"หยุด!" พ่อเฮ่อตะโกน เคราบนใบหน้าของเขาสั่น เห็นได้ชัดว่าโกรธจริงๆ " เรื่องราวง่ายมาก เเบบร่างแนวคิดเกมส์ของเสี่ยวเสวี่ยถูกรั่วไหลออกมาโดยคนๆ หนึ่ง และก็ถูกบุคคลนี้ส่งข้อมูลไปยังบริษัทคู่แข่ง บริษัทคู่แข่งนี้ได้ลงทะเบียนก่อนและเผยแพร่เกมส์นี้ไป ความพยายามของเสี่ยวเสวี่ยในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาได้หายไปในพริบตาจากการสอบสวนโดยผู้ให้ข้อมูลภายในบริษัทพบว่า บุคคลที่ส่งแบบร่างไปอีเมลล์ของบริษัทคู่แข่งนั้นก็คือเสี่ยวซู"สามคำสุดท้ายพ่อเฮ่อพูดช้ามาก"จะเป็นฉันที่เป็นคนส่งได้ยังไงกัน?" อวิ๋นซูอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มและพูดว่า "ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณถานทำหน้าที่อะไร นับประสาอะไรกับบริษัทคู่แข่ง"ถานอวี้เสวี่ยกัดริมฝีปาก คิ้วอันนิ่งสงบแฝงไปด้วยความสงสารอย่างเห็นได้ชัด"ถ้าอย่างนั้น...ฉันก็ไม่รู้แล้ว อย่างไรก็ตาม กล่องจดหมายที่บริษัทถูกตรวจสอบว่าเป็นของคุณ พูดตามตรงฉันไม่เชื่อ แต่สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ตรงหน้าฉัน มันทำให้ฉันต้องเชื่อ"อวิ๋นซูประทับใจอย่างมากกับทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ ถานอวี้เสวี่ยเธอไม่ไปแสดงหนัง นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในวงการบันเทิงจริงๆ"โอเค แม้ว่าฉันจะรู
คำพูดนี้แทบจะแทงจมูกของอวิ๋นซู บอกว่าเธอที่บ้านไม่สั่งสอนและคู่ควรกับเฮ่อเยียนสืออวิ๋นซูยิ้มด้วยอารมณ์ดี น้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงแรงกดดันทำให้ผู้คนสั่น "คุณป้าคะ เรื่องยังไม่ได้รับการสอบสวนอย่างชัดเจน พูดมากเกินไป ระวังมันจะย้อนกลับหาตัวเองนะคะ"แม่ถานกลัวเฮ่อเยียนสือและพ่อเฮ่อ ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะกำเริบเสิบสานมากเกินไปแต่สำหรับอวิ๋นซู เธอไม่ได้สนใจมันเลยตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซูยังคงกล้าที่จะโต้แย้ง จู่ๆ ก็รู้สึกใบหน้ามืดมนลง และไม่สนใจว่าใครคือผู้หลักผู้ใหญ่ เธอลดสีหน้าลง "ทำไมการสอบสวนยังไม่ชัดเจนล่ะ? แบบร่างของเสี่ยวเสวี่ยอยู่ในแฟลชไดรฟ์ของเธอ!คนปากแข็งฉันเคยพบเจอมาก่อน แต่คนแบบเธอนี่ ฉันเพิ่งเคยเห็นครั้งเเรก"ในขณะนี้ จู่ๆ ถานอวี้เสวี่ยที่ร้องไห้อยู่ตลอดก็เอ่ยปากพูดอย่างอ่อนแอ "แม่คะ แฟลชไดรฟ์นั้นไม่ใช่ของเธอจริงๆ""เสี่ยวเสวี่ย เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วทำไมลูกยังช่วยเธอพูดอีก......""แม่คะ นั่นคือแฟลชไดรฟ์ของหนูเอง" ถานอวี้เสวี่ยเม้มริมฝีปากและร้องไห้ออกมาอีกครั้ง "หนูก็รู้ว่าแฟลชไดรฟ์ของหนูถูกขโมยไปหลังจากที่บริษัทพบว่าแบบร่างแนวคิดถูกรั่วไหล"แม่ถาน "ทำไมลูกถึงพูดเรื่
ในกล้องวงจรปิดมีฉากหนึ่งที่เฮ่อเยียนสือตะโกนให้เธอกลับมา ในขณะที่เธอเดินจากไป เธอเดินเฉียดถานอวี้เสวี่ย ช่องว่างระหว่างทั้งสองห่างเพียงแค่นิดเดียว ในความเร็วปกติจะไม่สามารถดูออกได้เลย แต่ภายใต้ความเร็วที่ช้าลงนั้น การเคลื่อนไหวทั้งหมดจะถูกขยายและไม่มีที่หลบหนีได้และในขณะที่เธอเดินเฉียดกับถานอวี้เสวี่ย เธอรีบยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าของถานอวี้เสวี่ยอย่างรวดเร็ว และหยิบสิ่งของหนึ่งออกมาหากไม่ใช่อวิ๋นซูดูอย่างจริงจัง คงไม่ทันสังเกตเห็นการกระทำนี้จริงๆเมื่อดูมาจนถึงขณะนี้ อวิ๋นซูก็เข้าใจว่าทำไมถานอวี้เสวี่ยถึงสงบได้ขนาดนี้เธอได้วางแผนนี้ต่อกล้องวงจรปิดมานานแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่น่ากลัวเพียงเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือเธอยังมีทักษะอีกด้วยนี่เป็นคู่แข่งที่ยากมากจริงๆเธอยิ้มและจงใจถามว่า "คุณถาน คุณยังดูไม่เสร็จอีกเหรอ?"ถานอวี้เสวี่ยกัดริมฝีปากและมองไปที่แม่ถาน แม่ถานก็หรี่ตามองดูภาพในกล้องวงจรปิด แต่เธอยังไม่ค้นพบความลึกลับในกล้องวงจรปิดเธอจึงกดเล่นอย่างช้าอีกครั้ง"ยังไม่เห็น ฉันขอดูอีกครั้ง"อวิ๋นซูยิ้มเล็กน้อยในเวลานี้ ในที่สุดแม่ถานก็ค้นพบความลึกลับของกล้องวงจรปิ
พ่อเฮ่อฟังแล้วก็แสดงสีหน้าชื่นชมออกมาอย่างที่คาดไว้เมื่อถานอวี้เสวี่ยเห็นจึงหยิกเนื้อต้นขาอย่างแรง รอไม่ไหวที่จะฉีกสีหน้าของอวิ๋นซูเรื่องนี้ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ววิดีโอกล้องวงจรปิดยังคงเล่นต่อไป และในไม่ช้าก็มาถึงช่วงเวลาที่อวิ๋นซูเดินเฉียดถานอวี้เสวี่ยผ่านไปหลี่ชวนชะลอวิดีโอและทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างกลั้นหายใจบนหน้าจอไม่มีฉากที่อวิ๋นซูยื่นมือลงในกระเป๋าถานอวี้เสวี่ยแม่ถานตกตะลึง "สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น?เธอได้ทำอะไรในวิดีโอนี้หรือไม่?"อวิ๋นซูงอริมฝีปาก "คุณป้าให้ความสำคัญฉันมากแล้ว ฉันได้รับวิดีโอนี้ในคืนนั้น และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อก็สามารถตรวจสอบได้"เฮ่อเยียนสือลูบหลังอวิ๋นซูอย่างเบาๆและน้ำเสียงขี้เล่นเล็กน้อย "ผมคิดว่าสิ่งต่าง ๆ มันก็ชัดเจนพอแล้วว่าเสี่ยวซู ไม่ใช่คนทำ"ถานอวี้เสวี่ยกำลังจะทรุดตัวลงเเล้วตามแผนของเธอ การใช้กล้องวงจรปิดจะสามารถตีตราอวิ๋นซูว่าเป็นหัวขโมยและผู้หญิงที่ขี้อิจฉาชั่วร้ายได้ และถึงแม้ว่าเฮ่อเยียนสือจะสามารถอดทนต่ออวิ๋นซูได้ แต่พ่อเฮ่อก็จะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอนแต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นซูจะมีภาพจากกล้องว
อวิ๋นซูเดินเข้ามาใกล้ ๆ เอามือข้างหนึ่งจับแขนของเธอเอาไว้ ทำท่าทางดึงเธอขึ้นมา พร้อมกระซิบข้างหูของเธอว่า: “แน่นอน...พอใจมาก...”ถานอวี้เสวี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วเห็นริมฝีปากของอวิ๋นซูยกขึ้นพอดีนัยน์ตาที่ปั่นป่วน แทบอยากจะบีบคออวิ๋นซูให้ตายเธอจงใจ!ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าเฮ่อเยียนสือจะทำตัวเป็นคนมีเหตุผล แล้วให้แม่ของเธอขอโทษ!อวิ๋นซูไม่สนใจความมาดร้ายที่อยู่ในนัยน์ตาของถานอวี้เสวี่ยเลย และกล่าวว่า“คุณถาน ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ ฉันก็แค่พูดเท่านั้นเอง”พอแม่ของถานอวี้เสวี่ยตั้งสติได้ ก็ผลักอวิ๋นซูออกไป แล้วพยุงถานอวี้เสวี่ย: “เด็กโง่ ลูกไปคุกเข่าให้เธอทำไม... คุณเฮ่อ...”ถานอวี้เสวี่ยกังวลว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอจึงรีบดึงแม่ของตนแล้วรีบจากไปอย่างเร่งรีบคุณพ่อเฮ่อเห็นแค่ด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไปอย่างเร่งรีบ ก็ขี้เกียจที่จะไปถามถานอวี้เสวี่ยว่าทำไมต้องคุกเข่า“เสี่ยวซู เมื่อกี้ทำให้ลูกต้องลำบากใจแล้ว”อวิ๋นซูหันกลับมา แล้วพูดอย่างใจกว้างว่า “คุณพ่ออย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ แค่อธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดใจกันก็พอแล้ว”คุณพ่อเฮ่อมองอวิ๋นซูด้วยความชื่นชม: “อาเหยียนโชคดีที่ได้แต
หลังจากที่เหตุการณ์ฉบับร่างแนวคิดเกิดขึ้นแล้ว ถานอวี้เสวี่ยก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเป็นเวลานาน ในที่สุดอวิ๋นซูก็สามารถท่องเขาลำเนาไพรกับเฮ่อเยียนสือ และมีความสุขในช่วงวันหยุดได้เมื่อเห็นว่าวันเดินทางกลับประเทศใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว อวิ๋นซูก็เริ่มตระเตรียมของขวัญเธอโทรศัพท์ไปหาหลินเหมียวเหมียว: “เหมียวเหมียว ฉันใกล้จะกลับประเทศแล้ว อยากจะให้ฉันซื้ออะไรให้คุณไหม?”พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน การให้ของขวัญจึงดูง่าย ๆ สบาย ๆ ก็คือให้เฉพาะสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการมากที่สุด“ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้มีบริษัทต่างชาติเพิ่งจะพัฒนามือถือรุ่นใหม่ ชื่อ “ดราก้อน” ซึ่งออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ในประเทศ ต้องรอกระแสตอบรับจากตลาดตะวันตกก่อนถึงจะเปิดตัวได้ คุณช่วยฉันเอากลับมาก่อนสักเครื่องได้ไหม”ปกติแล้วหลินเหมียวเหมียวชอบเล่นเกมมาก ดังนั้นจึงไม่ต่อต้าน การโปรโมตโทรศัพท์มือถือที่ออกแบบมาสำหรับเกมโดยเฉพาะอวิ๋นซู: “ได้สิ คุณรอสักครู่ ฉันดูก่อน...”อวิ๋นซูเสิร์ชหา ไม่นานก็พบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นนี้เมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ผลิตโดยวายเอสกรุ๊ป หัวใจอวิ๋นซูก็แทบจะหยุดเต้นเ
ดูเหมือนเขาเป็นน้องชายที่น่ารักติ๊งต๊องคนหนึ่งส่วนถานอวี้เสวี่ยก็ทำตัวเหมือนคนบ้องแบ๊วไร้สมอง ความระมัดระวังในใจของอวิ๋นซูยังไม่หมดไป แต่ก็ยังคงเชิญเขาเข้ามาในห้องอย่างสุภาพถานอี้เข้ามาในห้อง ด้วยความเก้ๆกังๆเล็กน้อย“ไม่เป็นไร เชิญนั่งได้ตามสบาย”“ห้องนี้ตกแต่งอย่างอบอุ่นมาก คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า พี่อาเยียนแต่งงานแล้วจริง ๆ ”อวิ๋นซูยิ้มพร้อมส่งน้ำหนึ่งแก้วให้เขา: “ทำไมเหรอ? เขาดูไปแล้วเหมือนคนไร้คู่ครองงั้นเหรอ?”“ไม่ใช่ครับ พี่อาเยียนเป็นคนบ้างานมาตั้งแต่สมัยเรียน ดูเหมือนว่านอกจากงานแล้ว ไม่มีอะไรจะดึงดูดความสนใจของเขาได้เลย”อวิ๋นซู: “เริ่มทำงานตั้งแต่เรียนหนังสือเลยเหรอ?”ถานอี้ตระหนักว่าตนได้พูดผิดไป จึงก้มหน้าลงพร้อมกับหน้าแดง ๆ แล้วพูดว่า “เอ่อ...คือพี่อาเยียน...ทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนที่เขาเรียนอยู่”สิ่งที่เรียกว่าธุรกิจเล็ก ๆ หมายถึงการเริ่มดูแลบริษัทตอนอายุสิบสองขวบ และทำให้บริษัทมีชื่อเสียงในอี้โจว ภายในหนึ่งปีหลาย ๆ คนไม่รู้ว่า สาเหตุที่เอสวายจู่ ๆก็ผงาดขึ้นมา กลายเป็นบริษัทในเครือที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ก็เป็นเพราะว่าเฮ่อเยียนสือได้วางเค้าโครงเอาไว้แล้ว
ถานอี้ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อยทั้งสองคนนัดออกเดินทางพร้อมกันวันที่ 19หลังจากที่ส่งถานอี้ออกไปแล้ว อวิ๋นซูก็รู้สึกเบิกบานใจทันทีคราวนี้ เธอไม่เพียงแต่เอาโทรศัพท์มือถือกลับไปให้หลินเหมียวเหมียวได้ แต่เธอยังสามารถพบกับอารองเฮ่อหย่วนเจ๋ออีกด้วยเธอฮัมเพลง เดินเข้าไปในครัว และเริ่มเตรียมอาหารเย็นไม่รู้ว่าช่วงนี้เฮ่อเยียนสือกำลังยุ่งอะไรอยู่ เขามักจะออกไปข้างนอกตอนบ่าย และกลับมาตอนกินข้าวเย็นอวิ๋นซูไม่เคยตรวจเขาเลย เพราะเชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ประตูเปิดออก เฮ่อเยียนสือที่รูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา ก็เห็นอวิ๋นซูกำลังยุ่งอยู่ในครัวพอดีหัวใจของเขาพองโตทันที เดินเข้ามาประชิดตัว แล้วกอดอวิ๋นซูจากด้านหลังอวิ๋นซูตกใจมาก พอหันกลับไปก็เห็นเฮ่อเยียนสือ จึงดุว่า: “ทำไมมาไม่ให้สุ้มให้เสียง?”“กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” เฮ่อเยียนสือเอื้อมมือไปยกฝาหม้อขึ้น กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยออกมา“ไข่ผัดมะเขือเทศ” อวิ๋นซูผลักเฮ่อเยียนสือออกไป “คุณออกไปเถอะ อย่ามาก่อกวน”เฮ่อเยียนสือยืนอยู่ที่ประตู โดยที่ไม่ขยับเขยื้อน: “จูบผมก่อน แล้วผมจะออกไป”อวิ๋นซูหมดคำพูด หันกลับไปผัดกับข้าว: “วันนี้ถาน