่เขาก็ถูกศัตรูยิงเข้าที่ตรงกลางหัวใจด้วย ถูกฆ่าตายคาสนามรบ

หลังจากได้รับข่าวกลับมา ฮูหยินของอันกั๋วกงรับไม่ได้ และล้มป่วยลงทันที จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีวิธีรักษา และในที่สุดฮูหยินของอันกั๋วกงผอันกั๋วกงก็สิ้นใจเมื่อปลายปีที่แล้ว

อดีตอันกั๋วกงก็เสียชีวิตในสนามรบเมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน

ทั้งครอบครัวเหลือเพียงลูกชายคนเล็กเผยฉู่เยี่ยนซึ่งอายุเพียงแปดขวบ ทำได้เพียงให้ไทเฮาเลี้ยงดูไว้ข้างกายก่อน รอให้เขาโตแล้วค่อยสืบทอดตำแหน่ง

[ว้าว ๆ ๆ เจอพระเอกแล้ว! ให้ข้าดูพี่รองคนนี้ของข้าหน่อย หล่อเหล่าใจกว้างจริงๆ แต่ว่าอายุเพิ่งจะสิบกว่าปีก็โดดเด่นขนาดนี้แล้ว งั้นหลังจากนี้คงไม่เลวเลยสินะ?]

[เสด็จพ่อมีองค์ชายมากขนาดนี้ มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮ่องเต้ น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ พี่รองต้องผ่านเรื่องพลิกผันมามากมายถึงจะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้]

[ประชาชนที่ถูกหรงอ๋องและองค์ชายสามตรงหน้าทำให้ลำบากไม่ต้องพูดถึงความโกรธ ต้องใช้ความพยายามเสียเปล่ามากจริง ๆ!]

หลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินลู่ซิงหว่านพูดในใจอยู่คนเดียว อดไม่ได้ที่จะมองดูองค์ชายรองอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าโอรสคนที่สองที่ตนเองไม่ได้ให้ความสนใจ จริง ๆ แล้วเป็นคนที่เหมาะสมกับการเลือกองค์รัชทายาทที่สุด แต่ตอนนี้รัชทายาท...

ฮ่องเต้ต้าฉู่มองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย แต่เห็นเพียงท่าทีนางดูสงบ

[องค์ชายเผยก็อยู่เหรอ ดูเขาตอนนี้สิ ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังที่สุดขององค์ชายรองในอนาคตกัน! ]

ในใจฮ่องเต้ต้าฉู่อดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผากในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ หวานหว่าน เจ้ายังเป็นแค่เด็กทารกอยู่นะ!

“น้องเก้าว่านอนสอนง่ายจริง ๆ” องค์ชายรองก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เข้าใกล้กับไทเฮาที่ด้านหน้า มองที่ลู่ซิงหว่าน “งดงามพอ ๆกับพระสนมเลยนะพ่ะย่ะค่ะ!”

เต๋อเฟยและหลานเฟยก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อถวายบังคม

“วันนี้พอแค่นี้แหละ ไทเฮายังต้องกลับวังไปพักผ่อน พวกเจ้ากลับตำหนักตัวเองก่อนเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นว่าไทเฮาดูเหนื่อยเล็กน้อย จึงรีบกล่าวขึ้น

เมื่อเสด็จถึงพระตำหนักไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้ข้ารับใช้ถอยออกไป แล้วค่อยกล่าวว่า “เสด็จแม่ เสนาบดีชุยเกรงว่าจะคิดไม่ซื่อพ่ะย่ะค่ะ”

เรื่องนี้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องพูดกับไทเฮา เพียงแต่เกี่ยวข้องกับองค์ชายสาม เป็นการดีกว่าที่ให้ไทเฮาทราบไว้

เมื่อเห็นความสงบของฮ่องเต้ “มีหลักฐานแล้วหรือ?”

ได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว แต่ยังไม่ได้จับกุมใคร จริงๆ แล้วเสนาบดีชุยเป็นขุนนางมาหลายปีแล้ว กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นพ่ะย่ะค่ะ” การวิเคราะห์ของฮ่องเต้ฉู่มีความชัดเจนและรัดกุม

ความกังวลของฝ่าบาทถูกแล้ว เสนาบดีชุยหยั่งรากลึก เต๋อเฟยยังให้กำเนิดบุตรชายสองคนด้วย เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะเอาชนะ” แม้ว่าไทเฮาจะไม่ได้ทรงมีส่วนร่วมในการว่าราชการก็ตาม แต่ในช่วงปีแรก ๆ นั้นนางก็ได้ประสบกับสิ่งต่างๆ มากมายกับอดีตฮ่องเต้ ดังนั้นนางจึงรู้เรื่องการเมืองบ้าง

เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่ยังคงครุ่นคิดอยู่ จึงเปิดปากกล่าวว่า "เรื่องนี้ต้องพิจารณากันในระยะยาว"

ฮ่องเต้ต้าฉู่พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร

และแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องของหรงอ๋อง ไตร่ตรองไปมาแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดกับไทเฮา เมื่อสักครู่หวานหว่านพูดว่าไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการตรอมใจเนื่องจากการยึดบัลลังก์ของหรงอ๋อง อย่าเพิ่งทำให้ไทเฮากังวลใจเรื่องนี้ก่อนจะดีกว่า

พอออกจากตำหนักหรงเล่อของไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กำลังจะกลับไปห้องอักษรต่อ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไปยังตำหนักฉางชิวของเต๋อเฟยแทน

อวี่ฉี คราวนี้เลื่อนตำแหน่งเฉินเฟยให้เป็นกุ้ยเฟย เจ้ารู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า?” ฮ่องเต้ต้าฉู่ต้องการทดสอบเต๋อเฟย

“ฝ่าบาท ทรงกำลังพูดอะไรน่ะเพคะ เฉินกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์หญิงหย่งอันมีคุณงามความดี หลายปีมานี้ดูแลเอาใจใส่องค์รัชทายาทด้วยใจจริง เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับแคว้น หม่อมฉันไหนเลยจะอิจฉาเพคะ”

เต๋อเฟยตอบอย่างน่าพอใจ แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ตื่นตกใจ

เกรงว่าเรื่องการสอบสวนเสนาบดีชุยคงจะถูกรู้เข้าแล้วสินะ เต๋อเฟยเป็นคนอิจฉาริษยามาโดยตลอด เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเต๋อเฟยคิดถึงตำแหน่งฮองเฮามาโดยตลอด ฉลาดตอบเช่นนี้ เกรงว่าเสนาบดีชุยคงได้แจ้งให้นางทราบแล้ว

ขณะนั้นเอง ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็มีความคิดปรากฏขึ้นในใจ “ให้คนไปเรียกองค์ชายสามมา ข้าไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว”

ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ค่อยใส่ใจต่อองค์ชาย องค์หญิงมาโดยตลอด จู่ ๆ ก็จะพบองค์ชายสาม แม้ว่าเต๋อเฟยจะตกใจก็ตาม แต่ก็รีบออกคำสั่ง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status