All Chapters of คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: Chapter 31 - Chapter 40
185 Chapters
บทที่ 31
“ว้าว ถ้าคุณว่าแบบนั้น ฉันคิดว่ามันก็เป็นไปได้นะ”“ก็ใช่ไง ผู้หญิงรวยๆที่ไหนจะทำงานเป็นเลขาในบริษัทหละ?”“แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมถึงต้องอยากแต่งงานปลอมๆหละ”“ คิดว่าคงต้องมีเหตุผลแหละ ฉันได้ยินมาว่าเลขาเสิ่นและประธานฉินโตมาด้วยกัน ในตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ประธานฉินก็คบหาอยู่กับเธอ เขาคงอยากจะช่วยเหลือเธอ พอมันเป็นยังงี้ ตอนนี้ก็เลยไม่มีใครกล้าที่จะรังแกเลขาเสิ่นแล้ว”“แบบนี้นี่เอง ประธานฉินของเราเป็นคนดีจริงๆ”“ฉันยังเคยได้ยินมาว่า ประธานฉินของเรารอเจียงฉูฉู่คนนั้นที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่ตลอดเลยแหละ ช่างเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวจริงๆ ก็สมกับเป็นประธานฉินของเราแหละน้า”ขณะที่คนเหล่านั้นกำลังคุยกัน เสิ่นหยุนอู้ก็ยืนฟังอยู่ข้างหลังโดยไม่ขยับไปไหน สีหน้าของเธอสงบราวกับว่าคนที่กำลังถูกนินทาอยู่นั้นไม่ใช่ตัวเธอจนกระทั่งรถของเจียงหนิงฉวนมาจอดอยู่ตรงหน้าทุกคน จากนั้นหน้าต่างรถก็ถูกลดระดับลง ทำให้เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเจียงหนิงฉวน "ขึ้นมาบนรถเถอะ"เสิ่นหยินอู้ขึ้นไปบนรถของเจียงหนิงฉวนต่อหน้าต่อตาทุกคนหลังจากที่รถขับออกไปไกลแล้ว คนเหล่านั้นที่เพิ่งคุย
Read more
บทที่ 32
เจียงหนิงฉวนไม่ได้พูดประโยคถัดไป แต่น้ำเสียงของเขาได้แสดงอารมณ์ของเขาออกมาอย่างชัดเจนเขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงรู้สึกขอบคุณที่เขาไม่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของเธอ ไม่เช่นนั้นน้ำเสียงของเขาคงจะแย่ยิ่งกว่าตอนนี้เสียอีก อาจเป็นเพราะความเงียบของเธอ ดังนั้นเจียงหนิงฉวนจึงไม่ได้พูดอะไรอีกและพาเธอไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากสั่งอาหารแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า "รอพี่ที่นี่สักพัก พี่จะออกไปข้างนอกสักสิบนาที" “โอเค” เสิ่นหยินอู้พยักหน้า ไม่มีแรงมากพอที่จะอยากรู้ว่าเขาต้องการจะไปทำอะไร สิบนาทีต่อมา เจียงหนิงฉวนกลับมาพร้อมกับถุงใบหนึ่ง "เอาไปสิ" "อะไรหนะ?" เจียงหนิงฉวนพูดว่า "ยาไง เธอไม่ได้ป่วยอยู่เหรอ? โตขนาดนี้แล้ว เธอก็ควรจะมียาที่ใช้บ่อยๆเตรียมไว้กับตัวเองบ้างนะ ถ้ารู้สึกไม่สบายจะได้มียากิน" เสิ่นหยินอู้มองดูถุงด้วยความสับสน "แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไร" “ถ้างั้นก็เตรียมไว้สำหรับครั้งต่อไป” "ก็ได้" เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับถุงยาไว้ ในนั้นบรรจุยาสามัญประจำบ้านที่หาได้ทั่วไปเอาไว้ ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมพอสมควร “ขอบคุณค่ะพี่หนิ
Read more
บทที่ 33
เจียงหนิงฉวนกลับมาจากความคิดของเขา เขามองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอแต่งตัวเรียบง่ายมาก ผมที่ยาวคลุมไหล่ทัดไว้หลังใบหูแบบลวกๆ วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงดูสวยราวกับป่วยเป็นโรค ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร เจียงหนิงฉวนเป็นคนที่มีความตระหนักรู้ในตนเอง เขารู้อยู่เสมอว่าเขาไม่ดีเท่าฉินเย่และไม่คู่ควรที่จะไปเปรียบเทียบกับเขา เมื่อตระกูลเสิ่นล้มละลาย เขาไปหาเธอในหลายๆที่ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ไม่ได้มีตำแหน่งและฐานะอะไรมาก เขาจึงไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเธอได้เลย แม้กระทั่งประธานของบริษัทแห่งหนึ่งยังบอกกับเขาโดยตรง “เจียงหนิงฉวน คุณเก่งและโดดเด่นมาก ผมเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของคุณ แต่ตอนนี้ครอบครัวเสิ่นตกต่ำแล้ว คนฉลาดควรรู้ว่าจะต้องตัดสินใจยังไง คุณสามารถมาที่บริษัทของผมได้” ในเวลานั้น หลายคนไม่เพียงแต่ไม่อยากยื่นมือมาช่วย แต่ถึงขนาดต้องการแย่งชิงตัวเขาไปด้วยซ้ำ “ตระกูลเสิ่นจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก แต่ให้จะมีบางคนเต็มใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในตอนนี้ ตระกูลเสิ่นก็ไม่มีวันรักษาความรุ่งโรจน์เหมือนดั่งในอดีตเอาไว้ได้” “ดังน
Read more
บทที่ 34
เธอตอบกลับว่า "เดี๋ยวกลับไปตอนเริ่มงาน" หลังจากนั้น ฉินเย่ก็ไม่ตอบกลับ เธอเก็บโทรศัพท์ของเธอลงไปแล้วพูดกับเจียงหนิงฉวนว่า "ฉันรู้ พี่หนิงฉวน" สายตาของเจียงหนิงฉวนมองไปที่โทรศัพท์ของเธอครู่หนึ่งแล้วถามว่า "ข้อความจากเขาเหรอ?" เสิ่นหยินอู้หยุดชั่วคราวและพยักหน้า เจียงหนิงฉวนไม่พูดอะไรได้อีก พวกเขาทั้งสองกินอาหารที่เหลือต่ออย่างเงียบๆและเช็คบิล จากนั้นเจียงหนิงฉวนก็ไปส่งเธอ เมื่อเสิ่นหยุนอู้เข้าไปในลิฟต์ เธอก็พบว่าเจียงหนิงฉวนตามเธอเข้ามา เธอประหลาดใจเล็กน้อย "พี่ก็จะไปเหรอ?" เพราะที่ทำงานที่ทั้งสองคนทำงานอยู่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน เจียงหนิงฉวนสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดด้วยสีหน้าสงบ "พี่จะไปหาประธานฉิน มีเรื่องจะรายงานพอดี" หลังจากออกจากลิฟต์แล้ว เจียงหนิงฉวนก็ยกมือขึ้นและมองไปที่เวลาบนนาฬิกาของเขา จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้แล้วพูดว่า “เหลืออีกสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มทำงาน คงไม่เหมาะที่จะไปหาประธานฉินในตอนนี้” เสิ่นหยินอู้พูดว่า "ถ้างั้นก็ไปอยู่ที่ห้องทำงานของฉันสักพัก" "ได้" เมื่อไปที่ห้องทำงานของเสิ่นหยินอู้ ไม่จำเป
Read more
บทที่ 35
เมื่อถูกเขามองด้วยสายตาเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็สูญเสียความเป็นตัวเองไปเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอออกไปตอนเที่ยง เขาไม่ได้มาที่บริษัทด้วยกันกับเจียงฉูฉู่หรือ? ทำไมเจียงฉูฉุ่ถึงไม่อยู่ในห้องทำงานของเขา? ขณะที่เธอกำลังคิด เจียงหนิงฉวนก็ถามอะไรบางอย่างกับเธอ เสิ่นหยินอู้จึงเรียกสติกลับคืนมาได้และตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อรายงานสิ้นสุดลง เจียงหนิงฉวนก็เตรียมที่จะออกไป ฉินเย่พยักหน้าอย่างไม่แยแส ทันทีที่เจียงหนิงฉวนเดินออกไป สายตาของฉินเย่ก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้โดยไม่ปกปิดใดๆ ก่อนหน้านี้เธอยืนอยู่ข้างหลังเจียงหนิงฉวน และยังให้เขาบังเธอไว้ ในตอนนี้ จะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ ในเวลานี้ จู่เจียงหนิงฉวนที่กำลังจะเดินไปถึงประตูห้องทำงานก็หันกลับมามองที่เสิ่นหยินอู้ "หยินอู้ พรุ่งนี้พี่จะมารับเธอตอนเที่ยงอีกนะ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ทำตัวไม่ถูก ฉินเย่ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น “ประธานฉิน คุณคงไม่ถือสาสินะถ้าผมจะขอคุยกับเลขาเสิ่นสักหน่อย?” เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้ว เขากำลังจะทำอะไร? แต่ก่อนที่เธอจะได้ตอบสนองอะไ
Read more
บทที่ 36
หรือเขาแค่แกล้งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น? “ทำไมคุณถึงไม่พูดหละ?” ฉินเย่บีบคางของเธอ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงความว้าวุ่นใจของเธอ จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “เป็นอะไรไปหละ?” เสิ่นหยินอู้มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคยตรงหน้า ริมฝีปากสีชมพูของเขาเปิดออก แต่เขากลับลังเลที่จะพูด เธออยากจะพูดและถามอะไรบางอย่างจริงๆ แต่เมื่อคำพูดนั้นกำลังจะออกมา เธอก็ตระหนักได้ว่าเธอนั้นไร้เรี่ยวแรง... เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำ ถ้าหากเขาก้มหน้าลงและถามเธอว่า "ผมแค่อยากเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้คุณ ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เสิ่นหยินอู้ ทำไมคุณถึงไร้เดียงสาขนาดนี้?" ถ้าเขาพูดอย่างนั้น แล้วจะทำยังไงหละ? ตอนนี้ทุกคนก็รู้หมดแล้ว ถ้าเธอจัดการมันอย่างเงียบๆด้วยตัวเอง มันก็คงจะดีกว่า “ไม่มีอะไร” เสิ่นหยินอู้ส่ายหัว ดวงตาของฉินเย่หม่นลงเล็กน้อย มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว เขารู้สึกว่าช่วงนี้เธออารมณ์แปรปรวนอยู่บ่อยๆ จู่ๆเธอก็ดูห่างเหินกับเขามาก ไม่ยอมพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความรู้สึกเสน่หาที่พวยพุ่งออกมาก่อนหน้านี้ก็หายไปอย่างสิ้นเชิงใน ฉินเย่ป
Read more
บทที่ 37
คำพูดของเธอทำให้โจวชวงชวงสงบลงเล็กน้อย พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีแล้ว และชวงชวงก็รู้จักเสิ่นหยินอู้เป็นอย่างดี เธอรู้ดีว่าหยินอู้เป็นคนที่รู้ว่าอะไรควรและไม่ควรมาโดยตลอด ผลลัพธ์เช่นนี้เธอคงจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรู้สึกเจ็บใจแทนเพื่อนสนิทของเธอ เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วถามว่า "แต่...เธอเต็มใจจริงๆเหรอ?" เสิ่นหยินอู้ตอบอย่างใจเย็น "ถึงไม่เต็มใจแล้วทำจะอะไรได้หละ?" เธอไม่เต็มใจจริงๆ และพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงดูแล้ว อย่างไรก็ตาม ความจริงกลับตบเธอและบอกเธอว่าคิดไปเอง “พรุ่งนี้เธอว่างรึเปล่า สนใจไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันไหม?” เสิ่นหยินอู้หยุดไปชั่วคราวและหัวเราะเบาๆว่า “ฉันไม่อยากไปคนเดียว” โจวชวงชวงพยักหน้า "โถ่ ฉันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเธอนะ ต่อให้ไม่ว่าง ก็ต้องว่างให้ได้แหละถูกไหม? เธอไม่จำเป็นต้องถามฉันด้วยซ้ำ แค่บอกให้ฉันไปกับเธอก็พอแล้ว " เสิ่นหยินอู้ยิ้มและพูดว่า "กินข้าวเถอะ กินเสร็จจะได้กลับไปพักผ่อนไวๆ" การแสดงออกของเธอนั้นสงบมากและไม่มีท่าทีว่าจะไม่มีความสุขเลยสักนิด โจวชวงชวงมองเสิ่นหยินอู้
Read more
บทที่ 38
เธอต้องใช้แรงอย่างมากในการช่วยพยุงเขากลับห้อง แต่สุดท้ายก็ล้มลงโดยไม่ระมัดระวังและตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่รู้ว่าอะไรกันที่ปลุกอารมณ์ในตัวของฉินเย่ขึ้นมา จู่ๆฝ่ามือใหญ่ๆของเขาก็ย้ายไปจับที่เอวเรียวเล็กของเธอและพลิกตัวเธอเพื่อกดเธอไว้ เขามีรูปร่างที่ผอมเพรียวแต่กลับแข็งแรงกำยำ น้ำหนักทั้งหมดของเขาอยู่บนตัวเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่า แต่จู่ๆเสิ่นหยินอู้รู้สึกราวกับว่าใบหน้าของเธอกำลังเดือดพล่านขึ้นมาในทันที เธอต้องการผลักเขาออกไป อย่างไรก็ตาม วินาทีที่เธอจะผลักเขาออกไป ริมฝีปากบางอุ่นๆของชายคนนั้นก็ประกบไปที่ริมฝีปากของเธอ เสิ่นหยินอู้ตกตะลึง เมื่อเธอต้องการผลักเขาออกไป เธอก็กลับรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆเข้ามาในปากของเธอ ทันใดนั้น สมองของเธอก็ดูเหมือนจะตกใจกับอะไรบางอย่าง และเธอก็ขยับตัวไม่ได้ เมื่อเธอตอบสนอง เธอก็ได้จูบเขากลับไปเสียแล้ว แต่ฉินเย่ที่ถูกเธอจูบตอบก็กอดเธอไว้แน่นราวกับปลาที่ขาดน้ำมาเป็นเวลานาน ในคืนนั้นเธอได้ปล่อยตัวปล่อยใจของตัวเองไป เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของฉินเย่ เธอก็เห็นคิ้วที่ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นของฉินเย่ เมื่อ
Read more
บทที่ 39
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล โจวชวงชวงมองไปรอบๆด้วยสีหน้าแปลกๆ จากนั้นก็ถามเธอด้วยเสียงเบาๆ "ทำไมเราไม่ไปโรงพยาบาลใหญ่หละ? โรงพยาบาลเล็กๆจะไม่ทำให้ร่างกายเธอแย่ลงเหรอ?" เสิ่นหยินอู้พูดอย่างใจเย็นว่า "มันไม่สะดวก" ที่โรงพยาบาลใหญ่มีคนที่รู้จักคุณย่าฉินทำงานอยู่ เธอไม่คิดว่าวันนั้นเธอจะท้อง เธอจึงไปตรวจที่นั่น ตอนนี้เธอต้องจัดการกับมัน ดังนั้นจึงไม่สามารถไปโรงพยาบาลแห่งนั้นได้อีก หากถูกจับได้... แล้วมีคนไปบอกคุณย่าฉินหละก็ ดังนั้นเพื่อความแน่นอน เสิ่นหยินอู้จึงตัดสินใจที่จะมาจัดการที่โรงพยาบาลเล็กๆแห่งนี้ โจวชวงชวงไปทะเบียนและจ่ายเงินให้เธอ และเธอต้องได้รับการตรวจก่อน ระหว่างรอตรวจ ทั้งสองก็นั่งรอบนเก้าอี้ โจวชวงชวงหันไปมองเสิ่นหยินอู้อยู่หลายครั้ง ผ่านไปไม่นานก็มองเธออีกครั้ง ภายในไม่กี่นาที เธอก็มองหยินอู้ไปมากกว่าสิบครั้ง เสิ่นหยินอู้ทนไม่ไหวอีกต่อไป “เธอมองฉันทำไมนักหนาเนี่ย?” ชวงชวงตาแดงเล็กน้อย “ฉันสงสัยว่าเธอกลายเป็นคนเย็นชาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตกใจไปชั่วขณะ เธอกลายเป็นคนเย็นชาไปแล้วงั้นเหรอ? “เด็ก
Read more
บทที่ 40
เสิ่นหยินอู้กล่าวว่า "น่าจะเป็นอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ" “งั้นฉันจะไปซื้อของกินมาให้เธอ เธอรอที่นี่นะ เดี๋ยวฉันกลับมา” โจวชวงชวงออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธอจากไป เสิ่นหยินอู้ก็เอนกายบนเบาะเก้าอี้และหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า เสียงทั้งสองในหัวเริ่มขัดแย้งกันอีกครั้ง “เธอกำลังคิดอะไรอยู่หนะ? เห็นได้ชัดว่าเธอได้ตัดสินใจไปแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วเธอก็ได้มาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทำไมเธอยังลังเลอยู่? ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ซะ เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต อย่าลืมว่าเขาบอกเธอมาแล้วเรื่องที่จะหย่า” “ฟ้องหย่าแล้วมันทำไมหละ? เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ หรือว่าเธอไม่มีความสามารถแม้แต่จะเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียวด้วยซ้ำ?” “เธอคิดว่าแค่มีความสามารถทางการเงินเพียงอย่างเดียวก็เลี้ยงลูกได้แล้วรึไง? แล้วด้านจิตใจหละ?” “ถ้าห่วงว่าลูกจะไม่มีพ่อ เธอก็หาใหม่สิ เธอยังเด็กขนาดนี้ หรือกลัวว่าจะหาสามีไม่ได้เหรอ?” อาการน้ำตาลในเลือดต่ำบวกกับเสียงทั้งสองนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ปวดหัวจนแทบจะทนไม่ไหว จนกระทั่งมีเสียงประหลาดใจดังขึ้น “หยินอู้?” “หยินอู้ นั่นเธอใช่ไหม?” ในตอนแรก เสียงนั้นด
Read more
PREV
123456
...
19
DMCA.com Protection Status