All Chapters of อ๋องพิการกับชายาผู้คลั่งไคล้การฆ่า: Chapter 11 - Chapter 20
100 Chapters
บทที่ 11
สายตานั้น เสิ่นอวี้เคยเห็นหลายครั้งในชาติที่แล้วแต่กลับไม่เคยมองเขาอย่างละเอียดเวลานี้มองดูเขา จึงจะพบว่าแม้เขานอนอยู่ รูปร่างก็สูงใหญ่แข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกันมาก เพียงแต่ขาสองข้างที่โผล่ออกมาข้างนอกครึ่งท่อนถูกพันด้วยผ้าพันแผล มีคราบเลือดซึมออกมาจำนวนมาก เห็นแล้วน่าตกใจยิ่งลูกธนูสองดอกนั้น ดอกหนึ่งยิงเข้าที่ข้อพับหลังเข่า อีกดอกยิงเข้าที่ต้นขาของเขา ตอนนี้ล้วนถูกเสวียโส่วดึงออกมาแล้ว โยนทิ้งไว้บนโต๊ะข้างๆ โดยมีเลือดและเนื้อติดอยู่แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่เอาแต่จ้องนางราวกับว่าหัวธนูที่มีขอกลับด้านไม่ได้ถูกขุดออกมาจากร่างกายของเขาหางตาของเสิ่นอวี้กวาดผ่านหัวธนูที่มีเลือดติดอยู่ ดวงตาสั่นเครือ รวบรวมความกล้าสบตาเขาต้าฉีดินแดนกำเนิดชนประเสริฐ เมืองอิ๋งโจวมีชายงามนับไม่ถ้วน สุภาพหล่องามก็มี ละมุมละไมกลมกล่อมก็มี สุขุมองอาจก็มี สันโดษเก็บตัวก็มีไม่น้อยแต่เมื่อเทียบกับเขา อย่างไรก็ขาดความน่าสนใจไปบ้างเขาเป็นประเภทสง่างามอย่างมีศิลปะ เค้าโครงใบหน้าของเขาเหมือนถูกแกะสลักด้วยมีด อวัยวะรับสัมผัสทั้งห้าโอ่อ่าอย่างที่สุด แต่ก็เยือกเย็นละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง เมื่อใดก็ตามท
Read more
บทที่ 12
เสวียโส่วได้ยินแล้วสูดลมเข้าลึกๆ จากนั้นก็พ่นออกมาแรงๆ จึงจะกล่าว “ที่เขาถูกคือกู่ กู่ไม่เพียงมีพิษที่รุนแรง ยังกลืนกินกำลังภายในด้วย ข้าใช้เข็มเงินผนึกแมลงกู่ไว้ที่ขาชั่วคราว ถ่ายกำลังภายในของเขาไปที่ร่างกายส่วนบน”“กู่?”พลันจ้านอวิ๋นเซียวได้ยินแล้วขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปทางเสวียโส่วชั่วพริบตา ดวงตามืดมนบีบคั้นคนเสวียโส่วมองเขา ราวกับนึกถึงใครบางคน เหม่อไปครู่หนึ่งจึงจะกล่าว “ท่านอ๋องไม่ต้องสงสัย เป็นกู่ของจิ่วหลี”จิ่วหลีไม่ได้อยู่ในต้าฉี แต่อยู่ทางตอนใต้ของต้าฉู่ แม้แต่เสิ่นอวี้ก็คาดคิดไม่ถึง การวางแผนครั้งนี้ขององค์ชายสาม มีอิทธิพลของแคว้นข้างเคียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ชาติที่แล้วตอนนางรู้ว่าจ้านอวิ๋นเซียวถูกพิษ ก็หลังจากนั้นหลายปีแล้วตอนนี้แค่คิดก็รู้สึกว่าน่ากลัวแต่ครั้งนี้…“ผู้อาวุโส แล้วท่านสามารถกำจัดกู่นี้หรือไม่?” นางคว้าแขนเสื้อเสวียโส่วด้วยความร้อนใจ ในดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนรนที่อยากจะพลิกสถานการณ์จ้านอวิ๋นเซียวมองนาง คิ้วขมวดแน่น ราวกับจะมองนางให้ทะลุปรุโปร่งเขาอยากถามคำหนึ่ง นางคาดหวังให้เขาไปตายที่สุดไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นางควรจะดีใ
Read more
บทที่ 13
องค์หญิงใหญ่ได้ยินแล้วตะลึงงันก่อน จากนั้นพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ พลันมองไปทางเสิ่นอวี้เสิ่นอวี้เข้าใจความถากถางในดวงตาคู่นั้นเมื่อชาติที่แล้วนางโหยหาองค์ชายสามทั้งใจ ไม่รู้ว่าคืนนี้องค์หญิงใหญ่ปฏิบัติต่อซ่งหว่านฉิ่งอย่างไรแต่ตอนนี้ นางก็อยู่ที่นี่เช่นกัน องค์หญิงใหญ่กลับเผยให้เห็นรอยยิ้มเย็นชาที่ลึกลับเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ากำลังเยาะเย้ยความน่าอับอายของพวกนางสองพี่น้องหรอกหรือ?เวลานี้เอง เสิ่นจิ้นเดินเข้ามาพลางรีบกล่าว “องค์หญิงใหญ่ กระหม่อมสั่งสอนลูกไม่ดี…”องค์หญิงใหญ่กลับชิงกล่าวตัดบทเขา พลันกวาดมองเสิ่นอวี้อย่างติดตลกแล้วกล่าว “ในเมื่อพี่น้องตระกูลเสิ่นเจตนาดีเช่นนี้ ไม่ให้เข้าเรือนก็ดูเหมือนข้าจะใจร้ายเกินไป…ท่านโหวเสิ่นกับหมอหลวงเสิ่นเข้ามานั่งเถอะ”พูดพลางกวาดมองที่นั่งข้างในเก้าอี้สองตัวนั้นถูกกำแพงขวางพอดีทั้งสองหมดหนทาง ได้แต่เข้ามานั่งลง รอซ่งหว่านฉิ่งเข้ามาสร้างความอับอายสายตาของเสิ่นอวี้เลื่อนผ่านใบหน้าองค์หญิงใหญ่ ตระหนักกะทันหัน : องค์หญิงใหญ่ไม่เพียงมีความเย่อหยิ่ง แต่ยังมีความโหดเหี้ยมและอุบายที่ถูกขัดเกลาออกมาจากวังหลังของราชวงศ์นางน่าจะมองความคิด
Read more
บทที่ 14
ดวงตาซ่งหว่านฉิ่งเบิกกว้างราวกับกระดิ่งเสิ่นอวี้มองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าเย็นชา จึงจะเอ่ยปาก “เจ้านับว่ารู้เรื่องสัญญาหมั้นระหว่างเสิ่นจ้านสองตระกูลไม่น้อยเลยนะ”อย่างที่ซ่งหว่านฉิ่งพูด สัญญาหมั้นของเสิ่นจ้านสองตระกูลเป็นเพียงการตกลงแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ โดยส่งคนออกมาตระกูลละหนึ่งคน ขอแค่ทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลเสิ่นกับตระกูลจ้านก็เพียงพอเพียงแต่ต่อมา ตระกูลจ้านมีจ้านอวิ๋นเซียวเป็นทายาทผู้สืบทอดเพียงคนเดียว เขามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยและถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องอย่างรวดเร็ว กลายเป็นขุนพลและท่านอ๋องที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าฉี สัญญาหมั้นนี้ย่อมตกไปเป็นของเขาส่วนตระกูลเสิ่น ตอนนั้นมีเพียงเสิ่นซินกับเสิ่นอวี้ลูกสาวสองคนเสิ่นซินเป็นลูกสาวสายตรงคนโตของท่านโหวเสิ่นกับฮูหยินใหญ่นางกู้ จิตใจบริสุทธิ์บุคลิกสง่างาม เป็นแบบอย่างของเหล่าคุณหนูชนชั้นสูงในเมืองหลวง ส่วนเสิ่นอวี้เป็นลูกอนุภรรยาที่เกิดมาเพราะหลิ่วอี๋เหนียงวางยาท่านโหวเสิ่น และยังอยู่ภายใต้การอบรมสั่งสอนของหลิ่วอี๋เหนียง พูดจาเย่อหยิ่ง การกระทำหยาบคายไร้มารยาทแต่จ้านอวิ๋นเซียวกลับเลือกนาง
Read more
บทที่ 15
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสิ่นลั่วเข้ามาช่วยนางทำแผลเสิ่นอวี้มองดูเขา นึกถึงชาติที่แล้วเขาเดือดร้อนเพราะตนเอง กระดูกสันหลังหักได้รับความขุ่นเคือง เบ้าตาอดไม่ได้ที่จะแดง นางกล่าว “พี่ชายรอง ขอโทษเจ้าค่ะ เป็นเพราะข้าไม่รู้ความ ทำให้จวนโหวเดือดร้อน…” เสิ่นลั่วตะลึงงัน มองนางอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง จากนั้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น “ยายเด็กโง่ พูดเหลวไหลอะไร?วันนี้เจ้าทำได้ดีมากที่จวนอ๋อง ทำให้พี่ชายรองต้องมองเจ้าใหม่แล้ว!” “เพียงแต่ดูท่าทางของแม่นางซ่งในวันนี้ เกรงว่าต้องคับแค้นใจแน่” “เจ้ากับนางอยู่ใก้ลกัน ต่อไปต้องระวังตัวให้มาก อย่าไปหลงกลนางล่ะ พรุ่งนี้ข้าจะไปคุยกับท่านแม่ ในเมื่อแม่นางซ่งปักปิ่นนานแล้ว ก็รีบหาใครสักคนแต่งออกไปเถอะ ไม่เช่นนั้นอยู่บ้านจะสร้างปัญหาอีก” ชาติที่แล้วตอนเขาพูดคำพูดนี้ เสิ่นอวี้ปกป้องซ่งหว่านฉิ่งจนแตกหักกับเขา ต่อมาก็ไม่ยอมเรียนแพทย์กับเขาอีก ทั้งสองคนห่างเหินกันขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาถูกลงทัณฑ์เลาะกระดูกตาย ทั้งสองก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันในใจเสิ่นอวี้รู้สึกผิดมากครั้งนี้นางพยักหน้าอย่างเชื่อฟังมาก “ข้าฟังพี่ชายรองเจ้าค่ะ” เสิ่นลั่วได้ยินแล้วอดไม่ได้ที่จ
Read more
บทที่ 16
ผู้ที่เข้ามามีใบหน้างามสง่าและอ่อนโยน เขียนคิ้วจางๆ แต่ขอบตากลับคล้ำมาก เห็นได้ชัดว่าหลับไม่สนิทมาหลายคืนแล้ว ควบคู่กับนางตั้งครรภ์ต้องใช้พลังงานเยอะ แลดูซีดเซียวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแต่สายตาที่มองไปทางนาง กลับอ่อนโยนและเป็นห่วง “อวี๋เอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้างแล้ว?”พูดพลาง คนเดินมาถึงตรงหน้าแล้วคือฮูหยินใหญ่นางกู้นั่นเองเสิ่นอวี้มองนางพลางเรียก “ท่านแม่”นางกู่ตะลึงงันเล็กน้อยไม่รู้ว่าใช่ภาพหลอนหรือไม่ นางรู้สึกว่าเสียงของลูกสาวคนเล็กที่เรียกนางในวันนี้ ไม่ได้ต่อต้านและแข็งกระด้างเช่นเมื่อก่อน กลับกันเหมือนแมวลูกอ่อนที่ติดแม่เล็กน้อยพลันใจของนางอ่อนลงทันที รีบก้าวออกไปตรวจดูร่างกายเสิ่นอวี้พลางกล่าว “เมื่อวานหาหมอหลวงไม่ได้ จึงหาหมอพเนจรมาให้เจ้าแทน คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับหนีไปเสียก่อน…ฝนตกหนักเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่รู้จักรักตัวเองเสียเลย?”“พี่ชายรองของเจ้าบอกว่าเจ้าถูกคนของจวนอ๋องแทง แผลยังเจ็บหรือไม่?” นางเอื้อมมือออกไปลูบไหล่นางอย่างระมัดระวัง นิ้วมือสั่นเทาเล็กน้อยเสิ่นอวี้หวนคืนสติ หัวใจสั่นสะท้าน จับมือของนางไว้ กล่าวเสียงสะอื้น “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นอะไร ให้ท่านแม่ต้อ
Read more
บทที่ 17
“ดังนั้นล่ะ?”เสิ่นอวี้วางของกินลง มองไปทางนางหลิ่วอี๋เหนียงเห็นว่านางสนใจ หยุดร้องไห้ทันที พลันรีบก้าวออกไปกล่าว “อวี้เอ๋อร์ ฉิ่งเอ๋อร์รู้ว่าตัวเองผิดแล้ว ท่านแม่ของเจ้าก็พูดแล้ว จะรีบหาคนให้นางแต่งออกไป ต่อไปนางก็จะไม่ขวางหูขวางตาเจ้าอีก…แต่นางก็ต้องหาใครสักคนก่อนกระมัง?”ชาติที่แล้วและชาตินี้ เสิ่นอวี้อยู่กับนางนานเช่นนี้ นางแค่ยกหาง เสิ่นอวี้ก็รู้แล้วว่านางจะผายลมอะไรได้ยินนางกล่าวอย่างที่คิด “ท่านแม่ของเจ้าใจร้อนเกินไป โอกาสที่ชายหหญิงเจอกันนั้นมีจำกัด งานเลี้ยงวันเกิดของพระชายาเฒ่าเป็นโอกาสที่เหมาะสม เจ้าแค่พานางไปด้วย ให้นางดูพวกคุณชายที่มาร่วมอวยพร…”“แค่นี้เองหรือ?”เสิ่นอวี้ตัดบทนางคนที่ซ่งหว่านฉิ่งอยากแต่งงานด้วยคือจ้านอวิ๋นเซียว ไม่มีจ้านอวิ๋นเซียว นางยังสามารถเลือกองค์ชายสามหยวนเฉินเหมือนชาติที่แล้ว ชนชั้นราชวงศ์อยู่ตรงหน้า นางจำเป็นต้องไปดูตัวผู้อื่นที่งานเลี้ยงวันเกิดพระชายาเฒ่าอีกหรือ?แต่เสิ่นอวี้ผ่านประสบการณ์สองชาติ ดวงตาของนางลึกล้ำ ความคิดของนางไม่ใช่สิ่งที่หลิ่วอี๋เหนียงสามารถมองออกพลันดวงตาหลิ่วอี๋เหนียงกะพริบ นางพยักหน้า “แค่นี้แหละ”“ถือว่าแม่ขอร้
Read more
บทที่ 18
“อ๋องหมิงหยางมาแล้ว!”ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะเบ็งเสียงเบา ในห้องราวกับถูกจุดชนวนทันที “สมกับเป็นอ๋องหมิงหยาง บาดเจ็บจนต้องนั่งรถเข็นเช่นนั้น ก็ไม่สามารถบดบังกลิ่นอายความน่าเกรงขามที่ได้มาจากการเข่นฆ่าบนสนามรบ!”“ขุนนางอย่างพวกเราเทียบอะไรท่านอ๋องไม่ได้เลย!”ภายในห้องเต็มไปด้วยคำชื่นชมเขาหัวใจเสิ่นอวี้ก็เต้นรัวเช่นกันเขาพิการขาสองข้าง กลับดูน่าหลงใหลกว่าก่อนหน้านี้หลายส่วน…ไม่รู้ว่าเกิดจากจิตใจที่เปลี่ยนไปของนาง หรือเพราะกำลังภายในทั้งหมดของเขามาควบรวมอยู่ตรงร่างกายส่วนบนเวลาราวกับถูกยืดยาวขึ้น เสิ่นอวี้รู้สึกว่าลมหายใจของตนเองแทบหยุดชะงักสายตาของจ้านอวิ๋นเซียวกวาดผ่านทุกคน มาหยุดอยู่ตรงใบหน้านางชั่วขณะไร้คลื่นเหนือน้ำ แต่กลับมีคลื่นใต้น้ำสายตาประสานกัน หัวใจเสิ่นอวี้สั่นสะท้านเมื่อหวนคืนสติ เขาได้โยกรถเข็นเข้าไปในห้องแล้ว พลันกล่าวเสียงดังกึกก้องไปยังเก้าอี้หลัก “กระหม่อมคำนับฝ่าบาท! ขอให้ท่านย่าสุขภาพแข็งแรงอายุยืนหมื่นปี!”ฮ่องเต้กลับมองไปทางเขาด้วยความเป็นห่วง “อ๋องหมิงหยาง อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? จะให้ข้าประทานหมอดังทั่วหล้าหรือไม่…”“ไม่เป็นไรแล้วพ่ะย
Read more
บทที่ 19
จากนั้นเสียง ‘ชิ้ง’ ดังขึ้น ถั่วลิสงเม็ดหนึ่งกระแทกใส่คมกระบี่ พลันปลายกระบี่เบี่ยง เฉียดหัวไหล่ของนางไป รู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นอันตรายเหมือนกับชาติที่แล้ว จ้านอวิ๋นเซียวลงมือหยุดท่านอ๋องจ้านเฒ่าไว้เสิ่นอวี้ค่อยๆ หายใจตั้งสติ หลบสายตาผู้อื่น ก้มหน้ามองเศษกระดาษที่ตนแย่งมาภายใต้สถานการณ์คับขันเมื่อครู่จากนั้นก็ตั้งสติได้!หนังสือแต่งงานที่ซ่งหว่านฉิ่งฉีกเป็นของปลอม!นางเก็บเศษกระดาษ หันไปมององค์ชายสาม และซ่งหว่านฉิ่งกับเจ้ากรมซุนแวบหนึ่ง ในแววตาเต็มไปด้วยเจตนาที่เยือกเย็นในเมื่อพวกเขาวางกับดักทั่วสิบทิศคิดจะฆ่านาง เช่นนั้นก็อย่าโทษว่านางโหดเหี้ยม ใช้แผนซ้อนแผนดึงพวกเขาเข้ามาเอี่ยวทีละคน แบกรับไม่ไหวก็ต้องรับให้ได้!นางค่อยๆ ยื่นตัวตรง กลืนคำพูดที่มาถึงปลายลิ้นกลับเข้าไปเมื่อเงยหน้าอีกครั้ง บนใบหน้าเผยให้เห็นความตื่นตระหนกเสี้ยวหนึ่ง  พลันขอความช่วยเหลือจากป๋ายชีอย่างประหม่า “ป๋าย…ป๋ายชี ช่วยอะไรข้าหน่อยได้หรือไม่…”ป๋ายชีกำลังโมโหเรื่องที่นางฉีกหนังสือแต่งงาน ตอนนี้ไม่อยากสนใจนางด้วยซ้ำ จึงเบี่ยงหน้าไปทางอื่นเสิ่นอวี้มองไปทางจ้านอวิ๋นเซียว“...”จ้านอวิ๋นเซียว
Read more
บทที่ 20
เมื่อนึกถึงวันนี้ในชาติที่แล้ว ฮ่องเต้ยอมให้องค์ชายสามและเจ้ากรมซุนทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ รอหลังจากเสิ่นจ้านสองตระกูลแตกหัก เขาทิ้งคำพูดไว้เพียงประโยคเดียวอย่างไม่ใส่ใจ “วันนี้อ๋องหมิงหยางได้รับความขุ่นเคือง ข้ารู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก วันหลังจะหาการแต่งงานดีๆ ให้เจ้า!”เมื่อหันศีรษะก็มีราชโองการฉบับหนึ่งลงมา แต่งตั้งลูกพี่ลูกน้องขององค์ชายสามเป็นองค์หญิง ประทานการแต่งงานให้จ้านอวิ๋นเซียว ช่วยองค์ชายสามฝังเบี้ยหนึ่งเม็ดไว้ในจวนอ๋องหมิงหยางหากบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ใครจะเชื่อ?เกรงว่าเขาคงกลัวจ้านอวิ๋นเซียวเป็นภัยคุกคามบัลลังก์ของเขานานแล้ว จึงอยากกำจัดเขา!อย่างไรก็ตาม จ้านอวิ๋นเซียวได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องและขุนพลตอนอายุสิบสี่ปี อายุยังน้อยก็อยู่ใต้คนคนเดียวและอยู่เหนือคนนับหมื่น ส่วนฮ่องเต้อายุเกินครึ่งร้อย เริ่มเห็นหงอกบนผมแล้ว ควบคู่กับแม้ลูกชายทั้งหลายของเขาก็ไม่นับว่าด้อย ทว่ากลับไม่มีใครใช่คู่ต่อสู้ของจ้านอวิ๋นเซียวเมื่อรอเขาอายุร้อยปี เกรงว่าพื้นแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ จะเปลี่ยนเป็นเเซ่จ้านแล้ว! เขาย่อมอยากให้จ้านอวิ๋นเซียวสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด!เมื่อไรที่จ้านอวิ๋น
Read more
PREV
123456
...
10
DMCA.com Protection Status