พ่อเฮ่อฟังแล้วก็แสดงสีหน้าชื่นชมออกมาอย่างที่คาดไว้เมื่อถานอวี้เสวี่ยเห็นจึงหยิกเนื้อต้นขาอย่างแรง รอไม่ไหวที่จะฉีกสีหน้าของอวิ๋นซูเรื่องนี้ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ววิดีโอกล้องวงจรปิดยังคงเล่นต่อไป และในไม่ช้าก็มาถึงช่วงเวลาที่อวิ๋นซูเดินเฉียดถานอวี้เสวี่ยผ่านไปหลี่ชวนชะลอวิดีโอและทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างกลั้นหายใจบนหน้าจอไม่มีฉากที่อวิ๋นซูยื่นมือลงในกระเป๋าถานอวี้เสวี่ยแม่ถานตกตะลึง "สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น?เธอได้ทำอะไรในวิดีโอนี้หรือไม่?"อวิ๋นซูงอริมฝีปาก "คุณป้าให้ความสำคัญฉันมากแล้ว ฉันได้รับวิดีโอนี้ในคืนนั้น และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อก็สามารถตรวจสอบได้"เฮ่อเยียนสือลูบหลังอวิ๋นซูอย่างเบาๆและน้ำเสียงขี้เล่นเล็กน้อย "ผมคิดว่าสิ่งต่าง ๆ มันก็ชัดเจนพอแล้วว่าเสี่ยวซู ไม่ใช่คนทำ"ถานอวี้เสวี่ยกำลังจะทรุดตัวลงเเล้วตามแผนของเธอ การใช้กล้องวงจรปิดจะสามารถตีตราอวิ๋นซูว่าเป็นหัวขโมยและผู้หญิงที่ขี้อิจฉาชั่วร้ายได้ และถึงแม้ว่าเฮ่อเยียนสือจะสามารถอดทนต่ออวิ๋นซูได้ แต่พ่อเฮ่อก็จะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอนแต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นซูจะมีภาพจากกล้องว
อวิ๋นซูเดินเข้ามาใกล้ ๆ เอามือข้างหนึ่งจับแขนของเธอเอาไว้ ทำท่าทางดึงเธอขึ้นมา พร้อมกระซิบข้างหูของเธอว่า: “แน่นอน...พอใจมาก...”ถานอวี้เสวี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วเห็นริมฝีปากของอวิ๋นซูยกขึ้นพอดีนัยน์ตาที่ปั่นป่วน แทบอยากจะบีบคออวิ๋นซูให้ตายเธอจงใจ!ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าเฮ่อเยียนสือจะทำตัวเป็นคนมีเหตุผล แล้วให้แม่ของเธอขอโทษ!อวิ๋นซูไม่สนใจความมาดร้ายที่อยู่ในนัยน์ตาของถานอวี้เสวี่ยเลย และกล่าวว่า“คุณถาน ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ ฉันก็แค่พูดเท่านั้นเอง”พอแม่ของถานอวี้เสวี่ยตั้งสติได้ ก็ผลักอวิ๋นซูออกไป แล้วพยุงถานอวี้เสวี่ย: “เด็กโง่ ลูกไปคุกเข่าให้เธอทำไม... คุณเฮ่อ...”ถานอวี้เสวี่ยกังวลว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอจึงรีบดึงแม่ของตนแล้วรีบจากไปอย่างเร่งรีบคุณพ่อเฮ่อเห็นแค่ด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไปอย่างเร่งรีบ ก็ขี้เกียจที่จะไปถามถานอวี้เสวี่ยว่าทำไมต้องคุกเข่า“เสี่ยวซู เมื่อกี้ทำให้ลูกต้องลำบากใจแล้ว”อวิ๋นซูหันกลับมา แล้วพูดอย่างใจกว้างว่า “คุณพ่ออย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ แค่อธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดใจกันก็พอแล้ว”คุณพ่อเฮ่อมองอวิ๋นซูด้วยความชื่นชม: “อาเหยียนโชคดีที่ได้แต
หลังจากที่เหตุการณ์ฉบับร่างแนวคิดเกิดขึ้นแล้ว ถานอวี้เสวี่ยก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเป็นเวลานาน ในที่สุดอวิ๋นซูก็สามารถท่องเขาลำเนาไพรกับเฮ่อเยียนสือ และมีความสุขในช่วงวันหยุดได้เมื่อเห็นว่าวันเดินทางกลับประเทศใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว อวิ๋นซูก็เริ่มตระเตรียมของขวัญเธอโทรศัพท์ไปหาหลินเหมียวเหมียว: “เหมียวเหมียว ฉันใกล้จะกลับประเทศแล้ว อยากจะให้ฉันซื้ออะไรให้คุณไหม?”พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน การให้ของขวัญจึงดูง่าย ๆ สบาย ๆ ก็คือให้เฉพาะสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการมากที่สุด“ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้มีบริษัทต่างชาติเพิ่งจะพัฒนามือถือรุ่นใหม่ ชื่อ “ดราก้อน” ซึ่งออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ในประเทศ ต้องรอกระแสตอบรับจากตลาดตะวันตกก่อนถึงจะเปิดตัวได้ คุณช่วยฉันเอากลับมาก่อนสักเครื่องได้ไหม”ปกติแล้วหลินเหมียวเหมียวชอบเล่นเกมมาก ดังนั้นจึงไม่ต่อต้าน การโปรโมตโทรศัพท์มือถือที่ออกแบบมาสำหรับเกมโดยเฉพาะอวิ๋นซู: “ได้สิ คุณรอสักครู่ ฉันดูก่อน...”อวิ๋นซูเสิร์ชหา ไม่นานก็พบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นนี้เมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ผลิตโดยวายเอสกรุ๊ป หัวใจอวิ๋นซูก็แทบจะหยุดเต้นเ
ดูเหมือนเขาเป็นน้องชายที่น่ารักติ๊งต๊องคนหนึ่งส่วนถานอวี้เสวี่ยก็ทำตัวเหมือนคนบ้องแบ๊วไร้สมอง ความระมัดระวังในใจของอวิ๋นซูยังไม่หมดไป แต่ก็ยังคงเชิญเขาเข้ามาในห้องอย่างสุภาพถานอี้เข้ามาในห้อง ด้วยความเก้ๆกังๆเล็กน้อย“ไม่เป็นไร เชิญนั่งได้ตามสบาย”“ห้องนี้ตกแต่งอย่างอบอุ่นมาก คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า พี่อาเยียนแต่งงานแล้วจริง ๆ ”อวิ๋นซูยิ้มพร้อมส่งน้ำหนึ่งแก้วให้เขา: “ทำไมเหรอ? เขาดูไปแล้วเหมือนคนไร้คู่ครองงั้นเหรอ?”“ไม่ใช่ครับ พี่อาเยียนเป็นคนบ้างานมาตั้งแต่สมัยเรียน ดูเหมือนว่านอกจากงานแล้ว ไม่มีอะไรจะดึงดูดความสนใจของเขาได้เลย”อวิ๋นซู: “เริ่มทำงานตั้งแต่เรียนหนังสือเลยเหรอ?”ถานอี้ตระหนักว่าตนได้พูดผิดไป จึงก้มหน้าลงพร้อมกับหน้าแดง ๆ แล้วพูดว่า “เอ่อ...คือพี่อาเยียน...ทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนที่เขาเรียนอยู่”สิ่งที่เรียกว่าธุรกิจเล็ก ๆ หมายถึงการเริ่มดูแลบริษัทตอนอายุสิบสองขวบ และทำให้บริษัทมีชื่อเสียงในอี้โจว ภายในหนึ่งปีหลาย ๆ คนไม่รู้ว่า สาเหตุที่เอสวายจู่ ๆก็ผงาดขึ้นมา กลายเป็นบริษัทในเครือที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ก็เป็นเพราะว่าเฮ่อเยียนสือได้วางเค้าโครงเอาไว้แล้ว
ถานอี้ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อยทั้งสองคนนัดออกเดินทางพร้อมกันวันที่ 19หลังจากที่ส่งถานอี้ออกไปแล้ว อวิ๋นซูก็รู้สึกเบิกบานใจทันทีคราวนี้ เธอไม่เพียงแต่เอาโทรศัพท์มือถือกลับไปให้หลินเหมียวเหมียวได้ แต่เธอยังสามารถพบกับอารองเฮ่อหย่วนเจ๋ออีกด้วยเธอฮัมเพลง เดินเข้าไปในครัว และเริ่มเตรียมอาหารเย็นไม่รู้ว่าช่วงนี้เฮ่อเยียนสือกำลังยุ่งอะไรอยู่ เขามักจะออกไปข้างนอกตอนบ่าย และกลับมาตอนกินข้าวเย็นอวิ๋นซูไม่เคยตรวจเขาเลย เพราะเชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ประตูเปิดออก เฮ่อเยียนสือที่รูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา ก็เห็นอวิ๋นซูกำลังยุ่งอยู่ในครัวพอดีหัวใจของเขาพองโตทันที เดินเข้ามาประชิดตัว แล้วกอดอวิ๋นซูจากด้านหลังอวิ๋นซูตกใจมาก พอหันกลับไปก็เห็นเฮ่อเยียนสือ จึงดุว่า: “ทำไมมาไม่ให้สุ้มให้เสียง?”“กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” เฮ่อเยียนสือเอื้อมมือไปยกฝาหม้อขึ้น กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยออกมา“ไข่ผัดมะเขือเทศ” อวิ๋นซูผลักเฮ่อเยียนสือออกไป “คุณออกไปเถอะ อย่ามาก่อกวน”เฮ่อเยียนสือยืนอยู่ที่ประตู โดยที่ไม่ขยับเขยื้อน: “จูบผมก่อน แล้วผมจะออกไป”อวิ๋นซูหมดคำพูด หันกลับไปผัดกับข้าว: “วันนี้ถาน
ในช่วงเริ่มการของการแถลงข่าว ทุกคนในงานถูกขอให้ปิดโทรศัพท์มือถือ และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปอวิ๋นซูปิดโทรศัพท์ ถึงเห็นถานอี้กลับมา สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก แต่ดูไปแล้ววิตกกังวลมาก“ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?” อวิ๋นซูหยิบยาแก้ปวดออกมาจากในกระเป๋า “คุณกินยาอันนี้ก่อนไหม?”ถานอี้โบกไม้โบกมือแล้วยิ้มอย่างขมขื่น: “ผมไม่เป็นไร”โชคดีที่ในเวลานี้ผู้จัดการที่รับผิดชอบดราก้อนขึ้นมาบนเวที และดึงดูดความสนใจของอวิ๋นซู ถานอี้จึงมีโอกาสได้หายใจหายคอบ้างไม่รู้ว่าพี่สาวได้บอกพี่อาเยียนหรือเปล่าเขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก แม้แต่ฟังแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดก็ฟังไม่เข้าหูด้านหลังเวทีหลี่ชวนเดินเข้ามา: “ใกล้จะถึงคิวท่านประธานแล้วครับ พวกคุณต้องเก็บความลับไว้ให้ดี ได้ยินไหม?”ทุกคนที่อยู่ด้านหลังเวทีหยุดเคลื่อนไหว และพยักหน้าพร้อมกันคนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องใต้อาณัติเก่าของหลี่ชวน เรื่องความสามารถในการทำงานของพวกเขา หลี่ชวนไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยเขาหันกลับมา เพิ่งจะเดินไปเพียงสองก้าว: “โอ้ ใช่แล้ว เอาแบบฟอร์มลงทะเบียนมาให้ฉันดูหน่อย”พนักงานที่รับผิดชอบการลงทะเบียนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ส่งแบบฟอร์มลงทะเบีย
อวิ๋นซูเคาะประตู และสายตาของทุกคนที่ยุ่งอยู่หลังเวทีก็ได้มองไปที่เธออวิ๋นซูรวบรวมความกล้าและถามว่า "ขอโทษนะคะ ประธานของ SY อยู่ที่ไหน?"ทุกคนมองหน้ากันและกันหลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้ามา "คุณคืออวิ๋นซู คุณอวิ๋นใช่ไหมคะ?"อวิ๋นซู "คุณรู้จักฉันด้วยหรอ?"แต่เธอกลับไม่คุ้นเคยกับคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย"นี่คือสิ่งที่ประธานขอให้ฉันมอบให้คุณค่ะ" พนักงานหยิบกล่องโทรศัพท์มือถือสามกล่องที่บรรจุอย่างสวยงามและส่งไปที่อวิ๋นซู" ประธานยังกล่าวอีกว่า "ฉันขอให้คุณมีความสุขในงานแต่งงาน""เขารู้ว่าฉันมีรูปร่างหน้าเป็นแบบไหน?" อวิ๋นซูรู้สึกถูกเอ็นดูแบบไม่คาดคิดพนักงานไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้นอวิ๋นซูถือถุงของขวัญ หัวใจของเธอเต้นแรงขณะที่เฮ่อเยียนสือดูวิดีโอวงจรปิดอยู่ภายในรถ จู่ๆ ดวงตาก็ถูกย้อมด้วยความพร่ามัวแม้แต่หลี่ชวนที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าอุณหภูมิภายในรถลดลงอย่างรวดเร็ว"ไปตรวจสอบทันทีว่าทำไมถึงไม่มีชื่ออวิ๋นซูอยู่ในแบบฟอร์มลงทะเบียน"เฮ่อเยียนสือปิดวิดีโอวงจรปิดและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ครับ"......เมื
"ฮือๆ เพื่อนรัก ฉันรักเธอมากนะ เมื่อไหร่เธอจะกลับมาซักที ฉันจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เธอเลย""เร็วๆ นี้แหละ ฉันจะกลับไปในอีกไม่กี่วัน""นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะได้โทรศัพท์มือถือเร็วๆ นี้นะ ว้าว และฉันยังเป็นคนที่สามในประเทศจีนที่ได้รับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดราก้อนอีกด้วย นึกนึกดูแล้วก็น่าตื่นเต้นดีนะ ถ้าฉันกลับไปทำงานที่บริษัทได้ ฉันจะวางโชว์โทรศัพท์มือถือของฉันทุกวันให้พวกเขาดูและให้พวกเขาอิจฉากันไปเลย"อวิ๋นซูยิ้มและเก็บโทรศัพท์ของหลินเหมียวเหมียวไว้"เพื่อนรัก เธอเตรียมของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่แล้วหรือยัง?"ทันทีที่อวิ๋นซูกำลังจะตอบ ก็เห็นเฮ่อเยียนสือเปิดประตูและเข้ามาอวิ๋นซูทักทายเฮ่อเยียนสือแล้วพูดคุยกับหลินเหมียวเหมียว ต่อไป "ฉันยังไม่คิดออกเลย เมื่อวานนี้ฉันถามแผนกออกแบบที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่แล้ว เพราะฉนั้นแล้ว ฉันคิดว่าซื้อเครื่องสำอางค์ให้จะดีกว่าไหมนะ?"เมื่อเฮ่อเยียนสือมองดูอวิ๋นซูที่พูดคุยกับหลินเหมียวเหมียวหัวใจก็มีชีวิตชีวามากขึ้นเขาเดินไปที่โต๊ะกาแฟและจงใจทำการเคลื่อนไหวอวิ๋นซูไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย "ถ้าเป็นผู้ชายจะให้เครื่องเล่นเกมส์"หลินเหมียวเหมียว "