บททั้งหมดของ มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: บทที่ 61 - บทที่ 70
365
บทที่ 61
ลมระลอกหนึ่งพัดเข้ามาที่ใบหน้า มู่จิ่วซีก็เห็ยชายหนุ่มที่แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมกับเสื้อคลุมยาวสีขาวบางพริ้วมู่จิ่วซีอยากจะตะโกนดังๆ ว่าผีหลอกมากๆ แต่นางก็ได้แต่ต้องอดทนเอาไว้"อย่าขยับ" มู่จิ่วซีเอื้อมมือออกไปข้างหนึ่งเพื่อหยุดชายคนนั้นที่กำลังจะกระโจนเข้ามา "พ่อดอกเก๊กฮวย เจ้าจะสำรวมกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง? ทำแบบนี้ลูกค้าตกใจหนีไปกันหมด"พ่อดอกเก๊กฮวยซึ่งเป็นนายโลมก็ทำปากงอนไม่พอใจก็กล่าวออกมา : "คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าไม่ได้มาหาตั้งนานแล้ว แล้วยังไม่ให้ดอกเก๊กฮวยอย่างข้าดีใจอีก""อะ โอ๋ โอ๋ ดีใจก็ดีใจ" มู่จิ่วซีหยิบแท่งเงินตำลึงออกมาให้เขาพ่อดอกเก็กฮวยคนนั้นก็ยิ้มบานสะพรั่งอย่างกับดอกเก๊กฮวยดอกหนึ่งจริงๆ"คุณหนูใหญ่ คืนนี้จะเล่นอะไรกันดี เป่ายิ้งฉุบหรือว่าจะฟังดนตรี?" ดอกเก๊กฮวยคนนั้นเข้ามาใกล้นางพร้อมกับยิ้มถาม"ไปเปิดศาลาในเรือนดีกว่า คืนนี้ราตรีช่างสายงาม พวกเรามาชมดาวกันดีกว่า" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว"ดูดาวหรอ ได้สิ ได้สิ ดอกเก๊กฮวยอย่างข้าชอบดูดาวที่สุด" พ่อดอกเก๊กฮวยรีบสั่งให้เด็กรับใช้ไปเตรียมงานมู่จิ่วซีรู้สึกเข็ดฟัน นางเลยไอออกมาและพูดกล่าว : "อย่าดัดเสียงพูด พูดให้มันธ
Read More
บทที่ 62
"คืนนี้องค์หญิงเหวินซิงก็จะมา ไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงบ้าง? พี่หญิงหงได้แอบบอกว่าใครที่ให้เงินเยอะสุด อู๋ถงก็จะไปกับคนๆ นั้น พวกเราต่างกังวลว่าถ้าองค์หญิงสู้ราคาไม่ไหวจะโวยวายขึ้นมาเนี่ยสิ""น่าสนใจ" มู่จิ่วซีลูบไปที่คางของนาง ในใจก็คิดว่าองค์หญิงเหวินซิงจะต้องควักเงินเป็นหมื่นตำลึงทองออกมาไม่ได้แน่ ต่อให้มีปัญญาจ่าย แต่ถ้าต้องจ่ายเงินมหาศาลขนาดนั้นเพื่อนายโลมคนเดียว ถ้าเกิดพระพันปีหลวงรู้ขึ้นมา นางโดนหนักแน่แต่องค์หญิงเหวินซิงนี่ก็อย่างกับมนุษย์หมาป่า ถ้าหากถูกฉีเล่อฉี่แย่งอู๋ถงไป นางในฐานะองค์หญิงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ? นางไม่มีทางปล่อยให้คุณหญิงฉีคว้าไปได้หรอกผู้หญิงสองคน อีกคนมีอำนาจ อีกคนมีเงินทอง ต้องการแย่งนายโลมผู้เป็นที่นิยม เกรงว่าไม่นานนักข่าวที่นางกับท่านผู้สำเร็จราชการแทนถอนหมั้นกันคงจะถูกกลบด้วยข่าวนินทาหน้าหนึ่งนี้ที่ลือกระช่อนไปทั่วบ้านทั่วเมืองพ่อดอกเก๊กฮวยจู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย : "ถ้าหากมีคนไปแจ้งบอกคุณหญิงฉี งั้นคืนนี้ก็คงจะครึกครื้นน่าดู"มู่จิ่วซีหันไปทางเขาและเอ่ยออกมา : "เจ้าคงจะรู้ว่าคงต้องมีคนไปบอกคุณหญิงฉีใช่ไหม?"พ่อดอกเก๊กฮวยรีบส่ายหัวและพู
Read More
บทที่ 63
มู่จิ่วซีตกในจนสะดุ้งกับเสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลัง ถึงอย่างไรนางก็คนที่ระวังตัวสูง อีกอย่างชายคนนั้นที่อยู่ข้างหลัง นางก็แทบไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของเขาเลยแต่ว่าเสียงของเขาคุ้นเคยมาก ไม่แปลกเลยที่นางจะไม่ได้ยินก็เพราะเขาคือฮั้วอวิ๋นเทียนเจ้าสำนักของหอดาราจันทรา"เจ้าสำนักฮั้ว เจ้ามาได้ยังไง?" มู่จิ่วซีแหวกม่านเปิดออกพร้อมกับถามฮั้วอวิ๋นเทียนพอเห็นมู่จิ่วซีแต่งตัวด้วยผ้าที่น่าประทับใจ งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ มุมปากของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมาการมาหานายโลมแบบนี้ดีแล้วจริงๆ หรือ?นายโลมพวกนี้คงจะแอบหัวเราะขาดใจตายน่ะสิ"ข้าคิดไปคิดมาก็เกรงว่าคุณหนูใหญ่มู่คืนนี้จะมีอันตราย" ฮั้วอวิ๋นเทียนกล่าว"นี่เจ้าตั้งใจมาเพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของข้า?" มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะดีถึงเพียงนี้"เอาเป็นว่า ถึงอย่างไรหากเกิดเรื่องกับเจ้า โรคป่วยของอาจื่อก็จะหมดความหวัง" ประโยคนี้ของฮั้วอวิ๋นเทียนได้ทำให้ความรู้สึกประทับใจของมู่จิ่วซีหายไปในพริบตาผู้ชายคนนี้ คงกลัวว่านางเอาวรยุทธเฟิงเหยียนหยูเฟยของเขาไปแล้วถ้าเกิดนายตายขึ้นมาก็คงจะขาดทุนสินะที่แท้จิ้งจอกม่วงก็เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้
Read More
บทที่ 64
ส่วนฮั้วอวิ๋นเทียนที่อยู่บนศาลาพอได้ยินเรื่องลามกพวกนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา คุณหนูใหญ่มู่คนนี้โผงผางจริงๆเรือนด้านหลังเป็นอาคารไม้สามชั้นตกแต่งอย่างหรูหรา เทียบได้กับโรงแรม 5 ดาวในยุคปัจจุบัน ตรงประตูมีป้ายไม้เขียนชื่อของนายโลมเอาไว้"คุณหนูใหญ่มู่ ที่นี่คือห้องพักของท่านชายน้อยจินเป้ย แต่ว่าคุณหญิงฉีได้จ่ายเงินเหมาเขาไว้ตลอดทั้งครึ่งเดือนแล้ว" พี่หญิงหงกล่าวยิ้มออกมาด้วยเสียงเบา"งั้นไม่ใช่ว่าคุณหญิงฉีจะมาคืนนี้หรอกเหรอ?" มู่จิ่วซีนึกได้ว่าองค์หญิงเหวินซิงคงจะใกล้มาถึงเร็วๆ นี้แล้วพี่หญิงหงก็กล่าวออกมาอย่างเขินอายเล็กน้อย : "ต่อให้คุณหญิงฉีคืนนี้มาหา แต่ก็ไม่ได้มาเพื่อท่านชายน้อยจินเป้ย นางมาเพื่อไถ่ตัวท่านชายน้อยอู๋ถง เพียงแต่องค์หญิงเหวินซิงก็หมายปองท่านชายน้อยอู๋ถงเหมือนกัน นางเองก็อยากไถ่ตัวกลับไป เห้อ"มู่จิ่วซียังไม่ทันเอ่ยปากพูด พี่หญิงหงก๋หัวเราะยิ้มร่าขึ้นมา : "คุณหนูใหญ่มู่ ไม่งั้นคืนนี้ท่านช่วยบ่าวหน่อยสิเจ้าคะ""ข้า? ข้าจะไปช่วยอะไรได้?" มู่จิ่วซีรู้สึกตกใจอย่างมาก"ถ้าหากบุคคลสำคัญทั้งสองแย่งอู๋ถงกันขึ้นมา บ่าวคงไม่อาจทนรับความขุ่นเคืองบาดหมางไว้ได้" พี่หญิงทำท่าอย่า
Read More
บทที่ 65
พี่หญิงหงเปิดประตูเพื่อให้มู่จิ่วซีเข้าไปก่อน พ่อดอกเก๊กฮวยก็แอบตามไปข้างหลังเงียบๆ แล้วปิดประตูตามหลัง"แค่กแค่กแค่ก"จินเป้ยที่อยู่ด้านในส่งเสียงไอออกมา"แย่แล้ว ท่านชายน้อยจินเป้ย สุขภาพร่างกายของเจ้าอ่อนแอจริงๆ เพิ่งมาก็เป็นหวัดลมหนาวแล้ว คงต้องให้ห้องครัวตุ๋นอาหารบำรุงร่างกายให้เจ้าแล้ว" พี่หญิงหงมุ่งตรงไปถึงยังเตียงก่อนมู่จิ่วซีมู่จิ่วซีเดินเข้ามาก็เห็นชายคนหนึ่งสีหน้าดูป่วยโทรมอยู่บนเตียง แม้ว่าใบหน้าจะดูดีไม่เลว แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าหล่อเหลา มีกลิ่นอายของความเป็นชายชาตรี โครงร่างใหญ่กว่าพ่อดอกเก๊กฮวย แตกต่างอย่างมากจากนายโลมที่แต่งกายกายตุ้งติ้งเป็นส่วนใหญ่"จินเป้ยขอคารวะคุณหนูใหญ่มู่" จินเป้ยลุกตัวขึ้นมาถวายความเคารพให้กับมู่จิ่วซี "จินเป้ยร่างกายเจ็บป่วย โปรดคุณหนูใหญ่อย่าถือสา""ไม่เป็นไร เจ้านอนพิงพูดกับข้าก็ได้ ดูจากสีหน้าของเจ้าแล้วคงจะป่วยไม่น้อย" มู่จิ่วซีหย่อนก้นนั่งลงบนเตียง "ข้ามีทักษะแพทย์อยู่บ้าง เดี๋ยวช่วยดูอาการเจ้าให้"จินเป้ยตะลึงและรีบพูดขึ้นมาทันที : "คุณหนูใหญ่มู่ช่างสูงศํกดิ์ จะมาทำเรื่องแบบนี้เพื่อข้าได้อย่างไร หมอได้ตรวจอาการข้าแล้ว เขาบอกว่าให้ข้
Read More
บทที่ 66
"อะไรนะ ? พวกนางสองคนมาพร้อมกันงั้นเหรอ?" พี่หญิงหงตกตะลึงในสายตา"ใช่ขอรับ ใครจะรู้ว่าบังเอิญขนาดนี้ อีกอย่างพวกนางต้องการพบท่านชายน้อยอู๋ถงเหมือนกัน! เจ้ารีบไปดูเถอะ"พี่หญิงหงหันควับกลับมาคว้ามู่จิ่วซีและกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ คืนนี้คงต้องพึ่งท่านแล้ว" ขณะพูดก็ลากมู่จิ่วซีวิ่งไปด้วยกัน"เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว พี่หญิงหง ข้าปวดฉี่ เจ้าให้ข้าไปเข้าสุขาก่อน" มู่จิ่วซีต้องการที่จะแจ้งข่าวก่อน นางมั่นใจแล้วว่าจินเป้ยคนนี้คือไส้ศึกที่ลอบสังหารใต้เท้ากู้อีกคนหนึ่งซึ่งหนีไปได้อีกทั้งยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ไปถึงคุณหญิงฉี พอนึกถึงใต้เท้าฉีเลขาธิการกระทรวงราชทัณฑ์ซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนที่มีกุญแจห้องเก็บยาพิษเงาหอมนิโลบล จนนางพอได้ไตร่ตรองอย่างละเอียดก็รู้สึกสะพรึงกลัวในทันที"งั้นบ่าวขอไปดูสถานการณ์ก่อน คุณหนูใหญ่มู่ ท่านรีบมาด้วยล่ะ" พี่หญิงหงกล่าวอย่างร้อนรน"รู้แล้ว เจ้าวางใจเถอะ ร้านขนมร้านนั้นข้าเอาแน่" มู่จิ่วซีขณะพูดก็วิ่งไปทางห้องสุขาขณะเดินไปตามทางก็เห็นชิงเฟิงที่ได้ไปแอบตรวจสอบมา"คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยได้ไปตรวจสอบมาแล้ว ห้องครัว ห้องฟืนและห้องเก็บเหล้าไม่มีใครน่าสงสัยเลยขอรับ""ชิง
Read More
บทที่ 67
ชั่ววินาทีที่ประตูถูกทีบให้เปิดออก มู่จิ่วซีก็กำลังทำท่าป้อนเหล้าให้อู๋ถงอยู่ก็นิ่งค้างไป ส่วนคนข้างนอกที่เห็นภาพฉากนี้ก็นิ่งค้างไปเหมือนกัน"คุณหนูใหญ่มู่" พี่หญิงหงเป็นคนแรกที่ตั้งสติขึ้นมาได้ นางส่งสายตาเป็ยนัยน์ให้กับมู่จิ่วซีและตีหน้ายิ้มกล่าวออกมา "ขอประทานอภัยจริงๆ ที่รบกวนความสุขท่านนะเจ้าคะ"มู่จิ่วซีที่มีแสงแดงก่ำและอู๋ถงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายก็วางจอกเหล้าลง ใบหน้าอึมครึมจ้องไปทางปากประตู องค์หญิงเหวินซิงและฉีเล่อฉี่ถลึงตามองอย่างไม่เชื่อในสายตาผู้หญิงสองคนนี้ล้วนแต่งกายหรูหราฉูดฉาด แค่มองดูก็คิดว่าเป็นแม่หญิงของหอบุปผา เพียงแต่แก่ไปนิดหน่อย เดิมทีดูจากอายุของพวกนางแล้วคงจะเป็นหญิงวัยกลางคนที่ยังคงรักษาความสง่างามไว้น่าเสียดายที่พวกนางอดทนต่อความเหงาไม่ไหว เที่ยวเล่นจนตัวเองหมดสภาพ ดั่งสุภาษิตดอกเฉาบนกิ่งหักซึ่งใช้บรรยายพวกนางได้เหมาะสมจนไม่มีอะไรมาเปรียบได้ดีกว่านี้อีกแล้ว (ดอกเฉาบนกิ่งหัก หมายถึง หญิงสาวที่หลงระเริงแล้วโดนผู้ชายย่ำยีแล้วทิ้งไป)"มู่จิ่วซี เจ้าหมายความว่ายังไง!" องค์หญิงเหวินซิงถลึงตาที่โมโหทั้งสองข้างมองไปที่มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าจะใจแค
Read More
บทที่ 68
"เจ้ามันสารเลว! เจ้ามันเจตนาจงใจ!" องค์หญิงเหวินซิงกร่นด่าในทันที "อยากจะมีเรื่องกับข้ามากนักใช่ปะ!"ใบหน้าของคุณหญิงฉีเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเอ่ยกล่าว : "องค์หญิง อู๋ถงทั้งเฉียบแหลมและรูปงาม ข้าเองชอบมากจริง ๆ ไม่งั้นข้าคงไม่เอาทองคำมาไถ่ตัวเขามากขนาดนี้ ที่จวนของ องค์หญิงเองมีสนมชายมากขนาดนั้น ไม่มีอู๋ถงไปสักคนคงไม่เป็นไรหรอกกระมัง""เจ้า!" องค์หญิงเหวินซิงถูกยั่วให้โมโหจนทำท่าอยากจะเข้าไปตบคนมู่จิ่วซียิ้มขึ้นมาในฉับพลันพร้อมกับกล่าว : "พวกเจ้าสองคนอยากเป็นที่น่าหัวเราะให้กับคนอื่นก็ขอเชิญออกไปเถอะ อย่ามาขวางเวลาดื่มเหล้าของข้า""พี่หญิงหง ข้าเอาทองหมื่นตำลึงมาให้แล้ว ข้าต้องการไถ่ตัวอู๋ถงเดี๋ยวนี้" คุณหญิงฉีเพียงโบกมือ คนรับใช้กลุ่มหนึ่งก็ขนลังไม้เข้ามาห้าลังจากนั้นพอกล่องไม้ที่วางเรียงเป็นแถวถูกเปิดออกต่อหน้าผู้คน แสงอร่ามของทองคำก็สะท้อนเป็นประกายอยู่ในแววตาของทุกคน ดวงตาที่พร่างพราวมากที่สุดก็คือมู่จิ่วซี"ว้าว คุณหญิงฉีช่างมีเงินเยอะมากจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าสามีเจ้าที่ตายไปหากรู้ขึ้นมาจะปีนขึ้นจากโลงมาหรือเปล่า" มู่จิ่วซีก็พูดปากหมาขึ้นมา"คุณหนูใหญ่มู่!" สีหน้าของคุณหญิ
Read More
บทที่ 69
อู๋ถงตกตะลึง จากนั้นเขาก็เขยิบเข้ามาใกล้มู่จิ่วซีและกระซิบข้างหูมาประโยคหนึ่งมู่จิ่วซีพอได้ยินก็ตาทอเป็นประกายและซุบซิบที่ข้างหูของเขาไม่กี่ประโยค ในตอนท้ายมุมปากของนางก็กระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย"มู่จิ่วซี เจ้ามันไร้ยางอาย!""มู่จิ่วซี เจ้ามีอีหน้าด้าน!"ผู้หญิงทั้งสองคนพอเห็นพวกเขาสนิทแนบชิดกันขนาดนี้ก็ด่าถอขึ้นมาในฉับพลันอู๋ถงพอฟังสิ่งที่มู่จิ่วซีพูดจนจบก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างเขินอายและพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาราวกับองุ่นสีดำเข้มทั้งสองข้างก็ทอประกายมองไปยังมู่จิ่วซีอย่างสดใสมู่จิ่วซีหันไปมองผู้หญิงสองคนนั้นที่โกรธจนใบหน้าบูดบึ้งพร้อมกับกล่าว : "ข้าค่อนข้างจน ดังนั้นข้าเสนอได้แค่ 100 ตำลึงเงิน""อะไรนะ!" ทุกคนถึงกับตกใจและอุทานออกมา"100 ตำลึงเงินจะไปไถ่ตัวนายโลมอันดับหนึ่งได้ยังไง!""คุณหนูใหญ่มู่ นี่เจ้าดูถูกอู๋ถงงั้นเหรอ?""มู่จิ่วซี เจ้าล้อเล่นงั้นเหรอ?""พี่หญิงหง เจ้าบอกมาซิว่าอู๋ถงราคาเท่าไหร่?"คนกลุ่มนั้นก็ฮือฮาแย่งกันพูดขึ้นมา พี่หญิงหงก็ได้แต่ยิ้มแหยงๆ พร้อมกับหันไปมองมู่จิ่วซีและยิ้มขึ้นมาในท้ายที่สุด : "นายโลมอันดับหนึ่งอย่างน้อยต้องใช้เงิน 3,000 ตำลึง
Read More
บทที่ 70
มู่จิ่วซีหัวเราะเสียงดังลั่น : "พวกเจ้าเล่นขายของพ่อแม่ลูกกันเหรอไง? พอไม่ได้ดั่งใจก็งอแงขึ้นมา นี่พวกเจ้ารู้จักคำว่ายางอายสองคำนี้ไหมว่าเขียนยังไง?""เจ้า!" องค์หญิงเหวินซิงโกรธจัดจนตัวสั่นไปทั้งตัว อู๋ถงก็รีบตามมาและดึงชายเสื้อมู่จิ่วซีที่ด้านหลังเบาๆ พร้อมกับกล่าว : "คุณหนูใหญ่ อู๋ถงคงหาเรื่องลำบากให้ท่านสินะขอรับ"ขณะที่เขาพูดก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกล่าวกับองค์หญิงเหวินซิงและฉีเล่อฉี่ : "ทั้งสองท่าน ขอบพระคุณอย่างมากที่เมตตาเอ็นดูข้า อู๋ถงยอมที่จะไปกับคุณหนูใหญ่มู่เอง ทั้งสองท่านขอได้โปรดปล่อยอู๋ถงผู้นี้ไปด้วยเถอะขอรับ""อู๋ถงเจ้ามันอวดดี ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงดูแลเจ้ามาเสียเปล่าจริงๆ""อู๋ถง เจ้ามันไม่รักดีจริงๆ เสียดายที่ข้าอุตส่าห์ให้เงินเจ้า 500 ตำลึงทุกครั้ง เจ้ามันก็แค่หมาป่าตาขาว" (หมาป่าตาขาว หมายถึง ทรพี อกตัญญู)อู๋ถงถึงกับคุกเข่าก้มหัวให้กับนางสองคนนั้นในทันทีนางสองคนนั้นก็เริ่มด่าถอเขา จนในที่สุดก็โกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับอู๋ถง จิกกระชากลากผมของอู๋ถงทุกคนต่างรู้สึกแปลกอย่างมากว่าทำไมมู่จิ่วซีไม่ปกป้องอู๋ถง นางกลับเพียงแค่กอดอกดูฉากละครตรงหน้า นางไถ่ตัวเขาไปแล้ว แต่เ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
56789
...
37
DMCA.com Protection Status