บททั้งหมดของ มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: บทที่ 291 - บทที่ 300
369
บทที่ 291
คุณหญิงมู่ก็ลงมือจัดการตบมู่เทียนซิงไปอีกที: "เจ้าขายลูกสาว ยังจะหาเหออะไรอีก! เอาของออกมาเดี๋ยวนี้!"มู่เทียนซิงได้แต่กล่าวอย่างน่าสงสาร : "ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าโกรธสิ เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลเสียกับเจ้าเลยไม่ใช่หรือไง? พ่อเองก็ได้ขูดรีดไอแก่นั่นด้วยหน่อยนึง""เจ้าเอาลูกสาวไปขายแล้วยังจะมาทำมีเหตุผลอีก!" คุณหญิงมู่โกรธจนทิ้งตัวเองนั่ลงมู่จิ่วซีรีบเดินมาหาท่านแม่ของนางเองและยิ้มกล่าว : "ท่านแม่ ท่านอย่าโกรธไปเลย อันที่จริงท่านพ่อเองก็ไม่ได้พูดอะไรผิด ถ้าข้าได้กลายเป็นลูกบุญธรรมของอัครมหาเสนาบดีไป๋ ข้าก็จะมีใบบุญให้พึ่งพิงมากมาย อีกอย่างอัครมหาเสนาบดีไป๋เองก็น่าสงสารจริงๆ ข้าจะต้องสนิทกับไป๋ชิงได้ดีแน่ ลูกบุญธรรมก็ลูกบุญธรรมสิ"พอพูดจบก็ยื่นมืออกมาและกล่าวต่อ : "ท่านพ่อ ทองทับกระดาษสองอันนั้นเอามาให้ข้า กริชชิงหลงให้ข้าด้วย ไม่มีการเจรจาต่อรองอะไรทั้งนั้น ดาบราชาหมาป่าก็ให้ท่านไปแล้ว ท่านอย่าได้คืบจะเอาศอกดีกว่า"มู่เทียนซิงก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่เอากริชชิงหลงออกมามู่จิ่วซีก็เพียงเหลือบเห็นก็ชอบทันที กริชทำมาจากทองแดง โกร่งกริชสลักเป็นมังกรชิงหลง ตอนชักออกมาจากปอกกริ
Read More
บทที่ 292
"ซีเอ๋อร์ พ่อเห็นคุณค่าหวงแหนเจ้ามาก เจ้าพูดแบบนี้มันทำร้ายจิตใจพ่อ" มู่เทียนซิงรีบกล่าวออกมามู่จิ่วซีไม่สนใจเขาพร้อมกับรีบเรียกให้เอาชามาให้ ไม่นานนักไป๋ชินเตี่ยนก็ยิ้มแย้มเดินเข้ามา"ซีเอ๋อร์น้อมคำนับท่านพ่อบุญธรรม" มู่จิ่วซีคุกเข่าแสดงความเคารพทันทีอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็ตกใจ จากนั้นก็หัวเราะกล่าวออกมาเสียงดัง : "ดีๆๆ ไม่คาดคิดว่าคนแก่อย่างข้าจะมีวาสนาขนาดนี้ ซีเอ๋อร์รีบลุกขึ้นเถอะ"ไป๋ชินเตี่ยนตกใจพร้อมกับรีบช่วยพยุงมู่จิ่วซีลุกขึ้นมา"ไอแก่ ข้าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยสักอย่าง กริชชิงหลงก็ถูกซีเอ๋อร์เอาไป ทองทับกระดาษก็ถูกภรรยาข้าเอาไปแล้ว" มู่เทียนซิงทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเขาทำธุรกิจขาดทุน"ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องขายหน้าหรอก พ่อบุญธรรมเชิญนั่ง ซีเอ๋อร์มีเรื่องจะอยู่พอดี พ่อบุญธรรมช่วยซีเอ๋อร์วิเคราะห์หน่อย" มู่จิ่วซีกล่าวมู่เทียนซิงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที จากนั้นมู่จิ่วซีก็เล่าเรื่องของเซียวหลิงเย่ว์ให้ฟังรวมถึงเซียวหลิงเย่ว์คือลูกสาวบุญธรรมซึ่งเป็นของปรมาจารย์ของโม่จุน และก็เป็นองค์หญิงเจ็ดของแคว้นซีเย่ว์เล่าออกมาให้ฟังไป๋ชินเตี่ยนและมู่เทียนซิงพอได้ยินก็มีสีหน้าตกใจ"พ
Read More
บทที่ 293
มู่จิ่วซีขมวดคิ้วและกล่าว: "แต่หากพระชายาสามถูกลอบสังการจนตายไปจริงๆ พวกเราก็เป็นไปได้ที่จะไม่ต้องช่วยนางและมอบธัญพืช 10,000 ตันให้ไม่ใช่หรือไง?""ฮาๆ เซียวหลิงเย่ว์ได้เผยตัวตนของนางเองออกมาแล้ว ดังนั้นหากนางตายไป องค์ชายสามก็จะบอกว่าองค์หญิงเจ็ดแห่งแคว้นซีเย่ว์ถูกลอบสังการตายในแคว้นเกาอวิ๋น ความขัดแย้งของทั้งสองแคว้นก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น เกรงว่าธัญพืชแค่ 10,000 ตันคงไม่อาจประนีประนอมได้" โม่จุนก็กล่าวขึ้นมาในทันที"ดังนั้นหากพระชายาสามตาย พวกเราก็ต้องประนีประนอมเรื่องนี้ให้สงบ เลยต้องมอบธัญพืชกับองค์ชายสามมากขึ้น" เสียงของมู่จิ่วซีก็กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมโม่จุนก็พยักหน้าและกล่าว : "ถึงอย่างไรต่อให้พวกเขากลับไป จักรพรรดิแคว้นซีเย่ว์ก็คงจะก่อปัญหาขึ้นมาอย่างแน่นอน บอกว่าเพื่อล้างแค้นให้กับองค์หญิงเจ็ด ต่อให้เขาไม่ได้ก่อปัญหาขึ้นมาในทันที แต่เฟิ่งหล่าวคนหกล่ะ?"อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็รีบกล่าวขึ้นมา : "ตอนนี้องค์ชายสามได้ธัญพืชมาเพิ่ม 10,000 ตัน ซึ่งถือว่าพอจะขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้ งั้นเรื่องขอลองค์หญิงเจ็ด เกรงว่าเขากลับไปแล้วก็คงจะไม่พูดออกมา""เมื่อมองแบบนี้ พระชายาสามก็ช่างน่าสงสารจริ
Read More
บทที่ 294
พอนึกถึงว่าโม่จุนมีความรู้สึกกับมู่จิ่วซี จะช้าหรือเร็วเขาก็ต้องพบว่า เมื่อตอนนั้นทั้งสองคนแต่งงานกัน เขาที่เป็นพ่อบุญธรรมของมู่จิ่วซีก็จะได้เป็นผู้ใหญ่ของโม่จุนแน่นอน"อัครมหาเสนาบดี เจ้ากับจวนแม่ทัพใหญ่ใกล้ชิดขนาดนี้จะดีจริงๆ หรือ?" โม่จุนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม"โม่จุน เจ้าหมายความว่าไง นี่ยังจะมีอะไรไม่ดีอีก หรือเจ้าคิดว่าท่านพ่อกับท่านพ่อบุญธรรมข้าร่วมมือกันก่อกบฎหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"ซีเอ๋อร์!" มู่เทียนซิงถูกมู่จิ่วซีทำให้ตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาไป๋ชินเตี่ยนเองก็ตกใจจนหน้าซีดขาว : "ซีเอ๋อร์ อย่าพูดสามหาว""ท่านพ่อกับท่านพ่อบุญธรรมของข้าล้วนซื่อสัตย์ภักดีต่อแคว้นเกาอวิ๋น โม่จุน เจ้าอย่ามาหวาดระแวงกันดีกว่า แบบนี้จะทำให้คนอื่นเสียน้ำใจ""ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย ก็แค่คิดว่าไม่เหมาะสม""ข้ายอมรับเขาเป็นพ่อบุญธรรมแล้วเกี่ยวอะรไกับเจ้าด้วย เรื่องนี้เจ้ายังจะยุ่งอีกหรอ? นี่เจ้าจะยุ่มย่ามมากเกินไปแล้วไหม?" มู่จิ่วซีก็ขมวดคิ้วแน่นมากขึ้นในทันทีมู่เทียนซิงและอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็มองตากัน พวกเขากังวลเล็กน้อยกับความคิดของโม่จุน เขาคงไม่คิดจริงๆ ว่าพวกเขาร่วมมือกันหรอกใ
Read More
บทที่ 295
มู่จิ่วซีก้กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น: "ขอบคุณลุงไป๋ งั้นขอก็ไม่ขอปฏิเสธความหวังดีของท่านล่ะกัน" จากนั้นนางก็หันมองโม่จุนอย่างอวดดี"เจ้าเองก็รู้จักกริชเล่มนี้สินะ ความคมของมันเหลือจะเชื่อเลยจริงๆ"โม่จุนก็หันมองกริชชิงหลงเล่มนั้นและกล่าว : "กริชเล่มนี้ ตอนที่เสด็จปู่ของข้าได้รับมา ได้ยินว่ามาจากแค้วนอู มีตำนานท่อนหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ หลังจากนี้หากพบคนของแค้วนอู จงระวังที่จะใช้มันให้ดี"อัครมหาเสนาบดีไป๋ตกตะลึงในสายตาและกล่าวออกมา : "ข้าน้อยเองไม่ทราบเรื่องเลย ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพอจะเล่าได้หรือไม่"มู่จิ่วซีเองก็สงสัยในทันทีและพยักหน้ากล่าว : "ตำนานอะไร เจ้ารีบพูดมาให้ฟังเร็วๆ" นางขณะพูดก็เล่นกริชในมือไปด้วยพอดูไปดูมา นางก็กลับพบว่าตรงหัวมังกรชิงหลงชิงหลงด้านหลังมีร่องอยู่ร่องหนึ่ง เพียงแต่ร่องนี้ เนื่องจากสาเหตุเพราะเป็นทองแดง เลยยากจะมองออกได้ เลยทำให้ไม่มีคนใส่ใจนายเลยค่อยๆ ใช้แรงขยับ แต่ว่าก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรโม่จุนคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นมา : "ทุกคนต่างรู้ว่าภายในบรรดาทั้ง 6 แคว้น แค้วนอูขนาดเล็กที่สุด แต่ก็เป็นแคว้นที่ลึกลับมากสุดเช่นกัน ตั้งอยู่ในหุบเขาของตะวันตกเฉียง
Read More
บทที่ 296
ใบหน้าหล่อเหล่าของโม่จุนก็เปลี่ยนเป็นอึมครึมในทันที พร้อมกับยิ้มกล่าวอย่างเย็นเยือก : "แม่ทัพใหญ่มู่ ข้าสามารถบอกกับเจ้าให้ชัดเจนได้อย่าง เย่อู่เหิงไร้อนาคตที่ดี""ทำไมถึงไร้อนาคตที่ดี? เขาตอนนี้เป็นขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ ทำงานได้อย่างโดดเด่น ข้าเองก็อยากจะสนับสนุนเขา ท่านผู้สำเร็จราชการแทน เขาเป็นคนมีความสามารถ ท่านคงไม่กีดขวางเส้นทางสายงานอาชีพเขาเพราะความแค้นส่วนตัวหรอกใช่ไหม?" มู่เทียนซิงกล่าวอย่างหงุดหงิดๅ"พวกท่านพูดอะไรกัน? อู่เหิงชอบข้าอะไร? เล่นมุขตลกอะไรกัน?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างไม่เข้าใจ นางรู้สึกว่าท่านพ่อของนางเองและโม่จุน ทำไมจู่ๆ ถึงได้ไม่ชอบหน้ากันขึ้นมาล่ะ?มู่เทียนซิงก็ดีใจในทันทีพร้อมกับเอาคำพูดของเย่อู่เหิงตอนหลังจากนางดื่มจนเมาและกลับไปเมื่อคืนบอกให้ฟังอีกครั้ง มู่จิ่วซีพอได้ฟังก็กล่าวออกมา : "ท่านพ่อ นี่ท่านเชื่อหรอ นี่คือข้ออ้างเข้าใจไหม? อู่เหิงไม่อยากสู่ขอแต่งงานกับองค์หญิงสือ ดังนั้นเลยบอกชอบข้าเพื่อเอามาเป็นข้ออ้าง"มู่จิ่วซีทำสีหน้ารังเกียจพ่อของตัวเองที่ไม่มีสมอง"จะเป็นไปได้ยังไง พ่อเองเห็นว่าเขาจริงใจ ยังบอกอีกว่าถ้าจะเจ้ายังไม่ได้แต่งงาน เขาก็จะ
Read More
บทที่ 297
ดวงตาสีนิลทั้งสองข้างของโม่จุนก็หันมองมู่จิ่วซี มู่จิ่วซีก็เลิกคิ้วแล้วหันมองเขา"เรื่องมันซับซ้อนมากว่าที่พวกเราคิด" โม่จุนถอนหายใจและกล่าวออกมา"เจ้าหมายถึงเรื่องไหนกัน?" มู่จิ่วซีฟังไม่เข้าใจ"เรื่องที่ถูกลอบทำร้ายในวันนั้น ชายชุดดำทั้ง 6 คน หนึ่งในนั้นข้าสงสัยว่าเป็นเซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารแห่งแคว้นเป่ยจิ้น" แววตาอันคมกริบของโม่จุนทำให้มู่จิ่วซีสั่นเหมือนลูกนกมู่จิ่วซีตกใจกลัวจนเอ่ยออกมา : "อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง?""ข้าไม่มั่นใจมาโดยตลอด ดังนั้นเลยไม่อาจพูดออกมา เจ้าจำได้ไหมตอนที่ข้าถามเจ้าว่าเป็นไส้ศึกผู้พิทักษ์เงาของแคว้นเป่ยจิ้นหรือไม่ เจ้าบอกว่าก็ไม่แน่ใจ ข้าก็เลยไม่พูดอะไรอีก"มู่จิ่วซีพยักหน้า ตอนนั้นนางตอบว่าไม่แน่ใจ จนกระทั่งเรื่องของหวางชิว ลู่เวยหย่า จ้วงชิงเหมย ร้านเฟิงเหอเปิดเผยออกมา เหตุการณ์ต่างๆ ของแคว้นเป่ยจิ้นที่เกิดขึ้นนี้ นางเลยถึงกล้ามั่นใจว่าองค์กรไส้ศึกของแคว้นเป่ยจิ้นได้แฝงตัวเข้ามาแล้ว"งั้นเจ้าตอนนี้ก็มั่นใจแล้วงั้นเหรอ?" มู่จิ่วซีถามโม่จุนก็พยักหน้าตอบ : "ใช่ งั้นเจ้ายังจำหัวธนูนั้นได้ไหม ข้าให้คนไปสืบแล้ว มันเป็นหัวธนูเงี่ยงย้อนซึ่งมีเฉพาะแค่ใน
Read More
บทที่ 298
มู่จิ่วซีกล่าวออกมาอย่างไม่รู้จะร้องไห้ดีหรือขำดี : "คนของแค้วนอูสวยงามหล่อเหลาขนาดนี้เลยหรอ? ไม่ใช่ต้องตัวดำเมี่ยมจนดูไม่ได้หรอกเหรอ?"ถึงอย่างไรทางตพวันตกเฉียงใต้ด้านนั้นก็ร้อนชื้นมาก แดดแรงเกือบจะแทบตลอดทั้งปี"เจ้าไปรู้อะไรมาของเจ้า ลือกันว่าหญิงงามของแค้วนอูเป็นอันดับต้นๆ ของทั้ง แคว้น ผู้ชายจะไปขี้เหล่ได้ยังไง?" โม่จุนไม่รู้ว่ามู่จิ่วซีคิดอะไรของนาง"จริงหรอ? หญิงงามของแค้วนอูสวยมากขนาดนั้นเลยหรอ? เจ้าเคยเห็นหรือไง?""ไม่เคย!" โม่จุนหมดคำจะพูด ตอนนี้มันใช่เวลาพูดเรื่องนี้ไหมมู่จิ่วซีก็มุ่ยปากและพูดออกมา : "เอาล่ะ เรื่องนี้ข้าได้ทราบแล้ว เจ้ายังมีเรื่องอื่นจะพูดอีกไหม?"โม่จุนคิดอยู่สักพักก็พูดออกมา : "เจ้าออกไปไหนก็ต้องระวังด้วย ตอนนี้แคว้นซีเย่ว์และแคว้นเป่ยจิ้นเกรงว่าคงเห็นเจ้าเป็นหนอมยอดอกแล้ว แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าควรเห็นแก่คำเตือนของข้า ระวังไว้สักหน่อยก็ย่อมดีกว่า""เจ้าวางใจเถอะ ข้ารักชีวิตมากยิ่งกว่าเจ้า ข้าตอนนี้ทั้งสวย รวยและมีความสามารถ ชีวิตอันรุ่งโรขน์เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น จะให้มาตายได้ยังไง" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโม่จุนมองนางอย่างดูถูก จากนั้นก็กล่าวออกมา
Read More
บทที่ 299
มู่จิ่วซีและไป๋ชิงได้เดินเข้าไป บ่าวรับใช้หลายคนกำลังจัดเก็บโต๊ะอาหาร บนโต๊ะอาหารนั้นเละเทะไปหมด มีทั้งอาหารและของหวาน แต่ทว่ากลับทุกกินไปจนเรียบตอนนี้สภาพไป๋เฟิ่งหว่านทรงผมกระเซอะกระเซิงพร้อมกับกำลังดื่มซุปอยู่ ตรงปากก็ได้มีซู๊ดน้ำซุปดังออกมามู่จิ่วซีตกใจมาก นี่เพิ่งผ่านไปได้ม่นาน ไป๋เฟิ่งหว่านกลับอ้วนกลมขึ้นมาจริงๆ ดูอวบอิ่มอย่างเห็นได้ชัด"น้องรอง" ไป๋ชิงพอเห็นสภาพของนางก็รีบวิ่งเข้าไปและกล่าว "เจ้าเลิกกินได้แล้ว เดี๋ยวก็ท้องแตกหรอก"ไป๋เฟิ่งหว่านเงยหน้าขึ้นมามองไป๋ชิง จากนั้นก็เหวี่ยงสะบัดไป๋ชิงและพูด : "เจ้ามาทำอะไร ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าที่ทำร้ายท่านแม่ของข้า สังหารฉี่เฟิงจนตาย"มู่จิ่วซียื่นมือออกไปช่วยพยุงไป๋ชิง ไม่งั้นไป๋ชิงคงล้มกระเด็นไปกองกับะื้น"มู่จิ่วซี!" ไป๋เฟิ่งหว่านพอเห็นว่าเป็นมู่จิ่วซี ทันใดนั้นแววตาที่หรี่เล็กสองข้างก็เบิกโพลงกว้างขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหา"มู่จิ่วซี เจ้าไปตายซะ!"เพียงแต่มู่จิ่วซีใช้แค่เท้าข้างเดียวก็ทีบไป๋เฟิ่งหว่านกระเด็นออกไปได้แล้วไป๋เฟิ่งหว่านส่งเสียงร้องอย่างเวทนา นางคลานบนพื้น จากนั้นก็สำรอกอาหารออกมาจากปาก
Read More
บทที่ 300
ไป๋เฟิ่งหว่านหลังจากตกใจก็กล่าวออกมา: "เจ้า เจ้าพูดอะไร? ท่านผู้สำเร็จราชการแทนนัดข้าไปทานข้าวหรอ?""ไม่งั้นเจ้าคิดว่าข้าจะมาหาหรอ?" มู่จิ่วซีกรอกตาใส่"โม่จุนเชิญข้าไปร่วมทานอาหาร?" ไป๋เฟิ่งหว่านแทบไม่อยากจะเชื่อ ทันใดนั้นสีหน้าก็ยินดีขึ้นมา และเอาแต่พูดประโยคนั้นซ้ำไปมา"โม่จุนนัดเจ้าไปทานอาหารที่หอชมจันทร์อีก 3 วันข้างหน้า เจ้าจะไปหรือไม่ไป? ถ้าจะไป เจ้าก็จัดการตัวเองให้ดีภายใน 3 วันนี้ ใครบ้างที่ไม่มีเรื่องลำบากใจ พ่อเจ้าเองก็แก่ขนาดนั้น เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้าไม่แม้แต่จะปลอบพ่อของเจ้า นี่ยังสมควรจะเป็นลูกสาวของเขาอีกหรอ? เสียแรงที่เขารักเอ็นดูเจ้า"มู่จิ่วซีกล่าวสั่งสอนต่อ "คนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นกลับมาได้ แต่คนเป็นยังไงก็ต้องมีชีวิตต่อไป ตอนนี้จวนอัครมหาเสนาบดีเหลือเพียงแค่เจ้า ไป๋ชิงและพ่อของพวกเจ้าต้องพึ่งพาอาศัยกัน ข้าเห็นว่าพ่อเจ้าดูแก่ขึ้นเป็น 10 ปี เจ้าทำใจได้จริงหรอ? ไป๋ชิงถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวตั้งหลายปี นางก็ยังรู้ถึงความขมขื่นของพ่อนาง เจ้าถูกพ่อเจ้าประตบประหงมมาหลายปี เจ้าจะมีน้ำใจให้กับพ่อเจ้าไม่ได้เลยหรือไง?"ไป๋เฟิ่งหว่านพอฟังคำพูดของมู่จิ่วซี ทันใดนั้นก็ร้องไห้อ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
2829303132
...
37
DMCA.com Protection Status