บททั้งหมดของ บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ: บทที่ 31 - บทที่ 40
210
บทที่ 31
ฟันบนและฟันล่างของสือหลิ่วกระทบกัน ลมหายใจกระชั้น หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว วิ่งพรวดออกไปด้านนอก หลังจากที่เจียงหวานหว่านส่งหลิ่วซู่กลับห้องแล้ว ให้สือหลิ่วเฝ้าหลิ่วซู่ให้ดี จากนั้นนางก็หาข้ออ้างกลับห้องไป เจียงหวานหว่านหาตะกร้าไผ่มาใบหนึ่ง จับงูทั้งหมดใส่เข้าไปในตะกร้าเจียงหวานหว่านถือตะกร้าไผ่ออกจากเรือนเหมยเจียงจิ่นหนิงกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ในลานเรือนตัวเองอย่างได้ใจงูเป็นสัตว์ที่สตรีกลัวมากที่สุด ตอนนี้เขาเหมือนได้เห็นภาพที่เจียงหวานหว่านกลัวงูแล้ว “ปัง” ประตูห้องถูกผลักออกอย่างแรง เจียงหวานหว่านเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เจียงจิ่นหนิงยังไม่ทันได้ตอบสนอง เจียงหวานหว่านต่อยเข้าไปที่หน้าเขาหนึ่งที น้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้าคนสารเลวชาติชั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขี้ยวพิษของงูถูกดึงออกไปแล้ว วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง!” เจียงจิ่นหนิงโมโหขึ้นทันที “คุณชายอย่างข้า...” เจียงหวานหว่านถือตะกร้าไว้ ปากตะกร้าอยู่ด้านล่าง งูตกลงบนหัวของเจียงจิ่นหนิงทีละตัวสัมผัสเย็นเยือกแผ่ซ่านไปทั่วตัว เจียงจิ่นหนิงทนไม่ไหวทันที “อ้าก...” เสียงร้องแหลมของเจียงจิ่นหนิงดังไปทั่วเรือนมือไม้ปัดเอาง
Read More
บทที่ 32
สกุลฉางใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตบมือของเฉาหยูเฟิ่งอย่างปลอบโยน "น้องสาวไม่ต้องห่วงทุกอย่างมีพี่ชายของเจ้าจัดการให้ สกุลหลิ่วผู้นั้นไม่สามารถดีกว่าเจ้าได้" ความคิดของเฉาหยูเฟิ่ง กาลังหมุนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็ไม่สามารถเป็นอนุภรรยาได้ไม่ว่าจะแย่แค่ไหนนางก็ต้องเป็นภรรยารอง! ความเยาะเย้ยเล็ดลอดผ่านในดวงตาของสกุลฉางที่นั่งอยู่ด้านข้าง ลูกสาวของครอบครัวขุนนางผู้มีเกียรติกลับถูกเหยียบย่ำและต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าของสาวบ้าน เป็นเรื่องน่าขบขันอย่างยิ่งในการกลายเป็นอนุภรรยา! เฉาหยูเฟิ่งจัดให้สกุลฉางนั่งลง เวลานี้ หลิ่วซู่พาเจียงหวานหว่านไปปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ฝ่ามือของหลิ่วซู่มีเหงื่อออก นางก็ทําอะไรไม่ถูกเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ "ท่านแม่ ท่านคือภรรยาที่ตบแต่งอย่างถูกต้องของท่านพ่อ ไม่มีใครดูหมิ่นท่านได้" หลิ่วซู่พยักหน้า เงยหน้าขึ้นแล้วเดินเข้าไป การปรากฏตัวของพวกนางดึงดูดความสนใจของทุกคน เพียงเดินเข้ามาบรรดาฮูหยินและคุณหนูต่างกระซิบกระซาบตามๆ กัน "สกุลหลิ่ว หวานเจี่ยเออร์ มานี่เร็ว" ฮูหยินใหญ่เจียงพูดอย่างอ่อนโยนผิดแผกไปจากปกติเจียงหวานหว่าน ลดเสียงลงและกระ
Read More
บทที่ 33
"คุณชายรองให้โสมอายุพันปี " “คุณชายสามให้ปะการัง”“คุณชายสี่ให้กำไลหยกชั้นดีหนึ่งคู่”“นายท่านฮูหยินให้ฉากกั้นหยกหนึ่งชิ้น”โจวฝู ผู้ดูแลจวนนำของขวัญทั้งหมดมาจัดแสดง“ท่านย่า พวกพี่ชายตามหาของล้ำค่าทั่วสารทิศเพื่อให้ของขวัญในวันเกิดของท่านย่าแหน่ะเจ้าค่ะ”สายตาอิจฉามาจากรอบตัว ความเย่อหยิ่งในใจของฮูหยินใหญ่เจียงถึงจุดสูงสุดแล้ว“ท่านย่า ยังมีของขวัญจากข้าด้วย”เสียงของเจียงจิ่นหนิงดังมาจากปากประตูพอหลิ่วซู่ได้ยินเสียงนี้จึงเงยหน้าขึ้นมอง สายตาจับจ้องตามเจียงจิ่นหนิงเจียงจิ่นหนิงสัมผัสได้ถึงสายตาลึกซึ้งของหลิ่วซู จึงมองนางดูถูกไปทีหนึ่งหลิ่วซู่ก้มหน้าลงอย่างเสียใจ มีความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากลูกชายที่นางเฝ้าคิดถึงทุกคืนวัน กลับรังเกียจนางดั่งอสรพิษ ในใจของนางปวดบิดเป็นอย่างมากเจียงหวานหว่านดึงมือของหลิ่วซู่ไว้ ปลอบโยนนาง แล้วหันศีรษะไปทางเจียงจิ่นหนิง สายตาคมดั่งมีด“ขอให้ท่านย่าอายุยืนร้อยปี มีพรให้เสพสมจากเทพเซียนไม่ขาดสาย”。 เจียงจิ่นหนิงมอบของขวัญเป็นเครื่องประดับเซียนท้อที่ทำมาจากทองคำ“พี่ห้า สวยมากจริงๆ”เจียงอวิ้นชมขึ้นมาอย่างปากไม่ตรงกับใจเจียงจ
Read More
บทที่ 34
หรงซีสวมเสื้อคลุมผ้าไหมชั้นดีสีเข้ม ปักลายดอกไม้ประดับด้วยเส้นไหมสีเงินและขาวนวลราวกับดวงจันทร์ สวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวเหมือนหิมะ ผิวสีน้ำผึ้งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชาย ใบหน้าทั้งห้าส่วนแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ทำให้ผู้คนลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเจียงหวานหว่านพอเห็นการปรากฏตัวของหรงซี ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สองตาเป็นประกาย เขามาแล้ว“อ้า!” ไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูของบ้านใดเผลอร้องออกมากหรงซีขมวดคิ้วมุ่นหนึ่งที ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจที่มีคนร้อง แต่เขาไม่ชอบงานเช่นนี้“คารวะท่านอ๋อง” ทุกคนคำนับไปทางหรงซีหรงซีเหลือบมองเจียงหว่านหว่านในฝูงชนโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ“ลุกขึ้นยืน”“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”ฮูหยินใหญ่เจียงหนังตากระตุก ในใจคาดเดา ที่ท่านอ๋องเสด็จ หรือจะเป็นเพราะเจียงหวานหว่านหรงซีและหรงมู่หานนั่งร่วมโต๊ะกัน“เสด็จอา” มู่หรงหานประสานมือคารวะหรงซีมองไปที่เขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เก็บสายตาหรงมู่หานรู้สึกกระอักกระอ่วน ในใจโกรธเคือง ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้แต่หรงซีถึงกับไม่ให้หน้าเขาเลยแต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องราวใดๆ รอยยิ้มเต็มหน้ารอให้เขาได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์มัง
Read More
บทที่ 35
“คุณหนูหก ของขวัญของเจ้านี้เป็นภาพวาดของนักวาดชื่อดังท่านใดรึ” ฮูหยินหลิวถามขึ้นอย่างสงสัยเจียงหวานหว่านตอบกลับอย่างมั่นใจ “ข้าวาดเอง”“คุณหนูหกช่างเป็นเด็กกตัญญูเสียจริง เพียงแต่ภาพวาดไก่กาคงไม่สามารถนำมาแขวนในห้องโถงหลักได้”หลิวฮูหยินหัวเราะประชดประชัน“ฮ่าๆๆ”ทั้งห้องโถงส่งเสียงหัวเราะจนหยุดไม่ได้เด็กบ้านนอกนี่เอามาเชิดหน้าชูตาไม่ได้เลยจริงๆเฉาหยูเฟิ่งแอบหัวเราะอยู่ด้านข้างเจียงหวานหว่านก็ไม่ได้อธิบาย สั่งให้สือหลิ่วกับมู่เซียงเปิดม้วนภาพวาดภาพดอกไม้และนกอันน่าตื่นตาตื่นใจปรากฏต่อหน้าทุกคน“พี่หก ฝีมือวาดภาพไม่เลวเลยจริงๆ เพียงแต่ภาพวาดเช่นนี้ ในเมืองหลวงหาซื้อได้ในราคาสิบอีแปะ จะคู่ควรกับท่านย่าได้อย่างไร”มีความดูถูกพาดผ่านแววตาของเจียงอวิ้นไป ของเช่นนี้ก็กล้าเอาออกให้ผู้อื่น ฮูหยินใหญ่โกรธเคืองเป็นอย่างมากในใจของเจียงหวานหว่าน นางไม่คู่ควรกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับของหอหนีซาง คู่ควรกับแต่ภาพใบละสิบอีแปะนางไม่ควรไม่สองแม่ลูกสกุลหลิ่วเข้าร่วมงานฉลองแต่แรกเจียงหวานหว่านมุมปากโค้งขึ้น พูดขึ้นทีละคำว่า“สือหลิ่ว นำภาพเข้ามาใกล้หน่อย คุณหนูเจ็ดตาไม่ดี นางมองไ
Read More
บทที่ 36
ฮูหยินใหญ่เจียงรับรู้ได้ถึงการต่อต้านของหลิ่วซู่จึงรู้สึกไม่พอใจ“สกุลหลิว อนาคตของป๋อเหนียนกับพวกเกอเออร์อยู่ในหนึ่งห้วงความคิดของเจ้า”หลิ่วซู่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางยอมรับความขมขื่นเพื่อลูกๆ ได้ เจียงหวานหว่านกดมือของนางไว้ใต้โต๊ะ หลิ่วซู่หันศีรษะกลับไปมองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านส่ายหน้าอย่างไม่เห็นดู เกิดการต่อสู้ขึ้นในใจหลิ่วซู่มีแววตาเหยียดหยามพาดผ่านดวงตาของฮูหยินใหญ่เจียงตำแหน่งของป๋อเหนียนในเวลานี้ สกุลหลิ่วจะคู่ควรได้อย่างไรแต่วันนี้ท่านอ๋องกลัวปรากฏตัวที่นี่อย่างน่าขัดใจ ต้องคิดให้ถี่ถ้วนขึ้นกว่าเดิม เพื่ออนาคตของป๋อเหนียน ต้องไม่ให้ผู้คนมาด่าว่าเขาหลงในตัวอนุแล้วทิ้งภรรยาเอกฮูหยินเอกแห่งจวนเจียงต้องเป็นสกุลหลิ่วเท่านั้น นางช่างโชคดีจริงๆ เจียงหวานหว่านโมโหในใจ สิ่งใดที่ควรมาก็มาแล้ว เหมือนดั่งชาติก่อน ฮูหยินใหญ่เจียงใช้ลูกมาข่มขู่ท่านแม่ เฉาหยูเฟิ่งก็ไม่พอใจ กรอกตาบนมองหลิ่วซู่ ได้เปรียบไปแล้วยังทำตัวน่าเอ็นดูอีก ฮูหยินใหญ่เจียงกระแอมไอ พูดขึ้นเสียงสูง “ทุกท่าน สิบปีก่อน ป๋อเหนียนได้ยินข่าวร้ายของสกุลหลิ่วผู้เป็นภรรยา เพื่อดูแลทุกคนในครอบครัว
Read More
บทที่ 37
"พี่หก ท่านแม่ของข้าก็แต่งเข้าจวนเจียงอย่างถูกครรลองคลองธรรม ท่านย่ากับท่านพ่อได้ตัดสินใจแล้ว คนอายุน้อยไม่เชื่อฟังผู้อาวุโส เป็นการอกตัญญูอย่างยิ่ง” เจียงอวิ้นใบหน้าเปื้อนน้ำตา ราวกับลำบากใจอย่างที่สุด “เรื่องของจวนเจียง ถึงคราวต้องให้เด็กน้อยเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ตัดสินตั้งแต่เมื่อใดกัน!” เฉาอวี้เจียงอกกระเพื่อม น้ำเสียงไม่พอใจ เจียงหวานหว่านหลุบตาอย่างไม่ดุดันไปคราหนึ่ง จงใจถามว่า “ไม่ทราบว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน” “เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส ข้าคือพี่ชายภรรยาของจวนเจียง!” เฉาอวี้เจียงโกรธจนจะระเบิดแล้ว แต่ท่านอ๋องกับองค์ชายรองก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงไม่กล้าสร้างเรื่อง เจียงหวานหว่านราวกับว่าได้ยินเรื่องขบขัน “ใต้เท่า แม่ข้าไม่มีพี่ชายเช่นท่าน” แววตาของเฉาอวี้เจียงมีจิตสังหารพาดผ่าน พอเจียงป๋อเหนียนเห็นดังนั้นจึงรีบห้ามทัพ “หุบปาก” เจียงป๋อเหนียนตะโกนด่าเสียงดัง อยากจะฉีกปากเจียงหวานหว่านให้ขาด “ท่านพ่อ! เหตุใดต้องบังคับให้ท่านแม่รับสกุลเฉาขึ้นเป็นภรรยารองเทียบเคียงด้วย ท่านแม่รอท่านอยู่ที่บ้านเกิดอยู่สิบกว่าปีแล้ว ก็ไม่เห็นท่านไปรับนาง เลี้ยงหวานหว่านให้เติบใหญ่ขึ้นมาอย
Read More
บทที่ 38
เจียงหวานหว่านหลุบตาลง หลบสายตาของหรงมู่หานนางกลัวว่าเจตนาฆ่าของนางจะถูกเปิดเผย แล้วทำให้หรงมู่หานเกิดข้อสงสัยหว่างคิ้วของหรงซีมีความเย็นชา ค่อยๆ เปิดปากพูดว่า “องค์ชายรอง ชายแดนอาหารคลาดแคลน คิดหามาตรการแก้ไขได้แล้วรึ” หรงมู่หานโกรธจนขนลุก ไอเย็นลอยวาบมาที่ตัว เสด็จอาหรงซีกำลังต่อว่าที่เขาไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของแว่นแคว้น แต่มายุ่งเรื่องในมุ้งของผู้อื่น! “เสด็จอาสั่งสอนได้ถูกต้อง” ผู้คนล้วนได้ยินคำพูดของหรงซี ล้วนชะงักงัน ท่านอ๋องกล้าต่อว่าองค์ชายรองต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เชียวหรือเจียงหวานหว่านยกยิ้มมุมปาก หรงซีกำลังให้ท้ายนางอยู่!หรงมู่หานเกิดความสงสัยในใจ เหตุใดหรงซีจึงพูดแทนคุณหนูหกตระกูลเจียงด้วย! เฉาอวี้เจียงเห็นว่าสถานการณ์ไม่เอื้อต่อตนเอง จึงไม่เปิดปากพูดอีก ฮูหยินใหญ่เจียงงมองไปทางที่นั่งของหรงซีแล้วตัดสินใจยอมถอย “วันนี้ ขอจบเรื่องภรรยารองก่อน วันอื่นค่อยว่ากันเถิด” เจียงหวานหว่านยิ้มยกมุมปาก “หากไม่ได้เป็นภรรยารอง เช่นนั้นก็เป็นได้เพียงอนุ เฉาอี๋เหนียง[footnoteRef:1] คำพูดของท่านย่า เจ้าได้ยินหรือยัง” [1: อี๋เหนียง คำใช้เรียกอนุภรรยา] ฮูหยินใหญ
Read More
บทที่ 39
เจียงอวิ้นและเจียงจิ่นหนิงปกป้องเฉาหยูเฟิ่งอยู่ทั้งสองข้าง เจียงป๋อเหนียนเอ่ยดุดัน “ผู้บัญชาการโหว ท่านบุกรุกเข้ามาในจวนเจียงตามพลการ ทั้งยังค้นไปทั่วจวนอีก ท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน” จะว่าอย่างไร เขาเจียงป๋อเหนียนก็เป็นถึงขุนนางขั้นสามในราชวัง วันนี้ถูกผู้อื่นค้นจวนโดยพลการเช่นนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน! “ใต้เท้าเจียง เงียบหน่อย ข้ากำลังตามจับไส้ศึกจากศัตรูอยู่!” เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องและองค์ชายรองแล้ว ฐานะของโหวเจี๋ยต่ำต้อยมาก แต่สำหรับเจียงป๋อเหนียน โหวเจี๋ยไม่มองเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ อะไรนะ! ไส้ศึกจากศัตรู! ข้ออ้างในการตรวจค้นของโหวเจี๋ยยิ่งอยู่ยิ่งเลยเถิด เจียงป๋อเหนียนโกรธมาก! ไอ้โหวเจี๋ย ปกติก็ทำตัวแปลกๆ อยู่แล้ว ทั้งยังใช้ชื่อเสียงอำนาจขององค์รัชทายาทมาทำตัวหยิ่งยโสอีก! วันนี้มีงานฉลองมงคลที่จวนเจียง เขากลับพากองทหารบุกเข้ามาด้านใน นี่มันไม่เห็นหัวเขาชัดๆ! “ผู้บัญชาการโหว หากวันนี้ท่านหาตัวไส้ศึกไม่เจอ เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อขอข้อสรุป!”โหวเจี๋ยมองเจียงป๋อเหนียนด้วยสายตาเย็นชา “ใต้เท้าเจียง ทหารรักษาพระองค์เห็นไส้ศึกวิ่งเข้ามาในจวนเจียงกับตา
Read More
บทที่ 40
ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น จวนสกุลเจียงช่างกล้าไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดเลย นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีของเช่นนั้นอยู่เฉาหยูเฟิ่งตกใจจนนิ่งอึ้งไป เดิมทีในห่อผ้ามีตุ๊กตากระดาษวิชาปีศาจ เขียนชื่อฮูหยินใหญ่เจียงเอาไว้เจียงอวิ้นรู้ว่าในห่อผ้าเป็นของที่ใช้ในการใส่ร้ายสกุลซื่อ เหตุใดถึงได้กลายเป็นของสิ่งนี้ไปได้ เจียงอวิ้นคิดเช่นไรก็คิดไม่ออก!ปากของฮูหยินเจียงสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ บาปกรรมจริงๆ นี่เป็นถึงหลักฐานเอาผิดได้เชียวนะ!เจียงจิ่นหนิงกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง ขาสั่นทอน“นายท่านเจียง เรือชุนเป็นที่อยู่ของผู้ใด”โหวเจี๋ยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก“ของ…ข้าเอง!” เฉาหยูเฟิ่งกล่าวอย่างตะกุกตะกัก เหงื่อผุดพรายเต็มฝ่ามือนางโหวเจี๋ยจำเฉาหยูเฟิ่งได้ เป็นน้องสาวของเฉาอวี้เจียงทหารักษาพระองค์เดินไปข้างหน้า และจับเฉาหยูเฟิ่งไว้“ท่านแม่…”เจียงอวิ้นจะเข้าไปช่วยเฉาหยูเฟิ่งแต่เจียงจิ่นหนิงจับนางเอาไว้ไม่ให้นางเดินไปสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ทำให้เฉาหยูเฟิ่งยืนไม่ไหวและไม่อาจทรงตัวได้เจียงป๋อเหนียนกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “โหวเจี๋ย นี่เจ้าฉวยโอกาสแก้แค้นอย่างนั้นหรือ!”เข
Read More
ก่อนหน้า
123456
...
21
DMCA.com Protection Status