Share

บทที่ 12

มองดูรอบด้าน รู้สึกแปลกตาเป็นพิเศษ

เธอลืมทางที่จะกลับไปอีกแล้ว

หยิบโทรศัพท์ออกมา อยากจะใช้จีพีเอสกลับไป แต่ผ่านไปเป็นเวลานานถึงนึกชื่อที่พักขึ้นมาได้

เหลิ่งฉือตามเธอมาอยู่ตลอด เห็นเมื่อครู่ลู่หนานเฉินกลับไปได้ไม่นาน เซี่ยสือยืนอยู่ที่เดิม จึงอดเป็นห่วงไม่ได้

“เซี่ยสือ”

เซี่ยสือคิดว่าลู่หนานเฉินกลับมาอีก

ในดวงตามีความหวังแวบผ่าน แต่ในตอนที่หันหลัง กลับถูกแทนที่ด้วยความผิดหวัง

เหลิ่งฉือเดินไปทางเธอ “จำฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอ?”

เซี่ยสือมองดูเขา คิดไม่ออกว่าเขาคือใคร

“เจ้าอ้วน ลืมแล้วเหรอ?” เหลิ่งฉือพูดเตือน

เซี่ยสือถึงนึกขึ้นได้ ตอนเด็กอยู่ที่ชนบทกับแม่หยุน รู้จักกับเจ้าอ้วนเพื่อนสนิท

ตอนนั้นเหลิ่งฉืออ้วนมาก แถมยังสูงไม่เท่าเธอ แต่ตอนนี้ร่างสูงใหญ่หนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ใบหน้าก็ขยับขยายแล้ว

“นึกออกแล้ว นายเปลี่ยนไปเยอะมาก ฉันจำนายไม่ได้เลย”

ได้เจอเพื่อนเก่าที่ต่างถิ่น ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี

หญิงสาวฝืนยิ้มบาง ๆ ทำให้เหลิ่งฉือรู้สึกไม่ค่อยดี

“ไป ฉันไปส่งเธอกลับบ้าน”

ตอนที่ส่งเซี่ยสือกลับไป เขาเพิ่งพบว่าเธอพักอยู่ในโรงแรมที่ทรุดโทรมอย่างมาก

ตระกูลลู่ที่เป็นตระกูลใหญ่โตร่ำรวย ต่อให้หย่าร้าง ก็ไม่ควรให้เธอตกอับถึงขั้นนี้

เซี่ยสือเก้กังเล็กน้อย “ให้นายเห็นเรื่องน่าอายแล้ว”

“ฉันอยู่ที่นี่ นายห้ามบอกแม่หยุนเด็ดขาด ฉันกลัวเธอจะเป็นห่วง”

เหลิ่งฉือพยักหน้า และไม่รู้ว่าควรพูดอะไรปลอบใจเธอ

ดึกเกินแล้ว

เขาไม่เหมะาที่จะอยู่ที่นี่ตลอด

บอกเซี่ยสือ พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมเธอ จากนั้นก็กลับไป

เดินออกจากโรงแรม เหลิ่งฉือไม่ได้สังเกตเห็นคาดิลแลคสีดำด้านที่จอดอยู่ในความมืดที่ชั้นล่าง

สำหรับเซี่ยสือ อันที่จริงอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน

หลังจากเหลิ่งฉือกลับไป

เป็นเพราะดื่มเหล้า กะเพราของเธอรู้สึกไม่สบายอย่างมากและมึนหัวมาก

ในหัวดังก้องไปด้วยคำพูดของลู่หนานเฉิน

“แต่งอย่างกับผียังไงยังงั้น!”

“คนอย่างเธอ ผู้ชายที่ไหนจะชอบ?”

เธอออกแรงเช็ดเครื่องสำอางค์บนใบหน้าและลิปสติกบนปาก ใบหน้าซีดขาว เพราะการกระทำแบบนี้ เปลี่ยนไปบวมแดงขึ้นมา

รู้ว่าตัวเองมีโรคซึมเศร้า

เธอเคยค้นหาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโรคนี้

อาการซึมเศร้าอาจทำให้สมองเสียหายได้ ไม่เพียงทำให้ความจำถดถอย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่ความผิดปกติทางสติปัญญาได้ ทำให้คนคิดเรื่องที่ไม่มีความสุขอยู่ตลอด และขยายเรื่องที่ไม่มีความสุขให้ร้ายแรงขึ้น……

“ปัง! ปัง!!”

เสียงเคาะประตูอย่างแรงดังขึ้น

เซี่ยสือคิดว่าเหลิ่งฉือกลับมาอีก ลุกขึ้นไปเปิดประตู

ประตูห้องเพิ่งเปิดออก เธอก็ถูกลู่หนานเฉินจับข้อมือเอาไว้

ชายหนุ่มออกแรง ข้อมือที่เล็กบาง รู้สึกเหมือนจะหัก

“เซี่ยสือ! เธอทำให้ฉันแปลกหูแปลกตาจริง ๆ!”

ลู่หนานเฉินปิดประตูด้วยหลังมือ พาเธอไปที่ด้านข้างโซฟาโดยไม่เกรงใจ

“ที่แท้ก็เลือกผู้ชายคนต่อไปแล้ว ฉันว่าทำไมถึงยอมปล่อยมือ!” เขาพูดเหน็บแนม

คำพูดของชายหนุ่มเหมือนกับมีดเล่มหนึ่ง!

รู้ว่าเขาเห็นเหลิ่งฉือและเข้าใจผิดแล้ว

เซี่ยสือไม่เข้าใจ ทำไมในใจเขาเก็บรักแรกไว้ได้ แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

เธอจ้องมองลู่หนานเฉินที่โมโหอย่างมาก หางตาแดงก่ำพูดขึ้น “พวกเราสองคนก็แค่สูสีพอกัน”

ตระกูลเซี่ยหลอกแต่งงาน

ลู่หนานเฉินกลับเย็นชาต่อเธอสามปี แถมยังไม่ลืมรักแรก

ใครก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าใคร

ลู่หนานเฉินวันนี้ก็ดื่มเหล้าไปเล็กน้อย ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า

เขาจับคางของเซี่ยสือ ดวงตาแดงก่ำ เสียงทุ้มต่ำถามขึ้น

“เขาเป็นใคร?”

“พวกเธอรู้จักกันเมื่อไหร่?”

เซี่ยสือเพิ่งเคยเห็นเขาที่เป็นแบบนี้ครั้งแรก จู่ ๆ ยิ้มพูด

“คุณหึงเหรอ?”

ลู่หนานเฉินดวงตาเคร่งขรึม จากนั้นเย้ยหยัน “เธอคู่ควรเหรอ?”

เซี่ยสือรู้สึกจุกในลำคอ

ลู่หนานเฉินทับเข้ามาอย่างแรง จี้ถามที่ข้างหูของเธอ

“เขาแตะต้องเธอตั้งนานแล้วใช่ไหม? หือ?”

แต่งงานสามปี เป็นเพราะกฏของตระกูลลู่ เซี่ยสือละทิ้งงาน มีเพื่อนนัดเจอครั้งคราว ก็ปฏิเสธไป

แต่ตอนนี้ลู่หนานเฉินกลับสงสัยเธอ……

ในตอนนี้ จู่ ๆ เธอรู้สึกโล่งใจ

“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?” เธอถามกลับ

ลู่หนานเฉินถูกทำให้โมโหถึงที่สุด ฝ่ามือร้อนระอุลูบไปด้านล่าง

เลือดทั้งร่างกายของเซี่ยสือแข็งตัว ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

เธออยากจะปฏิเสธ ต่อต้าน แต่ไม่มีประโยชน์

จนกระทั่งช่วงสุดท้ายสิ้นสุดลง ลู่หนานเฉินเหมือนกับเพิ่งใจเย็นลง

ด้านนอก ท้องฟ้าสว่างเล็กน้อย

ลู่หนานเฉินมองดูเซี่ยสือที่ผอมเหลือแต่กระดูก แล้วก็มองสีแดงที่ทิ่มแทงตาบนผ้าปูที่นอน ในใจพูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร

“เพียะ!”

เซี่ยสือยกมือฟาดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างแรง

ฝ่ามือนี้ ทำลายภาพลวงตาทั้งหมดที่เธอมีต่อความรักในอดีต

เธอเยื่อแก้วหูบวม ไม่ได้ยินว่าลู่หนานเฉินพูดอะไร จากนั้นพูดขัดเขา

“ไสหัวไป!”

ลู่หนานเฉินไม่รู้ว่าออกมาอย่างไร

ในหัวมีแต่ภาพเมื่อคืนนี้

ขึ้นนั่งบนรถ เขาโทรศัพท์ถามสวี่มู่ผู้ช่วยพิเศษ “ไปสืบดู ผู้ชายที่เซี่ยสือรู้จักมีใครบ้าง”

สวี่มู่งุนงงเล็กน้อย

หลังเซี่ยสือแต่งงาน แต่ละวันนอกจากประธานลู่ ก็คือประธานลู่ รู้จักผู้ชายอะไรที่ไหนกัน?

......

ในโรงแรม

หลังจากลู่หนานเฉินกลับไป

เซี่ยสือก็ทำความสะอาดตัวเองซ้ำ ๆ หลายครั้ง

ใกล้หย่าร้าง ทั้งสองคนเพิ่งจะเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง พูดขึ้นมา น่าขำมาก และก็น่าเศร้ามาก

ตอนเช้า เวลา 9 โมง เหลิ่งฉือนำอาหารเช้ามา ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเซี่ยสือ

“เมื่อคืนกลับไปเร็วเกิน ลืมบอกเธอ ครอบครัวฉันมีบ้านว่างหลังหนึ่งพอดี เธอไปพักอยู่ได้”

“เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่โรงแรมไม่ปลอดภัย”

เซี่ยสือส่ายหน้าปฏิเสธ

บุญคุณคนทดแทนได้ยากที่สุด เธอไม่อยากติดค้างคนอื่น

เหลิ่งฉือรู้ว่าเธอจะปฏิเสธ “อย่างไรซะว่างก็ว่างอยู่แบบนั้น เธอไปอยู่ ฉันไม่เก็บเงินค่าเช่าสักหน่อย”

“แต่ฉันอยู่นานสุดก็แค่หนึ่งเดือน”

“หนึ่งเดือนก็หนึ่งเดือน ดีกว่าว่างไว้ไม่มีคนอยู่”

เหลิ่งฉือไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงพูดว่าอยู่แค่หนึ่งเดือน เมื่อคิดว่าต่อไปยังมีเวลาอีกยาวนาน

เขาขับรถไปส่งเซี่ยสือ

หญิงสาวมีแค่กระเป๋าเดินทางเรียบ ๆ ใบเดียว ไม่มีสัมภาระอื่นอีก

หลังจากนั่งบนรถ

เหลิ่งฉือกับเซี่ยสือพูดคุยเรื่องตอนเด็ก ๆ และก็เป็นฝ่ายบอกกับเธอ หลายปีมานี้เขาทำอะไรบ้าง

หลังจบมัธยมปลายก็ออกนอกประเทศ บรรลุนิติภาวะก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เมื่ออายุยี่สิบปีก็ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเจ้าของบริษัทที่ร่ำรวย

เซี่ยสือฟังประวัติส่วนตัวที่มากมายของเขา และก็คิดถึงตัวเอง

หลังเรียนจบ ก็แต่งงานกับลู่หนานเฉิน เป็นแม่บ้านเต็มตัว

เธอมองเหลิ่งฉืออย่างเลื่อมใส “นายสุดยอดจริง ๆ”

“เธอก็ทำได้ หลังออกจากชุมชน ฉันยังติดตามเธออยู่ เห็นเธอออกโทรทัศน์ และยังได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเปียโนเยาวชนอีกด้วย…….ยังมีร้องเพลงด้วยใช่ไหม? เธอรู้ไหม? ตอนนั้นเธอก็คือไอดอลของฉัน……”

เหลิ่งฉือไม่ได้บอกเซี่ยสือ

ตอนนั้นเขาเรียนหนังสืออยู่ที่ต่างประเทศคนเดียว แรกเริ่มชีวิตไม่ได้ดีนัก เขาเรียนรู้เรื่องไม่ดีมากมาย หมดอาลัยตายอยาก

จนกระทั่งเห็นเซี่ยสือออกข่าวในประเทศ ต้องรู้ไว้ว่าสำหรับคนที่เกิดมาสูญเสียการได้ยิน ประตูด้านดนตรีถูกปิดไปตั้งนานแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status