All Chapters of ไวทยนาคราชสะท้านฟ้า: Chapter 21 - Chapter 30
150 Chapters
บทที่ 21
หลินเซียวไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของซูหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ดีๆ ก็ยื่นทิชชูเปียกให้เขาใช้ทำอะไร?ซูหว่านเอ๋อร์เห็นท่าทางประหลาดใจของหลินเซียว ใบหน้ารูปไข่ก็แดงก่ำขึ้นมาในทันที “คุณลองไปส่องกระจกดูสิ ริมฝีปากมีลิปสติกของฉันติดอยู่ คุณรีบเช็ดออกเถอะ ถ้าถูกใครเห็นเข้า เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์เอาได้นะ!”หลังจากที่ซูหว่านเอ๋อร์พูดจบ เธอก็ปลดล็อกและเปิดประตูออฟฟิศแล้วเดินออกไปหลินเซียวมองแผ่นหลังอันงดงามของซูหว่านเอ๋อร์จนอดไม่ได้ที่จะมีความสุขในหัวของเขาผุดประโยคหนึ่งขึ้นมาทันใด นั่นก็คือ ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงไว้อยู่เสมอความสุขที่มาอย่างกะทันหันนี้ ช่างไม่เลวเสียจริงในโซนทำงานของบริษัท แม้ว่าทุกคนจะดูยุ่งกับงานในมือ แต่ก็ยังแอบนินทากันลับหลังเรื่องที่เสวนากันระหว่างเพื่อนร่วมงาน หนีไม่พ้นเรื่องเดียวนั่นก็คือ หลินเซียว หวังม่านหนีและจ้าวเสี่ยวเลี่ยง“ตามที่ฉันเห็นนะ หวังม่านหนีทิ้งหลินเซียวก็เพื่อจ้าวเสี่ยวเลี่ยงแน่นอน พวกเธอเห็นแล้วหรือเปล่า? ตอนที่หวังม่านหนีเพิ่งเดินเข้ามากับจ้าวเสี่ยวเลี่ยง เดินควงแขนจ้าวเสี่ยวเลี่ยงมาเชียวล่ะ!”“ต้องใช่แน่ๆ ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ พวกเธอไม่เห็นใ
Read more
บทที่ 22
เขาบังเอิญเห็นหลินเซียวปรากฏกายอยู่ด้านหลังของซูหว่านเอ๋อร์ไอ้คนจนไปยืนทำอะไรอยู่ด้านหลังของประธานสาวสวย?หลินเซียวที่เพิ่งถูกสวมเขาไป ยังมีอารมณ์ไปฟ้องประธานบริษัท?ทั้งออฟฟิศไม่ได้มีแค่จางเทาคนเดียวที่คิดแบบนี้แม้แต่พนักงานทุกคน รวมถึงหวังม่านหนีและจ้าวเสี่ยวเลี่ยงต่างก็คิดแบบนี้เช่นกันทว่าสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงคือหลังจากซูหว่านเอ๋อร์กวาดสายตาไปจนทั่วแล้ว ในที่สุดสายตาก็มาหยุดที่หลินเซียว“ฉันมาประกาศเรื่องสำคัญให้ทุกคนได้รู้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลินเซียว ประธานหลิน ก็คือประธานกรรมการบริหารของบริษัทพวกเรา ทุกคนปรบมือ!”เมื่อสิ้นเสียงของซูหว่านเอ๋อร์ ทั้งโซนทำงานเงียบสงัดเงียบราวกับว่าเข็มหล่นตกพื้นก็ยังได้ยินเสียงทุกคนต่างจ้องมองหลินเซียวด้วยสายตาเบิกโตและอ้าปากค้างราวกับฝันไปซูหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอให้พนักงานของตัวเองปรบมือ แต่กลับไม่มีใครปฏิบัติตามเลยสักคนเดียวจนเธอเก้อเขินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเหล่าพนักงานที่กำลังนั่งอยู่คนที่ตกใจที่สุดก็คือหวังม่านหนีตอนนี้เธออยากรู้ว่าคนจนที่ถูกเธอทิ้งอย่างไม่ไยดีและเพิ่งจะหย่ากับเธอไปเมื่อเช้านี้ จู่ๆ เขาจะ
Read more
บทที่ 23
แม้หลินเซียนเป็นถึงประธานบริหารของบริษัทแห่งนี้ แต่เขากลับไม่มีห้องทำงานเป็นของตัวเองในขณะที่เขาหันกลับออกจากโซนทำงาน และในจังหวะที่เดินสวนกับซูหว่านเอ๋อร์ เขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ “ที่รัก ผมต้องการความช่วยเหลือด่วนเลย ผมยังไม่มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง จะทำยังไงดีละทีนี้?แม้ว่าเสียงพูดคุยของหลินเซียวกับซูหว่านเอ๋อร์จะมีแค่พวกเขาสองคนที่ได้ยินแต่ในตอนที่หลินเซียวเรียกซูหว่านเอ๋อร์ว่าที่รักในที่สาธารณะแบบนี้ ก็ทำให้เธอหน้าแดงก่ำอย่างไม่รู้ตัวซูหว่านเอ๋อร์ก็เคยได้ยินที่เมื่อก่อนหลินเซียนมักถูกเพื่อนร่วมงานใช้คำพูดโจมตีเขาเป็นประจำในตอนนี้ แม้ซูหว่านเอ๋อร์ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกับหลินเซียว แต่ภายในใจของซูหว่านเอ๋อร์ หลินเซียวได้กลายเป็นสามีของเธอไปแล้วการระบายความแค้นให้สามีเป็นสัจธรรมความถูกต้องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้วซูหว่านเอ๋อร์ไม่ได้คิดแม้แต่น้อย ก่อนชี้ไปที่ออฟฟิศของตัวเองแล้วพูดขึ้น “ใช้ห้องของฉันก่อนแล้วกัน ฉันยกให้คุณ”หลินเซียวตอบปฏิเสธโดยพลัน “ไม่ได้สิ เราคุยกันแล้วว่าคุณยังเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวของบริษัทแห่งนี้ ผมจะใช้ห้องทำงานของคุณได้ไง?
Read more
บทที่ 24
จางเทาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะถูกเศษสวะอย่างหลินเซียวด่าทอต่อหน้าถึงอย่างนั้น จางเทายืนนิ่ง หน้าแดงด้วยความโกรธ ไม่กล้าพูดเลยสักคำเดียวถ้าหากเป็นเพราะเขาพูดจนล่วงเกินหลินเซียว มันไม่ใช่แค่จะต้องตกงานอย่างเดียว แม้แต่รางวัลประจำไตรมาสที่ใกล้จะได้มาครองก็จะต้องหลุดมือไปยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หางานใหม่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน……พอคิดได้เช่นนี้ เขาจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างอึดอัดใจไป ขนของในห้องจ้าวเจี้ยนจุนไปและในตอนที่จางเทาขนย้ายของจนเหงื่อเปียกโชก หลินเซียวก็เห็นซูหว่านเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ คล้ายกับกำลังลังเลอยากจะพูดอะไร“พี่หว่านเอ๋อร์ พี่มีอะไรอยากับพูดกับผมหรือเปล่า? แต่ติดที่ตอนนี้ผมเป็นประธานของบริษัท ก็เลยกำลังคิดว่าจะพูดกับผมยังไงใช่ไหม?”ซูหว่านเอ๋อร์มองหลินเซียวด้วยสีหน้าตกตะลึงแล้วถามขึ้น “คุณรู้ได้ไง?”หลินเซียวยิ้มกริ่ม “ก็หน้าของพี่มันบอก ทำไมผมจะดูไม่ออกล่ะ” ?พอหลินเซียวพูดจบก็ชี้ไปทางพวกเห็บหมัดเหล่านั้นที่กำลังนั่งอยู่ในโซนทำงานอย่างกระวนกระวายใจ ก่อนที่จะพูดกับหว่านเอ๋อร์ “ผมรู้ว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่ วางใจเถอะนะ ในเมื่อผมให้เงินลงทุนบริษัทก็เพื่ออยากได
Read more
บทที่ 25
หลินเซียวก็คิดไว้แล้วว่าจะรังแกจางเทาเอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อก่อนจางเทาเคยทำอย่างไรกับตัวเองไว้ ตอนนี้เขาก็จะให้จางเทาได้ลิ้มลองรสชาติการโดนรังแกดูบ้าง“คุณรีบสาบานเร็วเข้าเถอะ ถ้าคุณไม่สาบาน ผมก็ไม่กล้าให้คุณไปรินน้ำมาให้แล้วนะ” ประโยคนี้ของหลินเซียวทำเอาจางเทาโมโหจนทันไม่ไหวไม่นาน จางเทารู้สึกราวกับตัวเองขี่หลังเสือแล้วลงยากในใจของเขาเดือดพล่านไปด้วยไฟโทสะแต่จางเทาก็ไม่อาจโกรธหลินเซียวได้อีกแล้ว ยังไงซะวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วหลินเซียวเป็นถึงประธานของบริษัทแห่งนี้ คิดดูแล้วตัวเองก็ยังต้องการงานนี้อยู่ไม่ว่ามีความโมโหสักแค่ไหน จางเทายังคงต้องข่มความโมโหเอาไว้ และพูดขึ้น “ผมขอสาบานเลยว่าถ้าผมด่าคุณในใจ ผมก็คือคนเลวทรามของลูกอีนางแพศยา”หลังจางเทาสาบานด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเสร็จ จึงหันหลังกลับอย่างหมดอาลัยตายอยาก แล้วเดินออกจากห้องทำงานของหลินเซียวไปซูหว่านเอ๋อร์จัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้ว ก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของหลินเซียว“วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดเจ็ดสิบปีของคุณย่า คุณไปกับฉันนะ” ซูหว่านเอ๋อร์พูดกับหลินเซียวด้วยสีหน้ารอคอยคำตอบ“ทำไมคุณไม่บอกผมให้เร
Read more
บทที่ 26
“ซูหว่านเอ๋อร์ นี่มันเรื่องอะไรกัน? หนูแต่งงานทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะ? ทำไมพ่อไม่เคยได้รู้จักคนนี้มาก่อนเลย?” พ่อของซูหว่านเอ๋อร์ ซูเฉิงกงถามลูกสาวด้วยความโกรธ“ซูหว่านเอ๋อร์ ตอนนี้เธอเปิดบริษัทเล็กๆ โทรมๆ อยู่ข้างนอกจนปีกกล้าขาแข็งแล้ว เรื่องแต่งงานใหญ่ขนาดนี้ไม่บอกให้คนที่บ้านรู้ แล้วตัวเองก็แอบจัดงานแต่งอยู่ข้างนอก ท่านย่ายังอยู่ในสายตาของเธออยู่ไหม? “ซูชิงเอ๋อร์ก็ต่อว่าเธอตามคนอื่นๆ เช่นกัน“หลิน....หลินเซียว? เธอชื่อหลินเซียวใช่ไหม” ท่านย่าซูพยายามข่มโทสะแล้วถามขึ้นด้วยสีหน้าแกล้งทำเป็นเกรงใจ “คุณชายหลินได้หัวใจของหว่านเอ๋อร์มาครอง นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา ไม่รู้ว่าคุณชายหลินทำงานตำแหน่งสูงอยู่ที่ไหน?“ไม่ถึงกับตำแหน่งสูงหรอกครับ ผมเป็นพนักงานในบริษัทของภรรยาผม ปกติก็ช่วยเป็นลูกมือให้กับเธอ” หลินเซียวพูดขึ้นด้วยความจริงจังซูหว่านเอ๋อร์มีรูปโฉมงดงามมาก ในตระกูลซูเธอสวยกว่าซูชิงเอ๋อร์ร้อยเท่าดังนั้นท่านย่าซูจึงอยากเอาเธอเป็นเครื่องมือในการแต่งงานระหว่างตระกูลซูและตระกูลอื่นๆ ในหนานหูมาโดยตลอดทว่า ซูหว่านเอ๋อร์ปฏิเสธความคิดของท่านย่าเรื่อยมาฉะนั้น ครอบครัวของซูหว่าน
Read more
บทที่ 27
“ท่านพ่อค่ะ ท่านเอาลูกเขยของท่านไปเปรียบเทียบกับไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างนั้นเหรอ?” ซูชิงเอ๋อร์ผู้เป็นฮีโร่ของตระกูลซู จ้องมองไปที่ซูหว่านเอ๋อร์และหลินเซียวด้วยความเย่อหยิ่งและมั่นใจในตัวเองแล้วพูดขึ้น“พูดถูกเลย คุณชายหวังเกิดในตระกูลมีชื่อเสียง เป็นผู้นำในรุ่นหนุ่มสาว ไม่ใช่ใครก็เปรียบเทียบกับเขาได้นะ ไอ้คนไร้ความสามารถ ไม่รู้กาลเทศะ ไม่มีกฎเกณฑ์ รู้จักแต่กิน ใครจะรู้ว่ามันเข้ามาในตระกูลซูมีเป้าหมายอะไร ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลซูของพวกเรา ต้องถูกมันกินจนล้มละลายในไม่ช้าแน่!”ท่านย่าซูชื่นชมหวังเทียนเฟิงในเวลากันก็ไม่ลืมที่จะลดคุณค่าหลินเซียวให้ต่ำลงหวังเทียนเฟิงยิ้มบางๆ พร้อมพูดขึ้น “ท่านย่าชมผมเกินไปแล้ว มีใครบางไม่เคยเห็นโลกกว้าง ไม่เคยทานอาหารรสชาติอร่อย ก็ให้เขาทานเยอะหน่อย ถือซะว่าตระกูลซูเลี้ยงสุนัข แค่สุนัขตัวเดียว ยังไงซะตระกูลซูก็เลี้ยงได้”ตั้งแต่ตอนที่ซูหว่านเอ๋อร์จูงหลินเซียวเดินเข้าประตูมา หวังเทียนเฟิงก็ไม่ชอบขี้หน้าหลินเซียวแล้วไอ้สวะที่โสโครกแบบนี้ กลับเป็นสามีของสาวสวยที่สุดของเมืองหนานหู มันช่างราวกับเอาดอกไม้สวยสดไปปักลงบนกองขี้ควายเสียจริง!สำหรับหวัง
Read more
บทที่ 28
ซูหว่านเอ๋อร์ได้ยินท่านย่าซูพูดร้ายๆใส่เธอ ก็ทนไม่ไหวจนหลั่งน้ำตาด้วยความน้อยอกน้อยใจ“ท่านย่าพูดขนาดนี้แล้ว พวกเธอยังมีหน้าอยู่ในตระกูลซูอีกเหรอ?”“ใช่ ไอ้สวะหน้าด้านนี่ ไล่ก็ไม่ไป ตระกูลซูไม่ใช่สถานที่ใครอยากมาก็มาได้”“ใครจะไปรู้ว่าสองคนนี้คบกันได้ยังไง ซูหว่านเอ๋อร์ ไอ้สวะนี่ไม่ได้ข่มขืนเธอใช่ปะ!”“ซูหว่านเอ๋อร์ เธอยังไม่รีบพาไอ้สวะนี่ไสหัวออกจากตระกูลซูอีก!”……ไม่นาน ซูหว่านเอ๋อร์และหลินเซียวได้ตกเป็นเป้าขี้ปากของตระกูลซูไปเสียแล้วคนในตระกูลซูพูดร้ายให้พวกเขาทั้งสองซูเฉิงกงผู้เป็นพ่อของซูหว่านเอ๋อร์ และหยางฮุ้ยฟางผู้เป็นแม่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งมีสีหน้าซีดเผือก และก็ไม่คิดช่วยกู้หน้าให้ลูกสาวด้วยก่อนที่ซูหว่านเอ๋อร์จะพาหลินเซียวมาที่บ้าน ก็คิดว่าจะได้คำอวยพรจากทุกคนคิดไม่ถึงว่าคนในตระกูลซูจะนินทาว่าร้ายเธอ แม้กระทั่งมีญาติบางคนระแวงสงสัยว่าเธอโดนหลินเซียวใช้กำลังข่มขืน ซูหว่านเอ๋อร์จึงต้องยอมทอดกายให้หลินเซียวอย่างช่วยไม่ได้เมื่อต้องเจอกับคำต่อว่าและคำระแวงสงสัยอย่างไม่มีเหตุผลของคนในตระกูลหลินเซียวก็ไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ต่อ ดังนั้นเขาจูงมือของซูหว่านเอ๋อร์แล้วหันหลั
Read more
บทที่ 29
ดังนั้น ซูชิงเอ๋อร์จึงฝังใจกับพี่สาวคนนี้มาโดยตลอดจนถึงเมื่อสองปีก่อน ท่านปู่ซูก็มาเสียไป ซูหว่านเอ๋อร์จึงไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว ซูชิงเอ๋อร์ผ่านความพยายามมาต่างๆ นานา จึงมีตำแหน่งในตระกูลซูได้ดั่งทุกวันนี้“หลินเซียวเป็นสามีของฉัน เมื่อกี้เขาก็แค่ไม่ได้ตั้งใจ แล้วอีกอย่างนะ ของขวัญวันเกิดที่เธอมอบให้ท่านย่ายังวางอยู่บนโต๊ะดีนิ ตีหมาก็ต้องดูเจ้าของ ถึงแม้หลินเซียวจะทำอะไรผิดแล้วจริงๆ ก็ไม่ใช่หน้าที่เธอมาสั่งสอน!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดหลินเซียวมองซูหว่านเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงของตัวเอง จะพูดแทนเขาอย่างไม่ลังเลในเวลาที่เขาถูกรังแกถึงแม้คำพูดมันจะหยาบไปหน่อยก็ตาม……แต่หลินเซียวก็ซาบซึ้งใจ“เหอะๆ ก็ใช่ จะตีหมาก็ต้องดูเจ้าของ งั้นก็ต้องดูด้วยว่าเจ้าของหมามีตำแหน่งในตระกูลหรือเปล่า มีค่าพอให้เคารพหรือเปล่า!” ซูชิงเอ่อร์อาศัยที่ตัวเองเพิ่งได้สัญญาความร่วมมือระหว่างสกุลซูและหนานหูกรุ๊ปจึงทะนงตน ไม่ให้ความสำคัญซูหว่านเอ๋อร์แม้แต่น้อย“เธอ....” ซูหว่านเอ๋อร์ถูกซูชิงเอ๋อร์ทำให้โมโหจนพูดไม่ออก“พอได้แล้ว ชิงเอ๋อร์ก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน แค่ขว้างเบาๆ เอง ถึงกับต้องตื่นตระหนกต
Read more
บทที่ 30
ผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกคนในตระกูลซูจึงหายตกใจ หลังจากนั้นทุกคนบนโต๊ะอาหารก็กุมท้องหัวเราะร่าออกมา“ไอ้สวะนี่โมโหจนสติเลอะเลือนแล้วสินะ? มันยังอยากจัดงานแต่งวันเดียวกับคุณชายน้อยหวัง ช่างน่าหน้าไม่อายจริงๆ !”“งานแต่งที่สะเทือนลั่นเมืองหนานหู ฉันว่าไอ้นี่ไม่ได้เป็นแค่สวะ แต่ยังชอบขี้โม้อีก ไม่รู้จริงๆ ว่าซูหว่านเอ๋อร์ชอบมันตรงไหน?”“พวกคุณดูสิ เสื้อผ้าของผู้ชายคนนี้ซักจนสีตกหมดแล้ว ยังกล้าป่าวประกาศว่าจะจัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่าของชิงเอ๋อร์ร้อยเท่าพันเท่า?”“ซูหว่านเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าเธอชอบมันตรงไหน? ถ้าให้ฉันพูดนะ รีบหย่ากับไอ้สวะนี่เถอะ ลูกท่านหลานเธอที่ตามจีบเธอเยอะแยะ หลับตาเลือกมาสักคนหนึ่งก็ยังดีกว่าไอ้สวะนี้เยอะเลย”……ซูหว่านเอ๋อร์ได้ฟังคำเหน็บแนมของคนในตระกูลจนสีหน้าเริ่มเขียวช้ำเป็นจ้ำ จนอยากจะเอาเข็มเย็บปากของหลินเซียวซะเดี๋ยวนั้นเลย“หลินเซียว ทำไมคุณป่าวประกาศจะจัดงานแต่งที่สะเทือนเลือนลั่นไปทั้งเมืองหนานหูล่ะ? รบกวนคุณพูดอะไรที่ทำได้จริงหน่อยได้ไหม?”“ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นคุณจะชอบขี้โม้ขนาดนี้เลย! ตอนนี้คุณกลับโม้จนฟินเลยนะ ถึงตอนนั้นจริง ๆ คุณจะให้ฉันเอาหน้าไปไ
Read more
PREV
123456
...
15
DMCA.com Protection Status