All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 21 - Chapter 30
100 Chapters
บทที่ 21
หลินซวงเอ๋อร์ได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ตงเหมยฟังอย่างละเอียดในช่วงสองปีที่ที่อยู่ในจวนอ๋อง นอกจากท่านป้าจ้าวแล้ว ตงเหมยดีกับนางที่สุดนางคิดว่าตงเหมยจะตำหนินาง แต่คิดไม่ถึงว่า ตงเหมยไม่เพียงไม่ตำหนินางเท่านั้น ในทางกลับกันนางกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งกับสิ่งที่นางประสบพบเจอ และทำให้นางดูแลเอาใจใส่นางมากยิ่งขึ้นตงเหมยกล่าวว่า: "ก่อนหน้านี้ ข้าถือว่าเจ้าเป็นน้องชายแท้ๆของข้า แต่ตอนนี้ ข้าถือว่าเจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของข้าแล้ว"หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกซาบซึ้งใจมากจนนางเกือบจะร้องไห้นางพูดกับตงเหมยว่า: "ข้าทำงานที่จวนอ๋องมาสองปี สะสมเงินได้สิบตำลึง และได้ซ่อนไว้ในกล่องไม้ใต้เตียงของข้า"ตงเหมยกล่าวพร้อมหัวเราะด้วยความโกรธว่า: "เจ้าเด็กโง่นี่ เจ้าพูดเรื่องเหล่านี้กับข้าทำไม? เงินของเจ้าต้องซ่อนเอาไว้ให้ดีๆ พอออกจากจวนไปก็ไปแต่งงานกับคนที่ดีๆสักคน เงินเหล่านี้ถือว่าเป็นสินสอดของเจ้า แล้วอย่าโง่เขลาไปบอกคนอื่นล่ะ ต้องรู้จักระวังผู้อื่นปองร้าย รู้หรือไม่”หลินซวงเอ๋อร์กอดตงเหมย หน้าเรียวเล็กถูไถไปที่บนแขนของนาง เกาะติดราวกับว่าเป็นแมว: "เจ้าไม่ใช่คนอื่น เจ้าเป็นคนกันเอง"ตงเหมยแหย่หน้
Read more
บทที่ 22
ยาทาแผลที่เสวียนอู่มอบให้มาสองสามขวดนั้นมีประสิทธิภาพดีมาก หลินซวงเอ๋อร์ใช้มันเพียงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น รอยแผลเป็นบนร่างกายของนางก็แทบจะมองไม่เห็นแล้วตงเหมยยังคงมาดูแลนางทุกวัน บางครั้งก็แอบเอาลูกชิ้นเปรี้ยวหวานที่พ่อครัวเว่ยทำมาให้นาง บางครั้งก็เอาขนมโดรายากิที่ขายตามท้องถนนมาให้นางแต่นางก็ยังนอนหลับไม่สนิททุกคืนนางไม่เคยลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ใบหน้าที่ดุร้ายของอู๋เต๋อไห่มักจะปรากฏขึ้นในความฝันของนางโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้านางติดอยู่ในฝันร้าย เหงื่อเปียกโชก ทำอย่างไรก็ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ทุกครั้งที่รู้สึกสิ้นหวังสุดขีด นางก็มักจะรู้สึกได้ถึงมือขนาดใหญ่อุ่นๆคู่หนึ่งที่ลูบแก้มนางเบาๆอย่างอ่อนโยน หรือตบไหล่นางเบาๆ เพื่อกล่อมให้นางนอนหลับได้อย่างสงบระหว่างที่เคลิบเคลิ้มอยู่นั้น ดูเหมือนนางจะมองเห็นชายหนุ่มรูปงามที่มีจิตใจฮึกเหิม สวมหมวกทางการ ขี่ม้าฝีเท้าดี และเดินมาหานางทีละก้าวชายหนุ่มรูปงามที่กำลังขี่ม้า โน้มตัวลงมา แล้วยื่นมือให้นาง พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า“ซวงเอ๋อร์ ข้ามารับเจ้ากลับบ้าน”“ซวงเอ๋อร์ หลายปีมานี้ ทำให้เจ้าต้องลำบากแล้ว”หางตามีน้ำตาไหลลงม
Read more
บทที่ 23
หลินซวงเอ๋อร์มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่เห็นใครเลยนางคิดว่า อาจจะเป็นเพราะสองวันที่ผ่านมานางพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้รู้สึกเครียดเกินไปเล็กน้อยนางไม่ได้คิดอะไรมาก และยังคงตากเสื้อผ้าในกะละมังต่อไปเสาไม้ไผ่แขวนไว้สูงเล็กน้อย นางจึงเขย่งเท้าขณะที่ลมยามค่ำคืนพัดผ่านลานจวน ชายกระโปรงอันเบาบางก็ปลิวไปตามสายลม และขาอันเรียวยาวขาวใสคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้น...เยี่ยเป่ยเฉิงหายใจถี่ขึ้น ลูกกระเดือกก็กลิ้งเล็กน้อยกระโปรงที่พลิ้วไหวราวกับขนนก ยั่วยวนใจของเขาอยู่ตลอดเวลาหลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ตัวเลย นางเขย่งเท้า เงยหน้าขึ้น เหลือเพียงอีกนิดเดียวก็จะเอื้อมถึงเสาไม้ไผ่ที่อยู่เหนือศีรษะแล้วนึกไม่ถึงเลยว่า การเคลื่อนไหวของนางนี้ ทำให้รูปร่างที่อ่อนช้อยงดงามของนางก็มีเสน่ห์มากขึ้น แสงจันทร์อันเจิดจ้าเหมือนกับผ้าโปร่งใสพันอยู่รอบตัวนางสายลมยามเย็นพัดแรงมาก ปอยผมบนหน้าผากของหญิงสาวแห้งไปนานแล้ว จึงปลิวไปตามสายลมเล็กน้อย ในความกระเซอะกระเซิงทำให้เกิดความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบแต่กลับมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมเยี่ยเป่ยเฉิงไม่เคยมีนิสัยแอบมองผู้คน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ในเวลานี้ถึงไม่สามารถละสายตาไ
Read more
บทที่ 24
จู่ๆเสิ่นป๋อเหลียงก็หัวเราะ“ข้าน้อยได้ยินไม่ผิดไปใช่หรือไม่?”ทั้งต้าซ่งแห่งนี้มีคึรบ้างที่ไม่รู้ว่า ท่านอ๋องเทพแห่งสงครามแห่งจวนหย่งอัน เป็นคนที่ไม่ใคร่ในอิสตรี และไม่สนใจเรื่องระหว่างชายหญิงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?แค่กินยาเสน่ห์ลงไปครั้งเดียว เป็นไปได้ไหมว่าเลยลิ้มลองแล้วเลยอยากจะลิ้มลองอีก?“เจ้าคิดว่าข้ากำลังล้อเล่นหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงมองเขาอย่างงุนงงสับสนเมื่อถูกจ้องมองด้วยนัยน์ตาที่เย็นชาคู่นี้ เสิ่นป๋อเหลียงทำได้เพียงกลั้นหัวเราะ ด้วยหัวใจของแพทย์ เสิ่นป๋อเหลียงจึงถามอย่างอดทนว่า: "ท่านฝันเช่นนี้บ่อยไหม?"เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และกล่าวอย่างจนใจว่า: "เป็นเช่นนี้ทุกคืน"นับตั้งแต่ดื่มยาเสน่ห์เข้าไป เขาก็ฝันถึงภาพเหล่านั้นทุกคืน บางครั้งก็เป็นภาพเศษเสี้ยวของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง และบางครั้งภาพเหล่านั้นก็เป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นในสมองของเขาเสิ่นป๋อเหลียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย: "เป็นเช่นนี้ทุกคืนเลยหรือ?"ตามนิสัยใจคอที่ไม่ใคร่ในอิสตรีของเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่น่าจะมีความปรารถนาอันแรงกล้าในเรื่องนั้นไม่ว่าปริมาณของยาจะมากแค่ไหน ถ้าแก้ไขได้ทันเวลา
Read more
บทที่ 25
เช้าตรู่เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างรีบร้อนจากด้านนอกหลินซวงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงตงเหมยเรียกนางจากข้างนอกนางเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วลุกขึ้น รู้มึนหัว และวิงเวียนศีรษะเล็กน้อยพอเปิดประตู ตงเหมยก็ยืนอยู่นอกห้อง มองนางด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า "ซวงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงยังไม่ตื่น? ผ้าที่ท่านป้าจ้าวให้เจ้าไปเอาที่ร้านขายผ้าเมื่อวานอยู่ที่ไหน?"จู่ๆหลินซวงเอ๋อร์ก็สะดุ้งตกใจ และก็ตื่นขึ้นมาทันที“แย่แล้ว ข้าลืม”หลินซวงเอ๋อร์แทบอยากจะตบหน้าผากของตนเอง วันนี้เหตุใดนางถึงได้ง่วงขนาดนี้ จนลืมเรื่องสำคัญเรื่องนี้ไปเลยได้ยินมาว่านายหญิงได้เชิญช่างตัดเสื้อจากเจียงหนันมาตัดเย็บเสื้อผ้าใหม่ให้กับท่านอ๋องเป็นพิเศษ เมื่อวานนี้ท่านป้าจ้าวกำชับนางเป็นพิเศษ ให้นางไปเอาผ้าที่ร้านขายผ้าตอนเช้าตรู่ เพื่อจะได้เอาไปให้ท่านอ๋องเลือก!แต่นางกลับตื่นสาย และลืมเรื่องนี้ไปเลย!นางรีบวิ่งไปที่ลานจวน เอากระบวยตักน้ำตักน้ำขึ้นมา แล้วตบไปที่บนหน้าแบบมั่วๆสองสามครั้งน้ำเย็นมาก ทันใดนั้นสมองก็ปลอดโปร่งขึ้นมาทันทีตงเหมยพูดว่า: "เจ้าไปที่ร้านผ้าแล้วเอาผ้ากลับมาก่อน ข้าจะไปหานายหญิงแล้วจะอธ
Read more
บทที่ 26
ในโรงเตี๊ยมอวิ๋นเซียวบนถนนฉางอัน คนสองคนกำลังเล่นหมากรุกอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองเมื่อเห็นว่าหมากดำที่อยู่ในมือของเยี่ยเป่ยเฉิงไม่วางลงเสียที ไป๋อวี้ถังก็อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าเขา“หน้ากระดานหมากรุกที่ดีเช่นนี้ สหายเยี่ยกลับไม่รู้ว่าจะวางอย่างไร?”ทันใดนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็รู้สึกตัวขึ้นมา แล้วเอาหมากดำลงบนกระดานหมากรุกอย่างมั่นคงไป๋อวี้ถังเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม: "ดูเหมือนว่าใจของสหายเยี่ยจะไม่ได้อยู่ที่กระดานหมากรุกนี้ มีอะไรในใจหรือเปล่า? เหตุใดเจ้าไม่คุยกับสหายเจ้าคนนี้"ทุกครั้งที่เยี่ยเป่ยเฉิงมีเรื่องกลัดกลุ้มใจอะไร เขามักจะมาหาไป๋อวี้ถังเพื่อประลองทักษะการเล่นหมากรุกไป๋อวี้ถังกับเขาเติบโตมาด้วยกัน ตอนนั้นพวกเขาสอบขุนนางด้วยกัน และทั้งคู่ก็อยู่ในอันดับต้นๆเพียงแต่ว่าทั้งสองมีปณิธานที่แตกต่างกัน ไป๋อวี้ถังอาศัยความรู้ความสามารถของตน ขึ้นไปเป็นเป็นหัวหน้าขุนนางฝ่ายปกครอง และถูกฮ่องเต้องค์ปัจจุบันแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสภาขุนนางเยี่ยเป่ยเฉิงมีปณิธานที่จะเป็นท่านอ๋อง ต่อสู้ในสนามรบ ปกป้องแว่นแคว้น เป็นไปตามที่คาดหวัง เขาได้กลายเป็นเทพแห่งสงครามแห่งต้าซ่งคนหนึ่งเป็นห
Read more
บทที่ 27
หลินซวงเอ๋อร์วิ่งเหยาะๆกลับไปที่จวนตลอดทาง ยังไม่ทันจะได้เข้าจวนก็เห็นรถม้าของเยี่ยเป่ยเฉิงจอดอยู่นอกจวนตงเหมยรีบออกมาจากจวน พอเห็นนางก็ดึงนางไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที“เหตุใดเจ้าเพิ่งกลับมา?ท่านอ๋องแลนายหญิงต่างก็รออยู่ที่ห้องโถงใหญ่แล้ว”หลินซวงเอ๋อร์เหนื่อยหอบ และวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่อีกครั้งโดยที่ไม่ได้หยุดพักเลยเป็นจริงอย่างที่คาดไว้ ทุกคนต่างมาถึงกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว เหลือนางคนเดียวที่มาสายเยี่ยเป่ยเฉิงนั่งตระหง่านอยู่ในห้องโถง ไม่แม้แต่จะมองนางเลย และดื่มชาด้วยสีหน้าที่เมินเฉยตลอดเวลาในทางกลับกันสีหน้าของชิงกงเยวี่ยแย่มาก ทันทีที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ก็ตบไปที่โต๊ะอย่างแรง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคืองว่า: ท่านป้าจ้าวไม่เคยสอนกฎเกณฑ์ให้เจ้าเลยหรือ? “ถึงได้ให้นายท่านทั้งหลายรอเจ้าอยู่ที่นี่"เมื่อเห็นดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็รีบคุกเข่าลงบนพื้น เนื่องจากนางวิ่งเร็วเกินไป หน้าอกยังคงกระเพื่อมอย่างรุนแรง เมื่อเผชิญหน้ากับการตำหนิของกงชิงเยวี่ย นางก็ไม่กล้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย จึงทำได้แค่ก้มศีรษะลงเท่านั้นเมื่อท่านป้าจ้าวเห็นดังนี้ ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดแทนหลินซวงเอ๋อร์: "นาย
Read more
บทที่ 28
พ่อบ้านฉินหยิบไม้บรรทัดออกมา และยืนอยู่ตรงหน้าหลินซวงเอ๋อร์ในแง่ของส่วนรวม ถ้าคนรับใช้ในจวนทำผิด พ่อบ้านฉินจะเป็นคนลงโทษด้วยตนเองแต่ในแง่ของเรื่องส่วนตัว พ่อบ้านฉินแค้นเคืองหลินซวงเอ๋อร์มานานแล้ว ครั้งที่แล้วเพราะเรื่องที่ลวนลามนาง จึงถูกท่านอ๋องริบเงินเดือนไปสามเดือน ตอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดี!"เพียะ!"เสียงที่คมชัดดังสะท้อนไปที่ห้องโถงใหญ่ หลินซวงเอ๋อร์เจ็บจนแทบน้ำตาไหลพ่อบ้านฉินใช้พละกำลังอย่างเต็มที่ แทบอยากจะตีจนไม้บรรทัดหักหลังจากตีไปครั้งหนึ่ง รอยสีแดงอันโดดเด่นก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของหลินซวงเอ๋อร์ทันที หลินซวงเอ๋อร์ก็หดฝ่ามือตามสัญชาตญาณพ่อบ้านฉินใช้ไม่บรรทัดดันหลังมือของนางขึ้น แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: "ยืดฝ่ามือออกให้ตรง นี่คือกฎของจวน แล้วอย่าหาว่าข้าโหดร้าย"หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปากเอาไว้แน่น และยื่นมือออกไปอย่างสั่นเทา"เพียะ!"มีเสียงที่คมชัดดังขึ้นอีกครั้งหลินซวงเอ๋อร์ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ น้ำตาก็เม็ดใหญ่ก็ไหลออกมาจากดวงตา“นี่แค่สองครั้งเอง ก็ทนไม่ได้แล้วหรือ?” พ่อบ้านฉินยิ้มเยาะ และกำลังจะตีครั้งที่สาม จู่ๆเสียงที่คมชัดหนึ่งก็ดังมาจากห้องโถงใหญ่
Read more
บทที่ 29
หลินซวงเอ๋อร์เป็นไข้จนรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว ตงเหมยบอกว่าจะเรียกหมอมาดูอาการนาง แต่ทำอย่างไรหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่ยอมเมื่อเห็นว่านางดื้อรั้นเช่นนี้ ตงเหมยก็ไม่มีทางเลือกอื่นจึงทำได้แค่ใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเย็น แล้ววางไว้บนหน้าผากของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ซวงเอ๋อร์ ข้าไปเรียกจหมอมาดูอาการเจ้าดีกว่า ไข้สูงไม่ลดเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นคนโง่เอาได้นะ”หลินซวงเอ๋อร์มีสติที่เลือนราง แต่ก็พอได้ยินคำพูดของตงเหมยอยู่บ้าง นางส่ายหัว คว้ามือของตงเหมยเอาไว้ แล้วพูดว่า "ไม่ต้อง อดทนหน่อยเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป อย่าไปเรียกหมอมาเลย"ตงเหมยทั้งรู้สึกรู้ปวดใจทั้งจนใจ: "เรื่องจะแดงก็ให้มันแดงไปเลย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเสียหน่อย ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าจะรับผิดชอบแทนเจ้าเอง พวกเราไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงเสียหน่อย ข้าไม่เชื่อว่า จวนนี้จะไล่พวกเราออกไป!"“อย่าเรียกหมอ ขอร้องเจ้าล่ะ อดทนเดี๋ยวมันก็ผ่านไป” หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าเรียกหมอ กฎเกณฑ์ของจวนอ๋องเข้มงวดมาก ถ้าถูกคนรู้สถานะของนาง ไม่เพียงแต่นางจะถูกตัดสินประหารชีวิต บางทีอาจจะทำให้ท่านป้าจ้าวและตงเหมยเดือดร้อนไปด้วยหลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "พี่ตงเหมย ไม่เป็นไร พรุ่ง
Read more
บทที่ 30
เขาไม่รู้จักชิวจวี๋ เขารู้แค่ว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงในความฝันของเขาแม้ว่าชิวจวี๋จะปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขามาหลายวันแล้ว แต่เขากลับไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชื่อของนางแต่ชิวจวี๋กลับไม่ได้ยินน้ำเสียงที่รังเกียจของเยี่ยเป่ยเฉิง ไม่ต้องพูดถึงนัยน์ตาที่แหลมคมและเย็นชาของเขาเลยนางรู้เพียงว่า เพื่อให้ได้มาปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกายเยี่ยเป่ยเฉิง นางพยายามทุกวิถีทาง และใช้เงินเดือนครึ่งปีเพื่อทำให้ท่านป้าหลี่ดีใจ ให้ท่านป้าหลี่พูดแต่สิ่งที่ดีๆของนางตอนที่อยู่ต่อหน้านายหญิง เพื่อที่นางจะได้มีโอกาสถูกโยกย้ายไปปรนนิบัติอยู่ข้างกายเยี่ยเป่ยเฉิงหากนางทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงพึงพอใจ และถูกยกย่องให้เป็นอนุภรรยา นางจะไม่ต้องกังวลเรื่องของกินของใช้ตลอดชีวิตขณะที่กำลังคิดสิ่งนี้ นางก็เริ่มรู้สึกปวดร้าวที่ข้อมือน้ำเสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงเย็นชา: "ใครใช้ให้เจ้าเข้ามา!"ความเขินอายบนใบหน้าของชิวจวี๋ก็ชะงัก ภาพลวงตาทั้งหมดก็มลายหายไปในทันที“ท่านอ๋อง ข้าน้อยก็แค่เห็นว่า...”นางยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ยกข้อมือของนางขึ้น ใช้แรงดึง แล้วโยนนางลงไปที่พื้นราว
Read more
PREV
123456
...
10
DMCA.com Protection Status