เมื่อเฮ่อเยียนสือมาถึงวิลล่ากลางภูเขาของเฮ่อกรุ๊ป เฮ่อหย่วนเจ๋อเพิ่งคุยกับชายชราเสร็จและกำลังออกจากห้องมาเขาไม่สนใจมากนัก “อารองครับ”เฮ่อเยียนสือพยักหน้าเล็กน้อย “ปู่นายเรียกมามีอะไรรึเปล่า? ”เฮ่อหย่วนเจ๋อไม่พอใจมาก “คุณปู่ขอให้ผมเลิกตามหาสามีของอวิ๋นซูอีก”เฮ่อเยียนสือเลิกคิ้ว แล้วได้ยินเฮ่อหย่วนเจ๋อพูดอีกว่า “บอกว่าแบบนี้จะส่งผลต่อผมในการตามจีบอวิ๋นซู”เฮ่อเยียนสือ “......”“คุณชายรองครับ” พ่อบ้านก้าวไปข้างหน้า “นายท่านกำลังรอคุณอยู่ข้างในครับ”เฮ่อเยียนสือส่งเสียง อืม เบา ๆ แต่ก็มองไม่ออกว่าตอนนี้เขามีอารมณ์แบบไหนอยู่หลังจากเข้าไปในห้องหนังสือ คุณท่านเฮ่อก็รีบเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ เฮ่อเยียนสือก็ทักทายเขา“ลุงรองครับ”คุณท่านเฮ่อยิ้มแล้วพูดว่า “มาแล้วเหรอ มา ๆ นั่งลง”เฮ่อเยียนสือนั่งลงตรงข้ามชายชราอย่างสงบ“วันมะรืนนี้ฉันก็จะไปพบสามีของเสี่ยวซูแล้ว” ชายชราพูดพร้อมพิงไม้เท้าและยืนขึ้น “ทางฝั่งเธอมีข่าวเกี่ยวกับเขาบ้างไหม? ”เฮ่อเยียนสือพยักหน้า“โอ้ ขนาดเธอยังสืบไม่เจอ เกรงว่าคน ๆ นี้จะไม่ธรรมดาจริง ๆ” ชายชรามองเฮ่อเยียนสือ “เยียนสือ วันมะรืนนี้เธอว่างไหม? ”เฮ่อเยี
พ่อบ้านรีบขอให้พนักงานโรงแรมเตรียมชุดน้ำชาและใบชาให้อวิ๋นซูถือโอกาสส่งข้อความถึงเฮ่อเยียนสือ [คุณปู่มาถึงแล้ว คุณต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน? ]เฮ่อเยียนสือไม่ตอบกลับพนักงานได้นำเครื่องมือขึ้นมาให้แล้วอวิ๋นซูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดคิดและมุ่งความสนใจไปที่การชงชาให้กับชายชราการชงชาครั้งนี้ค่อนข้างที่จะชำนาญและไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อยชาที่พนักงานนำมาให้คือชาผู๋เอ๋อที่คั่วสุกแล้วอวิ๋นซูหยิบกาดินเผาขึ้นมาแล้วใส่ใบชาลงไป เมื่อเทน้ำเดือดลงไป ใบชาก็ลอยขึ้นมา กลิ่นหอมของชาก็อบอวลไปทั่วห้องอวิ๋นซูรีบเทชาและสะเด็ดน้ำออกอีกครั้งรอถึงครั้งที่สาม จึงค่อยเทใส่ถ้วยดินเผาสีของชามีสีดำและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ“คุณปู่คะ เชิญค่ะ”ชายชราหยิบถ้วยชาขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม จิบแล้วพูดอย่างพอใจ “ชาที่เสี่ยวซูชงนั้นอร่อยมาก”อวิ๋นซูพูดอย่างถ่อมตัว “คุณปู่นี่ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ”ชายชราโบกมือ “ปู่ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย เด็กแบบหลานเนี่ย คุณปู่รู้จักดีเลยแหละ พยายามทำให้ดีที่สุดในทุกสิ่ง ดูจากการชงชาครั้งนี้เป็นตัวอย่าง ผู้เชี่ยวชาญอาจไม่สามารถทำได้ดีไปกว่าหลานเลยด้วยซ้ำ”“คุณปู่...... ”ชายชรา
อวิ๋นซูเร่งเดินไปหาเฮ่อเยียนสือแล้วยื่นมือออกมา “เอกสารอยู่ที่ไหน? ”เฮ่อเยียนสือก้มศีรษะลงแล้วมองดูนิ้วเรียวสวยที่อยู่ตรงหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเหมือนแมว “อยู่ในรถ”“อ๋อ” ฝ่ามือของอวิ๋นซูชา แต่เธอก็ไม่ขัดขืน เธอยิ้มและถามต่อว่า “ลูกน้องของคุณหน้าตาเป็นยังไง? ”“หนึ่งจมูก สองตา และหนึ่งปาก”อวิ๋นซูหัวเราะเบา ๆ “พูดจริงใช่ไหมเนี่ย ถ้าฉันจำคนผิดล่ะ จะทำยังไง? ”“เขาจำคุณไม่ผิดแน่” เฮ่อเยียนสือมอบกุญแจให้อวิ๋นซู “ผมจะขึ้นไปก่อน คุณรอจนกว่าเขาจะมาถึง แล้วคุณค่อยขึ้นไปนะ”“ได้”อวิ๋นซูพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและมองดูเฮ่อเยียนสือค่อย ๆ ห่างออกไป เธอถึงได้เข้าไปนั่งในรถ แล้วรออย่างอดทน......ลิฟต์หยุดที่ชั้นสาม เฮ่อเยียนสือก็เดินไปที่ห้องส่วนตัวหัวใจ เกิดความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาหัวเราะกับตัวเองในอดีตเมื่อเราพูดถึงธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านหรือหลายแสนล้าน ก็ไม่เคยต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขามเท่ากับตอนนี้มาก่อนเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?เขาเดินไปที่ประตูห้องส่วนตัวแล้วเคาะประตูประตูเปิดอยู่เมื่อพ่อบ้านโจวมองเห็นคนที่อยู่นอกประตู ที่แท้ก็เป็นเฮ่อเยีย
ตระกูลเมิ่งก็กลายเป็นตัวตลกด้วยเช่นกันเขามาวันนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะระบายความอัดอั้นคุณท่านเฮ่อขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “ฉันพูดถึงแค่เรื่องนัดบอดเท่านั้น แต่หลังจากเยียนสือแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย ยิ่งไปกว่านั้นที่ฉันพูดถึงก็คือนัดบอด ไม่ได้พูดถึงอะไรที่มันจริงจังด้วยซ้ำ พวกเธอคิดว่าเป็นเรื่องการแต่งงานไปได้ยังไง? ”เมิ่งฮ่าวหยางพูดไม่ออก แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ที่ต้องกลั้นลมหายใจนี้ไว้ในอกของเขา“อย่างน้อยก็ควรจะได้รับการชดเชยบ้างสิ” เมิ่งฮ่าวหยางมองเฮ่อเยียนสือ “ต่อให้คุณชายรองจะแต่งงานแล้ว แต่ตอนนี้เขาเองก็ดูแลธุระกิจหลักอยู่ในประเทศ ผู้ชายน่ะ มีแนวโน้มที่จะเหงาบ่อยอยู่แล้ว ไม่สู้......แต่งงานเพิ่มอีกสักคนเป็นไง”เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ผลักเมิ่งเหยาไปทางเฮ่อเยียนสือเมิ่งเหยาก้มศีรษะอย่างเขินอาย และใช้โอกาสนี้ปล่อยให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเฮ่อเยียนสือเฮ่อเยียนสือขยับตัวหลบไปด้านข้างเมิ่งเหยาสดุดกลางอากาศจนเกือบจะล้มหลังจากเธอยืนหยัดได้ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงที่เรียบเฉยของเฮ่อเยียนสือ“ภรรยาผมไม่เห็นด้วย ผมไม่กล้าแต่งงานใหม่”คำว่า “ภรรยา” สองคำออกมาจา
เมิ่งเหยาเพิ่งจะรู้สึกหงุดหงิดกับเฮ่อเยียนสือมา ตอนนี้เมื่อเธอเห็นอวิ๋นซู ดูเหมือนว่าเธอจะพบกับกระสอบทรายแล้ว เธอคว้าแขนของอวิ๋นซูโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วถามว่า“เธอมาที่นี่ก็เพื่อหลอกล่ออารองของเฮ่อหย่วนเจ๋ออีกแล้วใช่ไหม?! ”อวิ๋นซูเอียงศีรษะ เหลือบมองแขนที่เมิ่งเหยาคว้าไว้อย่างเจ็บปวด แล้วพูดอย่างเย็นชา “ปล่อย! ”เมิ่งเหยาที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นถ้าเธอไม่ได้ อวิ๋นซูก็ไม่มีสิทธ์ที่จะได้เหมือนกัน?เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมปล่อย อวิ๋นซูก็คว้ามือเมิ่งเหยา และจิกเล็บของเธอลงไปเมิ่งเหยารู้สึกเจ็บปวด จึงได้ผลักอวิ๋นซูออกไป เธอมองดูลายนิ้วมือลึกบนข้อมือของตัวเอง เธอก็พยายามตะครุบอวิ๋นซูอีกครั้งอวิ๋นซูหลบหลีก เงยหน้าขึ้นมองกล้องที่อยู่ไม่ไกล และพูดเตือนว่า “คุณเมิ่งคะ ให้ความสนใจกับภาพลักษณ์ของคุณด้วยค่ะ”เมิ่งฮ่าวหยางตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่อาณาเขตของพวกเขา คงจะไม่ดีหากพฤติกรรมของเมิ่งเหยาถูกเปิดเผยออกไป ดังนั้นเขาจึงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเมิ่งเหยา“เสี่ยวเหยา” เมิ่งฮ่าวหยางพูดอย่างดูถูก “ลงมือกับคนประเภทนี้ก็เท่ากับเรากำลังด้อยค่าตัวเอง พวกเราไปกันเถอะ”เมิ่งเหยาปฏิ
อวิ๋นซูไม่สนใจอะไรมากนักนอกจากชายชรา เธอก็ไม่ให้ความสนใจกับใครเลย“ไม่พูดกับเธอต่อแล้ว ฉันจะโทรหาคนขับรถละ”อวิ๋นซูวางสายโทรศัพท์แล้วเรียกคนขับโชคดีที่ยังอยู่ในเขตเมือง ไม่นานก็มีคนรับออเดอร์ตอนที่อวิ๋นซูกลับถึงเป่ยเฉิง เวลาก็ปาไปห้าโมงกว่าแล้วท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง พระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกลงเหนือภูเขาทีละน้อย รู้สึกเงียบสงบและสวยงามอย่างไรก็ตาม อารมณ์ของเธอกลับไม่สงบเมื่อกลับถึงบ้าน เห็นรองเท้าแตะผู้ชายวางอยู่บนชั้นวางรองเท้า เธอก็รู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นเธอทำได้แค่เก็บรองเท้าไว้ในตู้ทันทีที่เธอนั่งลง ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านโจว“คุณผู้ดูแลโจว โทรหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ? ”“คุณอวิ๋น คุณกลับมาที่เป่ยเฉิงแล้วหรือยังครับ? ”“อืม ฉันเพิ่งกลับมาค่ะ”“คุณท่านอยากให้คุณไปที่โรงพยาบาลหน่อยน่ะครับ”อวิ๋นซูนึกถึงคำพูดของหลินเหมียวเหมียว หัวใจของเธอก็เต้นรัว และเธอก็โพล่งออกมา “คุณปู่สบายดีใช่ไหมคะ? ”“ไม่ใช่คุณท่านหรอกครับ” พ่อบ้านโจวเดาว่าเธอได้ยินอะไรบางอย่างมาบ้างแล้ว เขาจึงไม่ได้ปิดบัง “เป็นนายน้อยที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ ตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล”อวิ๋นซูอยาก
อวิ๋นซูมองกลับมาที่เขา “มีอะไรรึไง? ”“ไม่ใช่ว่าคุณรับปากกับคุณปู่ว่าจะดูแลผมแล้วหรอกเหรอ? ” เฮ่อหย่วนเจ๋อจ้องมองอวิ๋นซูอย่างกังวล “คุณคงจะไม่กลับคำหรอกใช่ไหม? ”อวิ๋นซูไม่ต้องการที่จะสนใจเขา เธอเดินออกไปถามบอดี้การ์ดว่าห้องครัวอยู่ที่ไหนบอดี้การ์ดพาอวิ๋นซูไปที่ห้องครัวห้องครัวเต็มไปด้วยผัก ไก่ เป็ด และปลาทุกชนิด อีกทั้งยังล้างทำความสะอาดมาแล้วเรียบร้อย อวิ๋นซูมีหน้าที่แค่ต้องใส่มันลงไปในหม้อแล้วปรุงเท่านั้นเมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนดูแลอาหารทั้งสามมื้อในแต่ละวันของเฮ่อหย่วนเจ๋อ เธอรู้ดีว่ารสชติที่เฮ่อหย่วนเจ๋อชอบต้องเป็นยังไง แต่ตอนนี้ อวิ๋นซูไม่ต้องการทำตามความชอบของเฮ่อหย่วนเจ๋อเธอทำตามความชอบของเธอ!ครึ่งชั่วโมงต่อมา บอดี้การ์ดก็ยกอาหารมาสองอย่างจานที่หนึ่งเป็นกะหล่ำปลีต้ม และอีกจากหนึ่งก็ยังเป็นกะหล่ำปลีต้มอยู่ดีใบหน้าของเฮ่อหย่วนเจ๋อดูแย่มาก “ยังมีอย่างอื่นอีกไหม? ”“ไม่มีแล้ว” อวิ๋นซูนำกะหล่ำปลีต้มที่เธอแบ่งไว้ส่วนหนึ่งมา นั่งลงหน้าโต๊ะชา และเริ่มกินช้า ๆเธอยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน ตอนนี้เองก็ยังไม่อยากอาหาร เธอจึงปรุงกะหล่ำปลีต้มไว้สองส่วนเฮ่อหย่วนเจ๋อโกรธมากจนอยา
เฮ่อเยียนสือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์“ส่งบลูมูนมาหน่อย”เย่ชางแหยนแทบหายใจไม่ทันปัจจุบันบลูมูนเป็นแหวนเพชรที่แพงที่สุดในโลกเพื่อเป็นการขอบที่คุณแม่เฮ่อคอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาโดยตลอด พ่อเฮ่อใช้เงินกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อแหวนเพชรนี้ให้ ก่อนที่แม่เหอจะเสียชีวิต เธอก็ได้มอบแหวนเพชรทิ้งไว้ให้พ่อเฮ่อ โดยบอกว่าเป็นแหวนสำหรับลูกสะใภ้ในอนาคตนี่เฮ่อเยียนสือคิดจะ......พ่อเหอที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน “ได้ ได้ ได้ พ่อจะจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อส่งกลับไปให้เดี๋ยวนี้เลย! ”......โรงพยาบาลเฮ่อหย่วนเจ๋อกินกะหล่ำปลีต้มเสร็จด้วยความไม่พอใจอวิ๋นซูรอให้บอดี้การ์ดเก็บชามและตะเกียบออกไป แล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งเฮ่อหย่วนเจ๋อโพล่งออกมา “คุณจะไปไหนอีกเหรอ? ”อวิ๋นซู “กลับบ้าน”“แต่คุณปู่ขอให้คุณดูแลผมนะ”“คุณปู่แค่ขอให้ฉันดูแลมื้ออาหารของคุณสามมื้อต่อวันเท่านั้น ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะนำอาหารมาส่งให้คุณนะคะ”อารมณ์ผิดหวังของเฮ่อหย่วนเจ๋อดีขึ้นทันทีเขายังบอกอีกว่า อวิ๋นซูจะต้องทำอาหารที่อร่อยให้เขาอย่างแน่นอนหลังจากที่อวิ